เวลาเจ็บหนัก มีทุกขเวทนาปวดร้าวไปทั่วกาย แต่ถ้าเรารู้จักทำใจให้เป็นสันติสุขได้ ความเจ็บนั้นก็ไม่สามารถจะทำใจให้เดือดร้อนตามไปด้วย เมื่อใจสงบแล้ว กลับจะทำให้กายนั้นสงบ หายทุกขเวทนาได้ด้วย และประสบสันติสุข ซึ่งไม่มีสุขอื่นยิ่งกว่าสันติสุขนั้น
ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ)
วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า ใครทำกรรมใดไว้ จะได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไปทำพิธีตัดกรรมก็เป็นการลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา
ผู้ปฏิบัติศาสนา อุบาสก อุบาสิกทั้งหลาย ท่านไม่ต้องหามื้อหาวันหาฤกษ์ยาม วันมันไม่ได้ทำอะไรแก่คน วันดีทำไมคนตายล่ะวันไม่ดีทำไมคนยังเกิด สมมติว่าเราจะทำการงานสิ่งใด เขาหาวันพร้อมเพรียงกัน จะเอาวันไหนเวลาไหน นัดกันพร้อมเพรียง ถ้าพร้อมกันแล้ว วันนั้นนั่นแหละดี ให้หาวันอย่างนี้
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร
ทุกวันนี้ เราหันหลังให้ศาสนากันมาก นิยมทำความชั่วกัน เพราะทำง่ายดี แต่ความดีที่เป็นประโยชน์ไม่ค่อยมีคนทำ เพราะมันทำยาก
ความจริงแล้ว ถ้าเราเห็นโทษของความชั่วให้ชัดเจนจริงๆแล้ว เราจะไม่อยากทำ เพราะผลที่สุดของความชั่วคือความเดือดร้อน เมื่อใครๆก็ไม่ต้องการความเดือดร้อน แล้วเราจะไปทำในสิ่งที่มันทำให้เดือดร้อนทำไม? เราควรคิดดูให้ดี
พระโพธิญาณเถร(ชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นยาดีชนิดหนึ่ง ที่พระอริยะเจ้าทั้งหลายนำไปใช้สอย เขาไปสวรรค์ ไปนิพพานกันหมดแล้ว แต่พวกเรายังมิได้นำมาใช้สอย ไม่รู้ว่าเก็บเอาไว้ทำอะไร ยังมิได้แก้ไข ยังไม่ได้พิจารณาว่ายาขนานนี้ เขาใช้แก้อะไร แก้โรค แก้ภัย แก้ภพ แก้ชาติ แก้กิเลสตัณหาอวิชชา แก้ความยึดมั่นถือมั่น แก้ทุกข์ แก้สมุทัย เป็นหนทางดับทุกข์ เป็นความดับอย่างที่วิเศษ เป็นยาอย่างวิเศษ
ฉะนั้น จึงควรที่จะเอายาขนาดนี้มาพิจารณานำไปใช้สอยให้รู้แจ้งเห็นจริง ให้เห็นความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป พิจารณาให้เห็นโทษเห็นคุณในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตานั้น ตามความเป็นจริง
หลวงปู่คำพอง ติสฺโส
วัดถ้ำกกดู่ จ.อุดรธานี
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 150 มิถุนายน 2556 โดย กองบรรณาธิการ)