สวัสดีค่ะ มาพบกันอีกครั้งในเทศกาลถือศีลกินเจ หรือถือศีลกินผัก ซึ่งตรงกับวันที่ 13-21 ตุลาคม 2558 ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลงานนี้ “บัวน้อย” ก็ขอนำเรื่องเกี่ยวกับผัก ผลไม้ ที่แสนจะน่าตื่นตาตื่นใจมาให้ชมกัน เพื่อว่าจะได้เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่ไม่ชอบกินผัก หันมาลองลิ้มชิมรสผักที่อร่อยสดชื่นแบบธรรมชาติแท้ๆ แถมประโยชน์เพียบ (เดี๋ยวนี้ “บัวน้อย” ฉลาดขึ้นแล้ว ผักอะไรมาก็ฟาดเรียบ.. ฮิฮิ)
อ้อ..การกินเจนี้นอกจากห้ามกินเนื้อสัตว์แล้ว ยังห้ามกินผักฉุน 5 ประเภท คือ กระเทียม หัวหอม (รวมทั้งหอมแดง หอมขาว หัวหอมใหญ่ ต้นหอม) หลักเกียว (กระเทียมโทนจีน ไม่ค่อยพบในประเทศไทย) กุยช่าย และใบยาสูบ แต่บางครั้งผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ดร้อนก็ไม่กินกันด้วยนะคะ
กลับมาดูเรื่องที่ “บัวน้อย” นำมาฝอยดีกว่าค่ะ ว่าจะสมราคาคุยรึเปล่า
เรื่องนี้มีชื่อว่า “Foodscapes” หรือ “ทิวทัศน์อาหาร” เป็นอลังการงานสร้างสรรค์ขั้นเทพของ “คาร์ล วอร์เนอร์ (Carl Warner)” หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษ วัย 52 ปี นำเอาบรรดาอาหารต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ขนมปัง ธัญพืช ฯลฯ มาจัดสร้างเป็นภาพทิวทัศน์แบบสุดอเมซซิ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกว่าสุดยอด
ว่ากันว่าการทำ Foodscape นี้เป็นการเชื่อมโยงความงามของธรรมชาติเข้ากับความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติด้วยนะคะ อ้อ..ที่นำมาให้ชมนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่ง อยากชมแบบจุใจก็ไปที่ http://www.carlwarner.com/foodscapes/
• สร้างโลกในจินตนาการ
ก่อนที่วอร์เนอร์จะประสบความสำเร็จกับผลงานสร้างสรรค์ที่เขาเรียกว่า “Foodscapes” ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 7 ขวบ ซึ่งมักจะใช้เวลาไปกับการฟังดนตรี วาดรูป และสร้างโลกในจินตนาการ โดยได้แรงบันดาลใจจากภาพโปสเตอร์ที่ติดอยู่บนฝาห้องนอน ซึ่งวาดโดยศิลปินต่างๆ
พอโตขึ้นเขาก็เลยไปเรียนศิลปะที่วิทยาลัยศิลปะเมดสโตน เพราะอยากเป็นคนวาดรูป แต่เรียนไปเรียนมาก็รู้ตัวว่าเองเหมาะจะเป็นช่างภาพมากกว่า ก็เลยย้ายไปเรียนที่วิทยาลัยการพิมพ์ลอนดอน จนจบปริญญาตรีด้านการถ่ายรูป ภาพยนตร์ และโทรทัศน์
เมื่อเรียนจบก็ทำงานเป็นผู้ช่วยช่างภาพงานถ่ายโฆษณาได้ปีหนึ่ง ก็ออกมาเปิดสตูดิโอรับงานถ่ายภาพเอง แม้ว่าเขาจะประสบความสำเร็จ แต่พอทำไปเรื่อยๆ งานเริ่มน้อยลง เพราะว่าตัวงานขาดความคิดสร้างสรรค์ ไม่มีอะไรใหม่
• แรงบันดาลใจจากเห็ด สู่ Foodscapes
เผอิญวันหนึ่งขณะที่กำลังเดินในตลาด วอเนอร์เห็นเห็ดพอร์โทเบลโล ซึ่งเขาคิดว่ามันดูคล้ายต้นไม้ที่มาจากโลกอื่น จึงเกิดปิ๊งไอเดียบางอย่าง ก็เลยซื้อเจ้าเห็ดชนิดนี้รวมทั้งผักอื่นๆ เมล็ดข้าว และถั่ว นำมาสร้างเป็นภาพทิวทัศน์ขนาดย่อส่วนบนโต๊ะ
