ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยในจังหวัดชายแดนใต้ ผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ และเมื่อเกิดความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ ก็ทรงห่วงใย ได้พระราชทานพระราชดำรัส “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้กับหน่วยงานรัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้นำไปปฏิบัติ
พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ทำให้ศิลปินชาวใต้ซึ่งรวมตัวกันในนาม “ชมรมศิลปินชายแดนใต้” จัดนิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2558 และที่สำคัญเพื่อแสดงออกถึงความรักและภักดีที่มีต่อ “ในหลวง” อย่างสุดหัวใจ โดยนิทรรศการนี้ได้จัดต่อเนื่องกันมาทุกปี และปีนี้เป็นปีที่ 5
วินัย สุขวิน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้ บอกเล่าถึงหลักการและเหตุผลในการจัดงาน “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” ครั้งที่ 5 ว่า
ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 นี้ ชมรมศิลปินชายแดนใต้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระเมตตาและน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นต่อพสกนิกรชาวไทยในจังหวัดชายแดนใต้ ผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ มาโดยตลอด
ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมรมศิลปินชายแดนใต้จึงได้รวมตัวกัน จัดนิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” โดยการนำภาพเขียน ภาพถ่าย และงานศิลป์แขนงต่างๆ ของศิลปินชายแดนใต้ ที่ถ่ายทอดพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ รวมถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเรื่องราวประทับใจในจังหวัดชายแดนใต้ สื่อถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาจัดแสดงให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกิจกรรมและชมผลงานทางศิลปะ ในช่วงเดือนมหามงคล ธันวาคม 2558 นี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้บอกว่า เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา เพื่อให้ชมรมศิลปินในจังหวัดชายแดนใต้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในท้องถิ่นผ่านงานศิลป์ และเผยแพร่แก่สาธารณชน เพื่อปลูกจิตสำนึกของคนในสังคมให้เกิดความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมแข่งขันประกวดวาดภาพ เพื่อส่งเสริมอาชีพของคนทำงานด้านศิลปะที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะและผ่อนคลายจิตใจจากสถานการณ์ภาคใต้
ทั้งนี้ นิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ณ ศูนย์การค้าโคลีเซี่ยม ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา
• อาจารย์ศฤงคาร กิติวินิต อาจารย์ภาควิชาศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เจ้าของภาพ “ทรงพระเจริญ” ซึ่งภายในแถบสีธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์ เรียงร้อยต่อกันด้วยถ้อยคำว่า “เรารักในหลวง” และ “ทรงพระเจริญ” ได้บอกถึงแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้ว่า
“ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนทั้งชาติ ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสอนให้รู้จักหลักความพอเพียง ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง
จึงไม่แปลกที่คนไทยทุกคนจะรักและจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน พระมหากษัตริย์นักพัฒนาผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
• วินัย สุขวิน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้ ได้เล่าถึงความรู้สึกในการวาดภาพ “รักในหลวง” “ทรงพระเจริญ” ว่า
“คำว่า “รักในหลวง” “ทรงพระเจริญ” สองคำนี้เชื่อว่าเป็นคำที่คนไทยคุ้นชิน และอยู่ในความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศมาโดยตลอด ผมจึงใช้สองคำนี้มาถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ และใช้ธาตุทางศิลปะสร้างสรรค์เป็นรูปธรรม แทนความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน
ผมรักในหลวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
• อ๊อด ศรีสมัย ศิลปินอิสระ ผู้เขียนภาพ “น้ำพระทัยสู่ชาวนาไทย” ได้ถ่ายทอดความรู้สึกและความประทับใจในการเขียนภาพนี้ว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญแก่การทำอาชีพเกษตรของประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาชีพการทำนา ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจและโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น นาข้าวทดลอง โครงการธนาคารข้าว เป็นต้น
พระองค์ทรงช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องดินและน้ำ เพื่อส่งเสริมอาชีพทำนา และให้เกษตรกรมีขวัญและกำลังใจที่จะปลูกข้าวให้คนไทยได้กิน
