• นายกฯเชิญชวนคนไทยร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ - bike for dad”
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 เป็นประธานแถลงการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปั่นเพื่อพ่อ bike for dad ว่า รัฐบาลได้น้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นแนวทางจัดกิจกรรม 5 ประการ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี กตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ ร่วมใจทดแทนพระคุณพ่อ
ในการนี้ รัฐบาลขอพระบรมราชานุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ในการจัดงาน ประกอบด้วย ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธยย่อ มวก. บนพื้นหลังสีเหลืองทอง ต่อด้วยข้อความอักษรภาษาอังกฤษ "Dad" ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD พร้อมพระราชทานคำว่า “ของขวัญของพ่อ...คือลูกรู้แทนคุณ”
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเป็นประธานนำขบวนประชาชนปั่นจักรยานในวันที่ 11 ธันวาคม 2558 เวลา 15.00 น. เริ่มต้นเส้นทางที่เป็นสิริมงคลจากบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ผ่านหลายเส้นทางสำคัญ เช่น ถนนราชปรารภ ถนนเจริญกรุง วงเวียนโอเดียน สะพานสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถนนราชดำเนินนอก เข้าสู่พระลานพระราชวังดุสิต ขณะที่ในส่วนภูมิภาคจะเริ่มจากศาลากลางจังหวัด แล้วผ่านศาสนสถาน และสถานที่สำคัญของจังหวัด
การปั่นจักรยานครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเสื้อยืดปั่นจักรยานให้ประชาชนทั่วประเทศ 100,000 ตัว พร้อมน้ำดื่มและสายรัดข้อมือ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีโขนกลางแปลงพระราชทาน ให้ประชาชนได้ชมระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
โอกาสนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนคนไทยทุกคนทั้งในและต่างประเทศที่จะจัดกิจกรรมพร้อมกันใน 70 ประเทศ ร่วมกันปั่นจักรยาน เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พ่อหลวงของแผ่นดิน" และร่วมเฝ้ารับเสด็จได้ตลอดเส้นทางปั่นจักรยาน
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำภาพบรรยากาศมาถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับชม และร่วมกับโทรทัศน์ร่วมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้ กิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD" จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยในกรุงเทพฯจุดเริ่มต้นเส้นทางจะเริ่มจากลานพระราชวังดุสิตไปตามถนนศรีอยุธยา ถนนราชปรารภ ถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราช ถนนจักรวรรดิ์ ถนนประชาธิปก ถนนอรุณอัมรินทร์ ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินนอก ระยะทางรวม 29 กิโลเมตร โดยมีจุดที่ประทับพัก 2 จุด ได้แก่ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพระราชวังเดิม โดยมีจุดร่วมขบวนจักรยาน 4 จุด ได้แก่ สวนลุมพินี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเวียนโอเดียน และวงเวียนใหญ่
• ม.อ.ทูลเกล้าถวายปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 367(5/2558) เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ได้มีมติให้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเศรษฐศาสตร์เกษตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และศิลปดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาในการพัฒนาด้านต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงพัฒนาประเทศชาติ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคให้มีความร่มเย็นเป็นอยู่ดีขึ้น โดยพระราชทานหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานให้มั่นคงก่อนพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น และพระราชทานแนวทางเพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤติ สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ภูมิอากาศ และเศรษฐกิจโลก บนพื้นฐานของคุณธรรมความเพียรและความรู้
