มาแล้วจ้า...ฝนมาแล้วจ้า...ยามที่ฟ้าฉ่ำฝน ดินฉ่ำน้ำ ก็ถึงเวลาที่ต้นไม้ใบหญ้าจะชวนกันผลิดอกออกใบ มาเริงระบำอวดโฉมกันท่ามกลางสายฝน เพื่อตกแต่งให้โลกนี้สวยงาม แลดูสดชื่นชื่นรื่นรมย์
ดอกไม้นานาพรรณต่างรูปทรงและสีสัน ถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างขึ้น ให้มีความสวยสดงดงามแตกต่างกันไป เสน่ห์ของดอกไม้ ทำให้คนหลงใหลได้เสมอ
“บัวน้อย” เองก็ชอบดอกไม้ โดยเฉพาะดอกบัว ก็เลยมีชื่อว่า “บัวน้อย” ไงคะ ฮิฮิ..
แต่ดอกไม้ที่นำมาให้ชมกันในครั้งนี้ เป็นดอกไม้ที่ไม่ธรรมดา (ถ้าธรรมดาก็ไม่น่าตื่นตาตื่นใจซิคะ) มีรูปลักษณ์ที่ดูแปลกประหลาด จนคาดไม่ถึง บอกได้เลยว่า ดอกไม้ชุดนี้มีทั้งสวย น่ารัก และน่าสยอง
เมื่อเป็นดอกไม้ที่ไม่ธรรมดา ก็ต้องมีเคล็ดลับสำหรับชมแบบไม่ธรรมดา คือ เวลาดูดอกไม้ต้องดูให้ทะลุดอกไม้ ให้เห็นภาพ “จากดอกตูม แย้มบาน แล้วร่วงโรย” แล้วจะเห็นธรรมะที่แฝงอยู่ นั่นก็คือ กฎธรรมดาของสรรพสิ่งทั้งปวง ได้แก่ อนิจจัง ความไม่เที่ยง มีการแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา ทุกขัง ทนอยู่ในสภาพเดิมตลอดไปไม่ได้ และอนัตตา ไม่สามารถบังคับให้เป็นไปตามต้องการได้ เช่น ให้มีชีวิตยั่งยืนตลอดไป
ดูดอกไม้แล้วก็หันมาดูตัวเองบ้างนะคะ เพราะคนเราก็ต้องอยู่ในกฎธรรมดานี้เช่นเดียวกัน ดูแล้วจะได้เข้าใจชีวิตมากขึ้นค่ะ
• Swaddled Babies (กล้วยไม้ทารกในผ้าอ้อม)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Angloua uniflora เป็นกล้วยไม้ดินที่ขึ้นอยู่ตามเทือกเขาแอนดีส ในประเทศโคลัมเบีย ต้นสูงราว 18-24 นิ้ว ดอกมีขนาดใหญ่ สีขาวครีม เป็นมัน เมื่อดอกเริ่มบาน จะแลดูเหมือนเด็กทารกที่มีผ้าห่อหุ้มไว้ ดอกจะบานในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
• Hooker’s Lips (ต้นริมฝีปากนารี)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Psychotria elata มีถิ่นกำเนิดในเขตป่าฝนทางตอนกลางและใต้ของทวีปอเมริกาใต้ เช่น โคลัมเบีย, คอสตาริกา, ปานามา และเอกวาดอร์
เป็นต้นไม้ที่ผ่านวิวัฒนาการมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นสิ่งที่เห็นในปัจจุบัน เพื่อดึงดูดให้นกฮัมมิ่งเบิร์ดและผีเสื้อมาผสมเกสรดอกไม้ ส่วนที่แลดูคล้ายริมฝีปากสีแดงสดมันวาวน่าจูบนั้น เป็นกลีบฐานดอกที่มีลักษณะคล้ายใบไม้ ซึ่งจะบานออกอวดโฉมดอกแท้จริงซึ่งมีสีขาวสวยงาม
• Monkey Orchid (กล้วยไม้หน้าลิง)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dracula Simian เป็นกล้วยไม้พันธุ์หายาก มีถิ่นกำเนิดในป่าดงดิบทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอกวาดอร์และเปรู
กล้วยไม้หน้าลิงออกดอกตลอดทั้งปี ดอกมีกลิ่นหอมเหมือนส้มสุก เหตุที่ได้ชื่อว่า Monkey Orchid เป็นเพราะมีลักษณะกลีบดอก ที่แลดูเหมือนใบหน้าลิงจริงๆ