แล้วผลงาน Foodscapes ชิ้นแรกก็เกิดขึ้นอย่างสวยงาม เขาตั้งชื่อว่า “The Mushroom Savanna” หลังจากนั้นเขาได้พัฒนาวิธีการสร้างภาพทิวทัศน์ด้วยอาหารมาเรื่อยๆ และรูปแบบไอเดียสร้างสรรค์นี้เองที่เริ่มดึงดูดงานโฆษณา ที่เป็นสินค้าและแบรนด์เกี่ยวกับอาหาร ให้เข้ามาหาเขาอีกครั้ง
วอร์เนอร์บอกว่า “อาหารเป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจ เพราะมันเป็นเสมือนโลกใบใหญ่ ที่ซึ่งผู้คนได้ผูกพันธุ์ใกล้ชิดกับธรรมชาติ”
วิธีการทำงานของเขา เริ่มต้นด้วยการร่างภาพในใจคร่าวๆก่อน จากนั้นก็ร่างภาพขึ้นมาในกระดาษ แล้วคิดส่วนผสมที่จะใช้ เมื่อลงตัวแล้วก็วาดภาพที่สมบูรณ์ อธิบายให้กับทีมงานที่มีทั้งผู้สร้างแบบจำลองและนักออกแบบอาหาร
เขาลงมือสร้าง Foodscapes บนโต๊ะขนาดใหญ่ในสตูดิโอ โดยจะถ่ายรูปแต่ละฉาก ตั้งแต่ด้านหน้า ด้านหลัง และท้องฟ้า จากนั้นเอาแต่ละฉากมาวางรวมกันเป็นภาพที่สมบูรณ์ในที่สุด
วอร์เนอร์เผยถึงเคล็ดลับของงานนี้ว่า ความเรียบง่ายและวัตถุดิบสดใหม่ เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์
• Foodscapes สื่อเพื่อสุขภาพ
วอร์เนอร์ได้เขียนหนังสือ 2 เล่ม เล่มแรกชื่อ “Carl Warner’s Food Landscapes” รวบรวมผลงานในยุคแรกๆ ซึ่งเขาบอกว่า หลายโรงพยาบาล นักโภชนาการ และองค์กรการกุศล ได้ใช้ภาพของเขาเป็นสื่อในการส่งเสริมการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ การศึกษาทางด้านโภชนาการและอาหารที่ดี
ส่วนเล่มที่สอง ชื่อว่า “A World of Food” เป็นหนังสือสำหรับเด็ก โดยวอร์เนอร์ได้เขียนเรื่องประกอบภาพ บรรยายให้เด็กสามารถค้นหาเครื่องปรุงต่างๆที่อยู่ในภาพได้ด้วยตัวเอง เพราะเขาหวังให้งานของเขา เป็นสื่อที่ใช้ปรับเปลี่ยนทัศนคติด้านอาหารของเด็กๆ และส่งเสริมให้เด็กหันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีความรู้ด้านโภชนาการมากยิ่งขึ้น
• “ทำให้คนยิ้ม” คือ สิ่งที่ดีที่สุด
“ผมชอบที่จะทำให้คนยิ้ม” วอร์เนอร์บอก เขาจึงชอบสเก็ตช์ภาพทิวทัศน์ทั่วไป เพื่อหลอกคนดูให้คิดว่ามันเป็นวิวจริงๆ เมื่อมองดูครั้งแรก จนมารู้ว่า จริงๆแล้ว ภาพที่เห็นนั้นทำด้วยอาหาร ซึ่งเรียกรอยยิ้มจากผู้ชม “นี่เองเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม”
ศิลปินหนุ่มใหญ่ยังแนะด้วยว่า “สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำเมื่อคุณรู้สึกว่าไฟในตัวกำลังจะมอดไหม้ลงก็คือ หยุดพยายามที่จะคิดสร้างสรรค์อะไรก็ตาม แล้วเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก่อน หรืออ่านหนังสือใหม่ๆ หรือไปในที่ใหม่ๆ แล้วคุณก็จะได้ความคิดใหม่ๆเข้ามา”
วอร์เนอร์ย้ำว่า “จิตใจและจินตนาการของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ที่เราทุกคนสามารถเข้าถึงได้”
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 178 ตุลาคม 2558 โดย บัวน้อย)