ได้พระราชทานความช่วยเหลือแก่พสกนิกรด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้ง และป้องกันอุทกภัยแก่เกษตรกร รวมทั้งพระราชทาน “เกษตรทฤษฎีใหม่” ซึ่งเป็นการประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับภาคเกษตรโดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและยกระดับจากการเกษตรแบบพอมีพอกิน ซึ่งเกษตรกรสามารถเรียนรู้เข้าใจได้
และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยและทรงพระปรีชาสามารถทางศิลปกรรมแขนงต่างๆ มาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม เช่น ด้านอักษรศาสตร์และวรรณศิลป์ ด้านภาษาต่างประเทศ ด้านดนตรีและคีตศิลป์ จะเห็นได้จากผลงานพระราชนิพนธ์บทประพันธ์ คำร้องพระราชนิพนธ์บทเพลง ภาพวาดฝีพระหัตถ์และภาพถ่าย ทรงพระปรีชาสามารถในด้านการประยุกต์งานศิลปะเชื่อมโยงกับการสานสัมพันธ์กับนานาประเทศ
นอกจากนั้น ในส่วนของพระกรุณาธิคุณการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมต่อมหาวิทยาลัย ได้เสด็จทอดพระเนตรผลงานศิลปกรรมและเยี่ยมเยียนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร ณ วิทยาเขตปัตตานี และร่วมทรงดนตรีกับวงดนตรีของบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ เป็นต้น
• ประธานาธิบดีศรีลังกามอบพระพุทธรูปหินแกะสลัก ในโอกาสครบรอบ60ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย รับมอบพระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดความสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว น้ำหนัก 3.5 ตัน จากนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เนื่องในโอกาสครบรอบ60ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ศรีลังกา โดยมีพระเทพรัตนากร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานสงฆ์ในพิธี
โดยพระพุทธรูปดังกล่าวจะประดิษฐานไว้ ณ แท่นหน้าวิหารวัดธรรมาราม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้กราบสักการะต่อไป
• รัฐบาลเชิญผู้นำชาวพุทธ 13 ประเทศ ร่วมพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชฯ
ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2558 นั้น
นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายเชิญผู้นำสายต่างประเทศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ประชุมได้พิจารณาการประสานส่งหนังสือเชิญผู้นำชาวพุทธ 13 ประเทศ มาร่วมพิธีตามคำเชิญของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่ประสานงาน คาดว่าจะมีผู้นำชาวพุทธเดินทางมาร่วมพิธี 30 คน อาทิ จากประเทศศรีลังกา ญี่ปุ่น ภูฏาน จีน เนปาล เมียนมา ลาว กัมพูชา
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า คณะเหลืองรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รวบรวมพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวนกว่า 60,000 พระรูป ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ พระรูปส่วนพระองค์ และพระรูปด้านการปฏิบัติศาสนกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นพระรูปที่หาชมได้ยาก ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน จำนวนกว่า 500 พระรูป นำมารวบรวมจัดพิมพ์เป็นหนังสือชุดบวรธรรมบพิตร แจกให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 3 แสนเล่ม
ทั้งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน และผู้สนใจได้ศึกษาหลักธรรมที่มาจากพระรูปของสมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งน้อมนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต
ด้าน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้จัดทำที่คั่นหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธี โดยนำพระโอวาทของสมเด็จพระสังฆราช มาจัดพิมพ์เป็นที่คั่นหนังสือ 16 แบบ จำนวนพิมพ์ 3,650,000 แผ่น เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาถวายดอกไม้จันทน์ ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร รวมถึงสถานที่ทำพิธี และ 76 จังหวัด รวมทั้งจัดทำแผ่นพับที่ระลึก เนื่องในงานพระศพเป็นภาษาไทย และแปลย่อเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ส่วนการแสดงมหรสพนั้น ได้เตรียมจัดการแสดงโขน ตอนศึกแสงอาทิตย์ และศึกพรหมมาศ นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดการแสดงโขนหน้าไฟ การแสดงรำอาลัย เพื่อให้การแสดงสมพระเกียรติมากที่สุด
