เผยตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรติ “สมเด็จพระเทพฯ” ครบ 5 รอบ เชิญชวนใส่ “เสื้อสีม่วง” ตลอดเดือนเมษา 58
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้เผยแพร่ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 5 รอบ ในวันที่ 2 เมษายน 2558 ซึ่งรัฐบาลโดยคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้มีตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ และความหมายด้วยแล้ว
ในโอกาสนี้ คณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ จึงขอเชิญชวนประดับธงตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน โดยประดับในระยะเวลาของการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ส่วนผืนผ้าของธงตราสัญลักษณ์เป็นสีม่วง
นอกจากนี้ ขอเชิญชวนแต่งกายด้วยเสื้อสีม่วง ประดับตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตลอดเดือนเมษายน 2558 หรือตามอัธยาศัยและความเหมาะสม กรณีที่หน่วยงานหรือประชาชนมีความประสงค์นำตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 เพื่อประดับในโครงการ กิจกรรม หรือสิ่งของใดๆ ก็ตาม ให้ขอพระราชทานพระราชานุญาตไปยังกองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำนักราชเลขาธิการ ในสวนจิตรลดา โทร. 0-2280-1640-1 ต่อ 123
สำหรับตราสัญลักษณ์เฉลิมพระเกียรตินี้ ออกแบบโดยนายสมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโส กรมศิลปากร โดยรายละเอียดรูปตราสัญลักษณ์ มีดังนี้
อักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. ภายในกรอบสุพรรณเบญจเพชรรัตน์ อักษร ส. สีม่วงชาดแก่ อักษร ธ. สีขาว บนพื้นสีม่วงครามอ่อน เป็นสีวันพระราชสมภพ ดวงเพชรรัตน์ 5 ดวงหมายถึง ทรงเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ อักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. อยู่ภายใต้พระชฎาพระกลีบปักพระยี่ก่าทอง ไม่ประกอบพระกรรเจียกจร เบื้องหลังพระชฎามีพระบวรเศวตฉัตร (พระสัตตปฎลเศวตฉัตร) คือ ฉัตรขาว 7 ชั้น แต่ละชั้นมีระบายขลิบทองแผ่ลวด 3 ชั้น ชั้นล่างสุดห้อยอุบะจำปาทองเป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมราชกุมารี ทั้งสองข้างกรอบพระนามาภิไธย มีรูปเทพยดา พระกรหนึ่งประคองเชิญพระบวรเศวตฉัตร พระกรหนึ่งกระชับเถาบัวทองไว้ ขัดพระขรรค์ ทรงเศวตพัสตราภรณ์ เขียนทอง เทพยดาข้างเลข ๖ (ด้านซ้าย) ทรงพระชฎาเดินหน ปักพระยี่ก่าดอกไม้ทอง ทัดพระกรรเจียกจร และเทพยดาข้างเลข ๐ (ด้านขวา) ทรงพระชฎามหากฐิน (พระชฎาห้ายอด) ปักพระยี่ก่าดอกไม้ทอง ทัดพระกรรเจียกจร หมายถึง เทพยดาทรงมาบริรักษ์เฉลิมฉลองในมหามงคลกาลนี้ ให้ทรงเจริญพระสิริสวัสดิ์ พูนพิพัฒน์พระเกียรติยศยิ่ง พ้นสิ่งสรรพทุกข์โรคันตรายทั้งปวง
อนึ่ง เถาบัวทอง หมายถึง ทรงเนานิเวศน์นามว่า “สระปทุม” ใต้กรอบพระนามาภิไธย มีเลขมหามงคล ๖๐ ว่า ทรงพระเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา บนพื้นสีหงสบาท (ส้มอ่อนหรือสีเท้าหงส์) เป็นสีวันพฤหัสบดี ในคัมภีร์พระไสยศาสตร์ว่าเป็นมงคลอายุของวันพระราชสมภพ ถัดลงมามีเชิงลายถมสีหงชาด (ชมพู) เขียนอักษรไทยย่อสีทองว่า “ฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ” และ “๒ เมษายน ๒๕๕๘” บนห้องลายพื้นสีขาวถัดลงมา สะท้อนถึงทรงเชี่ยวชาญด้านอักษรโบราณและการโบราณคดีทั้งปวงด้วย
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อันมีทิพเนตรส่องไป”
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2557 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ทรงเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อันมีทิพเนตรส่องไป” ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2557 จัดโดยสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ระหว่างวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 8 มีนาคม 2558
ในการนี้ทรงบรรยายภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และที่มาของชื่อหนังสือ “อันมีทิพเนตรส่องไป” ว่า “...ในปีนี้แปลกกว่าปีที่ผ่านมา คือ มีภาพที่ถ่ายด้วยกล้องโทรทรรศน์ เป็นการถ่ายภาพดวงดาว กระจุกดาว และเนบิวลา ที่อยู่ห่างไกลมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น การใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนชนิดส่องกราดถ่ายภาพ ทำให้เห็นโครงสร้างเล็กๆ และได้เห็นใบของพืชที่มีกระเปาะน้ำมันให้กลิ่น ซึ่งเป็นแคปซูลระดับนาโน และการใช้ยานไร้คนขับหรือโดรน ในการถ่ายภาพจากที่สูง เครื่องมือเหล่านี้ทำให้ได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเห็นได้ จึงเป็นที่มาของชื่อหนังสือ 'อันมีทิพเนตรส่องไป' ซึ่งมาจากบทกลอนเรื่องอิเหนา ตอน 'จรการำกฤช' ส่วนภาพอื่นๆ เป็นศิลปะแปลกๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ”
นิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อันมีทิพเนตรส่องไป” จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้ร่วมตามรอยการเสด็จพระราชดำเนิน และชื่นชมพระอัจฉริยภาพด้านการถ่ายภาพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ที่พระราชทานให้มาจัดแสดงครั้งนี้ ทรงบันทึกไว้ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ช่วงปี 2556-2557 จำนวน 158 ภาพ นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ “อันมีทิพเนตรส่องไป” รายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
• กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัด 3 กิจกรรมด้านศิลปะยิ่งใหญ่ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ “องค์วิศิษฏศิลปิน”
นางสาวนันทิยา สว่างวุฒิธรรม อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา วันที่ 2 เมษายน 2558 กรมส่งเสริมวัฒนธรรมเตรียมจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ 3 กิจกรรม เพื่อเทิดพระเกียรติในฐานะที่ทรงเป็นองค์วิศิษฏศิลปิน ประกอบด้วย
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดย กมล ทัศนาญชลี และเพื่อนศิลปิน ซึ่งจะจัดผลงานจิตรกรรม สื่อผสม ประติมากรรม ภาพพิมพ์ และเครื่องปั้นดินเผา จำนวนกว่า 50 ชิ้น จากผลงานของศิลปินแห่งชาติ จำนวน 19 คน ระหว่างวันที่ 6-26 มกราคม 2558 ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ นิทรรศการ “แสงสุวรรณภูมิสู่วัฒนธรรมอาเซียน (อินโด-จีน-อาเซียน)” โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ระหว่างวันที่ 27 เมษายน-12 กรกฎาคม 2558 ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ และนิทรรศการผลงานศิลปกรรม “4 มุมมองศิลปินแห่งชาติ” โดย ศาสตราจารย์เมธี นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน ศาสตราจารย์เดชา วราชุน ศาสตราจารย์เกียรติคุณ อิทธิพล ตั้งโฉลก และศาสตราจารย์เกียรติคุณ ปรีชา เถาทอง ระหว่างวันที่ 10-28 พฤษภาคม 2558 ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน กรุงเทพฯ
โดยทั้ง 3 กิจกรรม ถือเป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ด้านศิลปะแห่งปี เปิดให้เด็กเยาวชน ครู อาจารย์ และประชาชนทั่วไปได้เรียนรู้มรดกวัฒนธรรมจากศิลปินแห่งชาติ รวมถึงสร้างเครือข่ายสถาบันการศึกษาและเยาวชนต้นแบบที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลป์ เพื่อร่วมสืบสานและเผยแพร่งานศิลปวัฒนธรรมต่อไป
• วธ.จัดแสดงภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 4 และภาพโบราณอายุกว่า 150 ปี
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมจัดนิทรรศการภาพถ่ายโบราณสยาม ผ่านมุมกล้องจอห์น ทอมสัน 2408 - 2409 รวมทั้งนครวัด และเมืองชายฝั่งประเทศจีน ครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมพรรษา 60 พรรษา 2 เมษายน 2558 และครบรอบ 150 ปี ของการเยือนเมืองไทยของนายจอห์น ทอมสัน ช่างภาพชาวอังกฤษ ซึ่งได้รับพระบรมราชานุญาตจากรัชกาลที่ 4 ให้เข้าไปฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ในพระบรมมหาราชวัง และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างเป็นทางการ
สำหรับภาพสำคัญที่จัดแสดงมี 60 ภาพ ได้แก่ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 4 ฉลองพระองค์ชุดครุยทองคำตามแบบโบราณราชประเพณี เคยจัดแสดงในงานเอ็กซ์โป ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อกว่า 100 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ภาพวิวทิวทัศน์ วัดวาอารามของกรุงเทพมหานครในอดีต จัดแสดงระหว่างวันที่ 10 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08.30-16.30 น. (เว้นวันจันทร์-อังคาร) ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ
• สมเด็จพระเทพฯ พระราชทานภาพฝีพระหัตถ์ ให้ทำสติ๊กเกอร์ครั้งแรก ในประเทศไทย
นายแผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เปิดเผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สภากาชาดไทย ร่วมกับ บริษัทไลน์ เผยแพร่ภาพฝีพระหัตถ์ ในลักษณะสติ๊กเกอร์ เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ดาวน์โหลดในสังคมเครือข่ายไลน์ และเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการจัดทำสติ๊กเกอร์ด้วยภาพฝีพระหัตถ์
ทั้งนี้ รายได้ซึ่งบริษัทไลน์ร่วมสนับสนุนโดยมิได้หักค่าใช้จ่าย จะมอบให้กับโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์รักษาพยาบาลรวมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า 150 ปี โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย
โดยสติ๊กเกอร์ในชุดมีทั้งหมด16ภาพ เป็นลายเส้นการ์ตูนที่มีทั้งความน่ารักและพระอารมณ์ขัน ที่ช่วยเพิ่มสีสันและความสุขสำหรับผู้ดาวน์โหลดส่งให้กัน คือได้ความสุขในการสื่อสารและความอิ่มใจที่ได้สนับสนุนทำบุญช่วยกาชาด เป็นการ “แชทได้บุญ แชร์ได้กุศล” อย่างแท้จริง ผู้สนใจร่วมทำบุญสามารถทำได้ผ่านระบบทั้ง Apple IOS และระบบแอนดรอยด์ ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม 2557 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2558 ในราคาราว 30 บาท
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 169 มกราคม 2558 โดย กองบรรณาธิการ)