• Duck Orchid (กล้วยไม้เป็ดบิน)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caleana เป็นกล้วยไม้ดินขนาดเล็ก สูงราว 45 ซม. พบในประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่รัฐควีนส์แลนด์ไปทางตอนใต้ของประเทศ และเกาะแทสมาเนีย
ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มีสีน้ำตาลแดง (บางครั้งมีสีเขียวและจุดเข้ม ซึ่งหาได้ยาก) มีใบเดี่ยวที่โคนต้น ออกดอกในช่วงฤดูร้อน เหตุที่ถูกตั้งชื่อว่า Duck Orchid เนื่องจากกลีบดอกแลดูคล้ายเป็ดกำลังโผบินยกปีกสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลีบดอกบนที่ดูเหมือนปากเป็ด
• Ballerina Orchid (กล้วยไม้เต้นระบำ)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Caladenia melanema เป็นกล้วยไม้ขนาดเล็ก สูงราว 12 ซม. ขึ้นบนพื้นดิน เป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม ตามทุ่งหญ้าในประเทศออสเตรเลีย ผลิดอกในช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน
ดอกมีสีครีม แต้มด้วยสีน้ำตาลแดง กลีบดอกและกลีบเลี้ยงของดอกมีสีผสมระหว่างส้ม แดง และน้ำเงิน เมื่อมองโดยรวมแล้ว ดูราวกับหญิงสาวนุ่งกระโปรงสั้นสีขาว กำลังเต้นบัลเล่ต์อย่างสวยงาม
• Naked Man Orchid (เอื้องชายเปลือย)
มีอีกชื่อหนึ่งว่า กล้วยไม้อิตาเลียน มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Orchis italica เป็นกล้วยไม้ดิน สูงราว 50 ซม. ขึ้นเป็นกลุ่มหนาแน่นในเขตเมดิเตอร์เรเนียน ดอกมีสีม่วงอ่อนปนขาว ออกในเดือนเมษายน
เป็นกล้วยไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีรูปร่างประหลาดคล้ายมนุษย์ เพราะกลีบดอกมีลักษณะเหมือนผู้ชายเปลือยกาย ที่ใครเห็นเป็นต้องรู้สึกอึ้ง..ทึ่ง..ฮา
• Dove Orchid/Holy Ghost Orchid (กล้วยไม้นกพิราบ)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Peristeria เป็นกล้วยไม้ดิน สูงประมาณเมตรเศษ พบได้ทั่วไปในทวีปอเมริกาใต้ ตั้งแต่ประเทศปานามา ตรินิแดด และคอสตาริกา
เป็นกล้วยไม้ที่ให้ความรู้สึกสงบยามได้มอง ผลิดอกในเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม ดอกมีสีขาว เมื่อมองกลีบดอกที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน จะดูคล้ายนกพิราบที่มีจะงอยปากสีเหลือง กำลังนั่งอยู่ตรงกลาง ยกปีกทั้งสองข้างที่มีลายจุดๆสีชมพูขึ้น จึงเป็นที่มาของชื่อดอกกล้วยไม้นี้
และที่สำคัญยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศปานามา
• Snapdragon and its Skull (ดอกไม้มังกร หรือดอกกะโหลกมังกร)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Antirrhinum พบได้ตามบริเวณเทือกเขาในทวีปยุโรป อเมริกา และอัฟริกาตอนเหนือ เป็นดอกไม้ที่แลดูแปลกประหลาด คือเมื่อบีบกลีบดอกเข้าด้วยกัน จะดูเหมือนหน้ามังกรที่อ้าปากและหุบปาก และเมื่อกลีบดอกเหี่ยวเฉาร่วงโรย เหลือเพียงฝักเมล็ด จะกลายเป็นภาพน่าสยองชวนขนลุก เพราะมันดูเหมือนหัวกะโหลกชัดๆ
คนโบราณเชื่อว่า ดอกไม้มังกรมีพลังเหนือธรรมชาติแฝงอยู่ หากปลูกภายในบ้าน จะช่วยขจัดปัดเป่าโรคร้าย หรือถ้าเอาไปให้ผู้หญิงกิน จะไม่แก่ไม่เฒ่า เป็นสาวไปตลอดกาล
• Parrot Flower (ดอกเทียนนกแก้ว)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Impatiens psittacina อยู่ในวงศ์ยางไม้หอม เป็นดอกไม้แปลกตาหายากที่ขึ้นเฉพาะในไทย พม่า และอินเดีย บริเวณที่มีอากาศหนาวเย็น ดอกมีสีม่วงและสีแดงเลือดนก
ใน ค.ศ. 1901 เซอร์โจเซฟ ดาลตัน ฮุคเกอร์ นักพฤกษศาสตร์และนักสำรวจชาวอังกฤษ ได้ตีพิมพ์คำบรรยายไว้ว่า เมื่อดอกบาน มองจากด้านข้าง ดูคล้ายนกแก้วกำลังโบยบิน ตั้งแต่นั้นมา จึงเรียกดอกไม้นี้ว่า Parrot Flower
• Bleeding Heart (ดอกหัวใจหลั่งเลือด หรือดอกหทัยหยาดทิพย์)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Lamprocapnos spectabilis อยู่ในวงศ์ดอกป๊อปปี้ เป็นดอกไม้พื้นเมืองในไซบีเรีย เกาหลี ญี่ปุ่น และทางเหนือของจีน ผลิดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิและต้นฤดูร้อน
ดอกหัวใจหลั่งเลือด เรียกตามลักษณะกลีบดอกที่ดูคล้ายรูปหัวใจขณะยังเป็นดอกตูม ซึ่งปลายแหลมด้านล่างมีติ่งสีแดงคล้ายหยดเลือด กลีบดอกด้านนอกมีสีแดงอมม่วง เมื่อดอกบาน กลีบจะเปิดออกเผยให้เห็นส่วนภายในเป็นสีขาวที่เรียกว่า “หญิงสาวอาบน้ำ” เด่นชัดขึ้น เห็นสวยๆอย่างนี้ อย่าคิดไปสัมผัส เพราะมีพิษที่ทำให้ผิวหนังระคายเคือง
• Happy Alien Plant (ดอกมนุษย์ต่างดาวแสนสุข)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Calceolaria Uniflora เป็นดอกไม้หน้าตาประหลาดที่เขียวชอุ่มตลอดปี มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ชาร์ลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ เป็นผู้ค้นพบครั้งแรกขณะเดินทางทั่วอเมริกาใต้ ระหว่างค.ศ. 1831-1836
ลำต้นสูงไม่เกิน 4-5 นิ้ว ออกดอกตลอดฤดูร้อน เมื่อดอกบานมีลักษณะคล้ายถุง ยาวประมาณ 2 นิ้ว มีสีเหลืองส้ม แต้มด้วยจุดด่างสีแดง ส่วนที่มีลักษณะเหมือนปากอ้า มีแถบสีขาว เพื่อล่อนกเข้ามากินและผสมเกสร
• Laughing Bumble Bee Orchid (กล้วยไม้ผึ้งหัวเราะ)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ophrys bomybliflora พบทั่วไปในเขตเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งแต่ประเทศโปรตุเกส หมู่เกาะคานารี จนถึงตุรกี เลบานอน และเติร์กเมนิสถาน ในยุโรปเรียกว่า “กล้วยไม้ผึ้ง” เนื่องจากกลีบดอกมีลักษณะคล้ายผึ้งขนปุย