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของภาคประชาชน ในพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาส และ 46 วัดในพื้นที่ 46 เขตของกรุงเทพมหานคร ยกเว้น เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบฯ และเขตสัมพันธวงศ์ ในวันที่ 16 ธันวาคม โดยขบวนอัญเชิญพระศพฯ จะเคลื่อนออกจากตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ในเวลา 08.00 น.ไปตามถนนพระสุเมรุ ข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถนนราชดำเนินนอก ถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเกษม และเลี้ยวเข้าถนนหลวง ไปยังสุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส
กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ ส่งเสด็จ ได้ตลอดเส้นทาง 2 ฝั่งถนน ตั้งแต่ถนนพระสุเมรุ ถนนหลานหลวง ถนนกรุงเกษม และถนนหลวง พร้อมทั้งร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ณ ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ บริเวณวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาส และ 46 วัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สำหรับการจัดขบวนพระอิสริยยศงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จัดเป็น 2 ริ้วขบวน ได้แก่ ริ้วขบวนที่ 1 การเชิญพระโกศสู่พระเมรุ และริ้วขบวนที่ 2 การเชิญพระโกศเวียนรอบพระเมรุ ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระอิสริยยศงานพระศพฯ กำหนดการฝึกซ้อมย่อย ณ ลานอเนกประสงค์ กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 (เฉพาะทหาร) วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ครั้งที่ 2 (เฉพาะพลเรือน) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 และกำหนดซ้อมใหญ่ ณ พื้นที่จริง จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 ครั้งที่ 2 วันที่ 7 ธันวาคม 2558 และครั้งที่ 3 วันที่ 10 ธันวาคม 2558
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 180 ธันวาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 88 พรรษา 5 ธันวาคม 2558 เป็นประธานแถลงการจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปั่นเพื่อพ่อ bike for dad ว่า รัฐบาลได้น้อมนำพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นแนวทางจัดกิจกรรม 5 ประการ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติและแสดงความจงรักภักดี กตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ ร่วมใจทดแทนพระคุณพ่อ
ในการนี้ รัฐบาลขอพระบรมราชานุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ในการจัดงาน ประกอบด้วย ตราสัญลักษณ์ประจำพระองค์พระปรมาภิไธยย่อ ภปร. และพระนามาภิไธยย่อ มวก. บนพื้นหลังสีเหลืองทอง ต่อด้วยข้อความอักษรภาษาอังกฤษ "Dad" ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD พร้อมพระราชทานคำว่า “ของขวัญของพ่อ...คือลูกรู้แทนคุณ”
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะทรงเป็นประธานนำขบวนประชาชนปั่นจักรยานในวันที่ 11 ธันวาคม 2558 เวลา 15.00 น. เริ่มต้นเส้นทางที่เป็นสิริมงคลจากบริเวณพระลานพระราชวังดุสิต ผ่านหลายเส้นทางสำคัญ เช่น ถนนราชปรารภ ถนนเจริญกรุง วงเวียนโอเดียน สะพานสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ถนนราชดำเนินนอก เข้าสู่พระลานพระราชวังดุสิต ขณะที่ในส่วนภูมิภาคจะเริ่มจากศาลากลางจังหวัด แล้วผ่านศาสนสถาน และสถานที่สำคัญของจังหวัด
การปั่นจักรยานครั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานเสื้อยืดปั่นจักรยานให้ประชาชนทั่วประเทศ 100,000 ตัว พร้อมน้ำดื่มและสายรัดข้อมือ ทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีโขนกลางแปลงพระราชทาน ให้ประชาชนได้ชมระหว่างวันที่ 11 ถึง 13 ธันวาคม 2558 ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต เพื่อเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย
โอกาสนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนคนไทยทุกคนทั้งในและต่างประเทศที่จะจัดกิจกรรมพร้อมกันใน 70 ประเทศ ร่วมกันปั่นจักรยาน เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พ่อหลวงของแผ่นดิน" และร่วมเฝ้ารับเสด็จได้ตลอดเส้นทางปั่นจักรยาน
ด้านนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์ได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำภาพบรรยากาศมาถ่ายทอดให้ประชาชนได้รับชม และร่วมกับโทรทัศน์ร่วมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมตลอดเส้นทาง