ผมจึงได้เก็บภาพความประทับใจในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน มาถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านในนิทรรศการครั้งนี้”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 180 ธันวาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)
พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ทำให้ศิลปินชาวใต้ซึ่งรวมตัวกันในนาม “ชมรมศิลปินชายแดนใต้” จัดนิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” เพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2558 และที่สำคัญเพื่อแสดงออกถึงความรักและภักดีที่มีต่อ “ในหลวง” อย่างสุดหัวใจ โดยนิทรรศการนี้ได้จัดต่อเนื่องกันมาทุกปี และปีนี้เป็นปีที่ 5
วินัย สุขวิน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้ บอกเล่าถึงหลักการและเหตุผลในการจัดงาน “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” ครั้งที่ 5 ว่า
ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2558 นี้ ชมรมศิลปินชายแดนใต้มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระเมตตาและน้ำพระทัยที่เปี่ยมล้นต่อพสกนิกรชาวไทยในจังหวัดชายแดนใต้ ผ่านโครงการพระราชดำริต่างๆ มาโดยตลอด
ดังนั้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ และแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชมรมศิลปินชายแดนใต้จึงได้รวมตัวกัน จัดนิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” โดยการนำภาพเขียน ภาพถ่าย และงานศิลป์แขนงต่างๆ ของศิลปินชายแดนใต้ ที่ถ่ายทอดพระจริยวัตรอันงดงามของพระองค์ รวมถึงวัฒนธรรม วิถีชีวิต และเรื่องราวประทับใจในจังหวัดชายแดนใต้ สื่อถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาจัดแสดงให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ได้ร่วมกิจกรรมและชมผลงานทางศิลปะ ในช่วงเดือนมหามงคล ธันวาคม 2558 นี้
สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงาน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้บอกว่า เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 88 พรรษา เพื่อให้ชมรมศิลปินในจังหวัดชายแดนใต้ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวในท้องถิ่นผ่านงานศิลป์ และเผยแพร่แก่สาธารณชน เพื่อปลูกจิตสำนึกของคนในสังคมให้เกิดความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ นักเรียน นักศึกษา ได้ร่วมแข่งขันประกวดวาดภาพ เพื่อส่งเสริมอาชีพของคนทำงานด้านศิลปะที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะและผ่อนคลายจิตใจจากสถานการณ์ภาคใต้
ทั้งนี้ นิทรรศการ “สร้างศิลป์ถิ่นใต้ เทิดไท้องค์ราชัน 88 พรรษา” จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ณ ศูนย์การค้าโคลีเซี่ยม ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา
• อาจารย์ศฤงคาร กิติวินิต อาจารย์ภาควิชาศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เจ้าของภาพ “ทรงพระเจริญ” ซึ่งภายในแถบสีธงชาติและพระบรมฉายาลักษณ์ เรียงร้อยต่อกันด้วยถ้อยคำว่า “เรารักในหลวง” และ “ทรงพระเจริญ” ได้บอกถึงแรงบันดาลใจในการสร้างผลงานชิ้นนี้ว่า
“ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนทั้งชาติ ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสอนให้รู้จักหลักความพอเพียง ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง
จึงไม่แปลกที่คนไทยทุกคนจะรักและจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน พระมหากษัตริย์นักพัฒนาผู้เสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
• วินัย สุขวิน ประธานชมรมศิลปินชายแดนใต้ ได้เล่าถึงความรู้สึกในการวาดภาพ “รักในหลวง” “ทรงพระเจริญ” ว่า
“คำว่า “รักในหลวง” “ทรงพระเจริญ” สองคำนี้เชื่อว่าเป็นคำที่คนไทยคุ้นชิน และอยู่ในความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศมาโดยตลอด ผมจึงใช้สองคำนี้มาถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ และใช้ธาตุทางศิลปะสร้างสรรค์เป็นรูปธรรม แทนความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน
ผมรักในหลวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ”
• อ๊อด ศรีสมัย ศิลปินอิสระ ผู้เขียนภาพ “น้ำพระทัยสู่ชาวนาไทย” ได้ถ่ายทอดความรู้สึกและความประทับใจในการเขียนภาพนี้ว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญแก่การทำอาชีพเกษตรของประชาชนชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอาชีพการทำนา ดังจะเห็นได้จากพระราชกรณียกิจและโครงการพระราชดำริต่างๆ เช่น นาข้าวทดลอง โครงการธนาคารข้าว เป็นต้น
พระองค์ทรงช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องดินและน้ำ เพื่อส่งเสริมอาชีพทำนา และให้เกษตรกรมีขวัญและกำลังใจที่จะปลูกข้าวให้คนไทยได้กิน
ผมจึงได้เก็บภาพความประทับใจในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน มาถ่ายทอดผ่านงานศิลปะ เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ท่านในนิทรรศการครั้งนี้”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 180 ธันวาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)