xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : อภ.แนะใช้ยาลดความดันโลหิต ต้องต่อเนื่องและตรงเวลาทุกวัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


องค์การเภสัชกรรม(อภ.) แนะนำให้ใช้ยาลดความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง และตรงเวลาทุกวัน ระหว่างที่รักษาด้วยยาลดความดันโลหิต ควรรับประทานอาหารที่มีโซเดียมต่ำ เลี่ยงการรับประทานเค็ม งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำ

เภสัชกรหญิงวนิชา ใจสำราญ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ยาลดความดันโลหิตเป็นยาที่ควบคุมความดันโลหิตให้อยู่ในระดับการรักษา แต่ไม่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจึงต้องใช้ยาต่อเนื่องกันทุกวันเป็นเวลานาน

การหยุดยาเองอย่างกะทันหัน อาจเกิดผลเสียอย่างร้ายแรงได้ เช่น เส้นเลือดในสมองแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือเสียชีวิต

สำหรับวิธีรับประทานยาลดความดันโลหิต ควรรับประทานตามขนาดยาที่แพทย์สั่งให้ ตรงเวลาทุกวันในเวลาที่แน่นอนจึงจะได้ผลดี เช่น หลังแปรงฟันตอนเช้า หรือก่อนนอนของทุกๆวัน ถ้าลืมรับประทาน ควรรับประทานทันทีที่นึกได้ แต่ถ้าใกล้ถึงเวลาของยามื้อต่อไป ให้งดมื้อที่ลืม และรับประทานมื้อปกติในขนาดปกติ ห้ามรับประทานเพิ่มเป็น 2 เท่าอย่างเด็ดขาด!! เพราะอาจเป็นอันตราย

ยาลดความดันบางชนิดเป็นยาออกฤทธิ์เนิ่น ไม่ควรบด หรือแบ่งหรือเคี้ยวเม็ดยานั้น เพราะจะทำให้คุณสมบัติของยาเสียไป ควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำ 1 แก้ว บางชนิดไม่ควรรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูง เช่น อาหารทอด อาหารที่มีกะทิ เป็นต้น บางชนิดอาจทำให้มึนงงง่วงซึมได้ จึงไม่ควรขับรถหรือทำงานกับเครื่องจักรที่อาจทำอันตรายได้

ผู้มีภาวะความดันโลหิตสูงควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดในการรับประทานยาและการปฏิบัติตัว

เภสัชกรหญิงวนิชา กล่าวต่อว่า ผู้รับประทานยาลดความดันโลหิต อาจมีอาการข้างเคียง เช่น รู้สึกหน้ามืดหรือเป็นลมเวลาลุกจากเก้าอี้หรือลุกจากเตียง ควรลุกอย่างช้าๆ หากยังมีอาการข้างเคียงมาก ควรพบแพทย์หรือปรับขนาดยาหรือเปลี่ยนยาชนิดอื่น

ส่วนอาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น ผื่นขึ้นแดงและคันมาก เจ็บคอ มีไข้ หายใจขัด หอบ มีอาการบวมในที่ต่างๆ เช่น หนังตา ริมฝีปาก ลิ้น แขน ขา ใบหน้า ให้หยุดยา และรีบไปพบแพทย์ทันทีโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด

สำหรับข้อควรระวังอื่นๆ ได้แก่ ก่อนใช้ยาลดความดันโลหิต ควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่า มีโรคประจำตัวอะไรอยู่ เช่น โรคตับ โรคไต โรคเบาหวาน หรือรับประทานยาอะไรอยู่ก่อน เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาหรืออาหารที่มีโปแตสเซียมเสริม เป็นต้น

นอกจากนี้ ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ระหว่างที่รักษาด้วยยาลดความดันโลหิต และทุกครั้งที่ไปพบแพทย์โรคอื่นๆ หรือทันตแพทย์ ควรแจ้งชื่อยาลดความดันโลหิตที่ใช้ให้แพทย์ทราบด้วย

ที่สำคัญไม่ควรนำยาลดความดันโลหิตที่ใช้อยู่ ให้คนอื่นรับประทานโดยไม่ผ่านการตรวจจากแพทย์ก่อน เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 173 พฤษภาคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)
กำลังโหลดความคิดเห็น