ทั้งนี้ กิจกรรม "ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD" จะเริ่มกิจกรรมตั้งแต่เวลา 15.00 น. โดยในกรุงเทพฯจุดเริ่มต้นเส้นทางจะเริ่มจากลานพระราชวังดุสิตไปตามถนนศรีอยุธยา ถนนราชปรารภ ถนนราชดำริ ถนนพระราม 1 ถนนพญาไท ถนนพระราม 4 ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง ถนนเยาวราช ถนนจักรวรรดิ์ ถนนประชาธิปก ถนนอรุณอัมรินทร์ ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนราชดำเนินกลาง และถนนราชดำเนินนอก ระยะทางรวม 29 กิโลเมตร โดยมีจุดที่ประทับพัก 2 จุด ได้แก่ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และพระราชวังเดิม โดยมีจุดร่วมขบวนจักรยาน 4 จุด ได้แก่ สวนลุมพินี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วงเวียนโอเดียน และวงเวียนใหญ่
• ม.อ.ทูลเกล้าถวายปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิต แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย ครั้งที่ 367(5/2558) เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2558 ได้มีมติให้ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายปริญญาเศรษฐศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาเศรษฐศาสตร์เกษตร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และศิลปดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระปรีชาในการพัฒนาด้านต่างๆ เป็นอย่างยิ่ง ได้ทรงพัฒนาประเทศชาติ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรทั่วทุกภูมิภาคให้มีความร่มเย็นเป็นอยู่ดีขึ้น โดยพระราชทานหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจพื้นฐานให้มั่นคงก่อนพัฒนาในระดับที่สูงขึ้น และพระราชทานแนวทางเพื่อให้ประเทศรอดพ้นจากวิกฤติ สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ภูมิอากาศ และเศรษฐกิจโลก บนพื้นฐานของคุณธรรมความเพียรและความรู้
ได้พระราชทานความช่วยเหลือแก่พสกนิกรด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,000 โครงการ เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้ง และป้องกันอุทกภัยแก่เกษตรกร รวมทั้งพระราชทาน “เกษตรทฤษฎีใหม่” ซึ่งเป็นการประยุกต์เศรษฐกิจพอเพียงสำหรับภาคเกษตรโดยเฉพาะ เพื่อแก้ปัญหาความยากจนและยกระดับจากการเกษตรแบบพอมีพอกิน ซึ่งเกษตรกรสามารถเรียนรู้เข้าใจได้
และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยและทรงพระปรีชาสามารถทางศิลปกรรมแขนงต่างๆ มาตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม เช่น ด้านอักษรศาสตร์และวรรณศิลป์ ด้านภาษาต่างประเทศ ด้านดนตรีและคีตศิลป์ จะเห็นได้จากผลงานพระราชนิพนธ์บทประพันธ์ คำร้องพระราชนิพนธ์บทเพลง ภาพวาดฝีพระหัตถ์และภาพถ่าย ทรงพระปรีชาสามารถในด้านการประยุกต์งานศิลปะเชื่อมโยงกับการสานสัมพันธ์กับนานาประเทศ
นอกจากนั้น ในส่วนของพระกรุณาธิคุณการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมต่อมหาวิทยาลัย ได้เสด็จทอดพระเนตรผลงานศิลปกรรมและเยี่ยมเยียนเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร ณ วิทยาเขตปัตตานี และร่วมทรงดนตรีกับวงดนตรีของบุคลากรมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่วิทยาเขตหาดใหญ่ เป็นต้น
• ประธานาธิบดีศรีลังกามอบพระพุทธรูปหินแกะสลัก ในโอกาสครบรอบ60ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาลไทย รับมอบพระพุทธรูปหินแกะสลักขนาดความสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว น้ำหนัก 3.5 ตัน จากนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เนื่องในโอกาสครบรอบ60ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ศรีลังกา โดยมีพระเทพรัตนากร เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประธานสงฆ์ในพิธี
โดยพระพุทธรูปดังกล่าวจะประดิษฐานไว้ ณ แท่นหน้าวิหารวัดธรรมาราม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้กราบสักการะต่อไป
• รัฐบาลเชิญผู้นำชาวพุทธ 13 ประเทศ ร่วมพิธี พระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระสังฆราชฯ
ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2558 นั้น
