อโมฆํ ทิวสํ กริยา อปฺเปน พหุเกน วา
ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ
บุคคลควรกระทำวันคืน
ไม่ให้ว่างเปล่าจากประโยชน์น้อยหรือมาก
เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไป
ชีวิตของบุคคลนั้น ย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น
สิ่งของหายแล้วย่อม อาจหา แทนนา
วันล่วงเลยเวลาไป่ได้
ฉะนั้นอย่าทิ้งทิวา ให้ว่าง
จงกอปรกิจที่ให้ประโยชน์แท้แก่
(พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จากหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต คำโคลง)
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชนิพนธ์พุทธศาสนสุภาษิต คำโคลง ตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงศึกษาพุทธศาสนสุภาษิตจากหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แล้วทรงผูกเป็นโคลงขึ้น
พุทธศาสนสุภาษิตข้างต้นที่หยิบยกมานั้น ก็เพื่อเตือนให้เราทั้งหลายได้พึงระลึกถึงคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เสมอ เพราะคำสอนของพระองค์นั้นได้รับการพิสูจน์มากว่า 2600 ปีแล้ว ว่าทำได้จริงและเห็นผลจริง
เพราะวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไม่เคยหยุดนิ่งเลยสักวัน จนถึงปัจจุบันก็ล่วงเข้ากลางปีพุทธศักราช 2557 แล้ว และทุกเวลานาทีที่ผ่านไปก็ได้พาเอาวัน วัย และชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลายไปด้วย
พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า ชีวิตนี้น้อยนัก ชีวิตนี้สั้นนัก เพราะฉะนั้น อย่าพึงประมาท จงรีบทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ด้วยความไม่ประมาท
คนที่เกิดมาแล้วใช้เวลาทั้งชีวิตคิดแต่กระทำความชั่ว มัวเมาอยู่ในความประมาท ในลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งเป็นของไม่เที่ยงแท้แน่นอนนั้น นั่นไม่ใช่คนฉลาดเลย
แต่คนที่เกิดมาแล้วใช้เวลาทั้งชีวิตคิดแต่กระทำความดี ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ใช้ชีวิตแต่พอเหมาะพอดี นี่แหละคือคนฉลาดโดยแท้
และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังได้ทรงสอนเรื่องเกี่ยวกับความตาย เพื่อเป็นอนุสสติ เตือนให้ทุกคนได้ระลึกถึงอยู่เสมอ ดังเช่น
ยสฺส รตฺยา วิวสาเน อายุ อปฺปตรํ สิยา. วันคืนเคลื่อนคล้อย อายุก็เหลือน้อยเข้าทุกที
น ทีฆมายุง ลภเต ธเนน. เงิน ก็ซื้ออายุให้ยืนยาวไม่ได้
น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ. เมื่อตาย ทรัพย์สักนิดเดียวจะติดตัวไปก็ไม่มี
ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ. มีชีวิตอยู่อย่างไม่ถูกต้อง หาประเสริฐไม่
มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย. ตายเพื่อความถูกต้องประเสริฐกว่า
มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ. การตายโดยชอบธรรม ดีกว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่ชอบธรรม
ฝากไว้ให้คิดกันต่อไป คิดได้ทำได้ ชีวิตย่อมดีอย่างแน่นอน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 162 มิถุนายน 2557)
ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ
บุคคลควรกระทำวันคืน
ไม่ให้ว่างเปล่าจากประโยชน์น้อยหรือมาก
เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไป
ชีวิตของบุคคลนั้น ย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น
สิ่งของหายแล้วย่อม อาจหา แทนนา
วันล่วงเลยเวลาไป่ได้
ฉะนั้นอย่าทิ้งทิวา ให้ว่าง
จงกอปรกิจที่ให้ประโยชน์แท้แก่
(พระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
จากหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต คำโคลง)
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงพระราชนิพนธ์พุทธศาสนสุภาษิต คำโคลง ตั้งแต่เมื่อครั้งยังทรงศึกษาอยู่ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงศึกษาพุทธศาสนสุภาษิตจากหนังสือพุทธศาสนสุภาษิต ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส แล้วทรงผูกเป็นโคลงขึ้น
พุทธศาสนสุภาษิตข้างต้นที่หยิบยกมานั้น ก็เพื่อเตือนให้เราทั้งหลายได้พึงระลึกถึงคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่เสมอ เพราะคำสอนของพระองค์นั้นได้รับการพิสูจน์มากว่า 2600 ปีแล้ว ว่าทำได้จริงและเห็นผลจริง
เพราะวันเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไม่เคยหยุดนิ่งเลยสักวัน จนถึงปัจจุบันก็ล่วงเข้ากลางปีพุทธศักราช 2557 แล้ว และทุกเวลานาทีที่ผ่านไปก็ได้พาเอาวัน วัย และชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลายไปด้วย
พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า ชีวิตนี้น้อยนัก ชีวิตนี้สั้นนัก เพราะฉะนั้น อย่าพึงประมาท จงรีบทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ด้วยความไม่ประมาท
คนที่เกิดมาแล้วใช้เวลาทั้งชีวิตคิดแต่กระทำความชั่ว มัวเมาอยู่ในความประมาท ในลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งเป็นของไม่เที่ยงแท้แน่นอนนั้น นั่นไม่ใช่คนฉลาดเลย
แต่คนที่เกิดมาแล้วใช้เวลาทั้งชีวิตคิดแต่กระทำความดี ตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท ใช้ชีวิตแต่พอเหมาะพอดี นี่แหละคือคนฉลาดโดยแท้
และสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังได้ทรงสอนเรื่องเกี่ยวกับความตาย เพื่อเป็นอนุสสติ เตือนให้ทุกคนได้ระลึกถึงอยู่เสมอ ดังเช่น
ยสฺส รตฺยา วิวสาเน อายุ อปฺปตรํ สิยา. วันคืนเคลื่อนคล้อย อายุก็เหลือน้อยเข้าทุกที
น ทีฆมายุง ลภเต ธเนน. เงิน ก็ซื้ออายุให้ยืนยาวไม่ได้
น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ. เมื่อตาย ทรัพย์สักนิดเดียวจะติดตัวไปก็ไม่มี
ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ. มีชีวิตอยู่อย่างไม่ถูกต้อง หาประเสริฐไม่
มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย. ตายเพื่อความถูกต้องประเสริฐกว่า
มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ. การตายโดยชอบธรรม ดีกว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่ชอบธรรม
ฝากไว้ให้คิดกันต่อไป คิดได้ทำได้ ชีวิตย่อมดีอย่างแน่นอน
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 162 มิถุนายน 2557)