ดอกมีสีม่วงเจือสีแดงเข้ม ส่งกลิ่นหอมเลียนแบบผึ้งตัวเมีย เพื่อดึงดูดผึ้งตัวผู้ให้เข้ามาผสมเกสร เชื่อกันว่า ผึ้งตัวผู้มักเลือกดอกที่เข้าใจว่าเป็นผึ้งตัวเมียมากที่สุด เพื่อพยายามผสมพันธุ์และถ่ายเทละอองเกสร
• Angel Orchid (กล้วยไม้นางฟ้า)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Habenaria Grandifloriformis โดยทั่วไปเรียกว่า กล้วยไม้บึง เป็นกล้วยไม้ที่มีความอ่อนช้อย งดงาม ขึ้นในทุ่งหญ้าเปิดที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย
แต่ละต้นมีก้านดอกไม่เกิน 5 ก้าน สูงไม่เกิน 12 ซม. และออกดอกก้านละดอก ลักษณะเป็นกลีบสีขาว 2 กลีบ วางซ้อนกัน ดูคล้ายนางฟ้าสวมเสื้อคลุม กำลังลอยละล่อง ดอกจะบานในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูมรสุม
• Darth Vader (ดอกดาร์ท เวเดอร์)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aristolochia Salvadorensis เป็นดอกไม้พื้นเมืองของประเทศบราซิล เป็นพันธุ์ไม้หน้าตาแปลกประหลาดหายาก ออกดอกในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน
คนทั่วไปมักเรียกว่า ดอกดาร์ท เวเดอร์ เนื่องจากลักษณะเปลือกเรียบ รูปร่างคล้ายคนสวมหน้ากาก เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ดังเรื่องสตาร์ วอร์ส ที่มีชื่อว่า “ดาร์ท เวเดอร์”
สาเหตุที่ทำให้มันมีหน้าตาและสีเช่นนี้ เนื่องจากตั้งใจให้ดูเหมือนเนื้อที่กำลังเน่าเปื่อยและส่งกลิ่นเหม็น ดูน่าขยะแขยง เพื่อดึงดูดให้แมลงเข้ามาผสมเกสรนั่นเอง
• White Egret Orchid (กล้วยไม้นกกระยางขาว)
มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Habenaria radiata อยู่ในตระกูลกล้วยไม้ พบในจีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย มักเรียกกันว่า กล้วยไม้นกกระยางขาว กล้วยไม้ฝอย หรือซากิโซะ อันเป็นดอกไม้ประจำเขตเซตะกายะ ในกรุงโตเกียว
ลักษณะช่อดอกจะเป็นขั้ว มีกลีบดอกสีขาวยื่นออกมา แผ่กางออก ดูคล้ายนกกระยางกางปีกบิน
• Orchid Mantis (ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้)
ทีเด็ดสุดท้าย เป็นเรื่องของสัตว์ที่อยากทำตัวเป็นคุณแอบเลียนแบบดอกไม้บ้าง นั่นคือ ตั๊กแตนตำข้าวที่อำพรางกายให้ดูเหมือนดอกกล้วยไม้ พบทั่วไปในป่าเขตร้อนชื้นแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อาทิ ตั๊กแตนต่อยมวยกล้วยไม้ ตั๊กแตนตำข้าวกล้วยไม้สีชมพู ตามความคล้ายคลึงและพฤติกรรมที่เลียนแบบดอกกล้วยไม้ ลำตัวของมันมีสีสันสดใส หรือขาวล้วน และมีลักษณะพิเศษ คือ สามารถเปลี่ยนสีได้
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 177 กันยายน 2558 โดย บัวน้อย)