นายชยพล พงษ์สีดา รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายเชิญผู้นำสายต่างประเทศ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ประชุมได้พิจารณาการประสานส่งหนังสือเชิญผู้นำชาวพุทธ 13 ประเทศ มาร่วมพิธีตามคำเชิญของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ 15-17 ธันวาคม 2558 โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่ประสานงาน คาดว่าจะมีผู้นำชาวพุทธเดินทางมาร่วมพิธี 30 คน อาทิ จากประเทศศรีลังกา ญี่ปุ่น ภูฏาน จีน เนปาล เมียนมา ลาว กัมพูชา
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เปิดเผยว่า คณะเหลืองรังษี วัดบวรนิเวศวิหาร ได้รวบรวมพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จำนวนกว่า 60,000 พระรูป ที่เกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ พระรูปส่วนพระองค์ และพระรูปด้านการปฏิบัติศาสนกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นพระรูปที่หาชมได้ยาก ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชน จำนวนกว่า 500 พระรูป นำมารวบรวมจัดพิมพ์เป็นหนังสือชุดบวรธรรมบพิตร แจกให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวน 3 แสนเล่ม
ทั้งนี้ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน และผู้สนใจได้ศึกษาหลักธรรมที่มาจากพระรูปของสมเด็จพระสังฆราช รวมทั้งน้อมนำหลักธรรมมาใช้ในการดำเนินชีวิต
ด้าน นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้จัดทำที่คั่นหนังสือที่ระลึกในงานพระราชพิธี โดยนำพระโอวาทของสมเด็จพระสังฆราช มาจัดพิมพ์เป็นที่คั่นหนังสือ 16 แบบ จำนวนพิมพ์ 3,650,000 แผ่น เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาถวายดอกไม้จันทน์ ที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร รวมถึงสถานที่ทำพิธี และ 76 จังหวัด รวมทั้งจัดทำแผ่นพับที่ระลึก เนื่องในงานพระศพเป็นภาษาไทย และแปลย่อเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ส่วนการแสดงมหรสพนั้น ได้เตรียมจัดการแสดงโขน ตอนศึกแสงอาทิตย์ และศึกพรหมมาศ นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดการแสดงโขนหน้าไฟ การแสดงรำอาลัย เพื่อให้การแสดงสมพระเกียรติมากที่สุด
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานครได้รับมอบหมายให้ดำเนินการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ของภาคประชาชน ในพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาส และ 46 วัดในพื้นที่ 46 เขตของกรุงเทพมหานคร ยกเว้น เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบฯ และเขตสัมพันธวงศ์ ในวันที่ 16 ธันวาคม โดยขบวนอัญเชิญพระศพฯ จะเคลื่อนออกจากตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ในเวลา 08.00 น.ไปตามถนนพระสุเมรุ ข้ามสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เข้าสู่ถนนราชดำเนินนอก ถนนหลานหลวง เลี้ยวขวาเข้าถนนกรุงเกษม และเลี้ยวเข้าถนนหลวง ไปยังสุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส
กรุงเทพมหานครจึงขอเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ ส่งเสด็จ ได้ตลอดเส้นทาง 2 ฝั่งถนน ตั้งแต่ถนนพระสุเมรุ ถนนหลานหลวง ถนนกรุงเกษม และถนนหลวง พร้อมทั้งร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ณ ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ บริเวณวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาส และ 46 วัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สำหรับการจัดขบวนพระอิสริยยศงานพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จัดเป็น 2 ริ้วขบวน ได้แก่ ริ้วขบวนที่ 1 การเชิญพระโกศสู่พระเมรุ และริ้วขบวนที่ 2 การเชิญพระโกศเวียนรอบพระเมรุ ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายจัดขบวนพระอิสริยยศงานพระศพฯ กำหนดการฝึกซ้อมย่อย ณ ลานอเนกประสงค์ กองทัพภาคที่ 1 จำนวน 2 ครั้ง ครั้งที่ 1 (เฉพาะทหาร) วันที่ 13 พฤศจิกายน 2558 ครั้งที่ 2 (เฉพาะพลเรือน) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 และกำหนดซ้อมใหญ่ ณ พื้นที่จริง จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2558 ครั้งที่ 2 วันที่ 7 ธันวาคม 2558 และครั้งที่ 3 วันที่ 10 ธันวาคม 2558
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 180 ธันวาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)