เรื่องของบาปบุญคุณโทษเป็นเรื่องที่ผมกล้ายืนยันได้ว่ามีจริง คนทำดีก็ได้ดี คนทำชั่วก็ได้ชั่ว มีเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นกับลุงของผม ซึ่งผมอยากจะบอกว่า มันเป็นกฎแห่งกรรมของการกระทำชั่วที่ตามมาให้ผลทันตาในชาตินี้
พ่อเคยเล่าให้ฟังว่า ปู่กับย่ามีลูกชาย 2 คน คือ ลุงใหญ่กับพ่อ ลุงใหญ่เป็นคนที่ไม่เคยกลัวใคร ส่วนพ่อเป็นคนเงียบๆไม่ค่อยชอบยุ่งกับใคร สมัยที่ลุงใหญ่ยังเป็นวัยรุ่น ลุงเป็นคนเลือดร้อน ชอบมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งต่อยตีกับพวกวัยรุ่นด้วยกัน จนในที่สุดก็ต้องออกจากโรงเรียน เมื่อไม่ได้เรียนหนังสือ ลุงก็ไปคบหากับพวกนักเลงอันธพาล ข่มขู่รีดไถไปทั่ว แถมยังกินเหล้า เล่นการพนัน
ปู่กับย่ากลุ้มใจมาก คอยว่ากล่าวอยู่เสมอ แต่ลุงก็ไม่สนใจ จนกระทั่งปู่กับย่าต้องยื่นคำขาดว่า ถ้าลุงไม่กลับเนื้อกลับตัว ก็ตัดพ่อตัดลูก ไม่ต้องอยู่ด้วยกันอีกต่อไป แทนที่ลุงจะกลัว กลับหัวเราะ และเก็บข้าวของออกจากบ้านไป ปู่กับย่าได้แต่ยืนมองน้ำตาไหล
หลายปีที่ลุงจากไป พ่อได้ข่าวมาว่า ลุงไปเป็นมือปืนรับจ้างฆ่าคน ต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆเพื่อหลบซ่อนตัว วันหนึ่งลุงได้กลับมาบ้าน พร้อมผู้หญิงคนหนึ่งที่ลุงบอกว่าเป็นภรรยา มาขอเงินปู่ แต่ปู่ไม่ให้ ลุงโมโหมาก ผลักปู่ล้มลง และรื้อค้นข้าวของจนกระจัดกระจาย ได้สร้อยทองหนักสองสลึงไปหนึ่งเส้นและเงินอีกนิดหน่อย พอดีย่ากลับมาจากตลาด เห็นเข้าก็โวยวายจนลุงต้องรีบเผ่นหนี
ลุงกับเมียเอาเงินที่ได้ไปเล่นการพนันหวังต่อทุน แต่ก็เสียจนหมด ในที่สุดลุงก็หันมาเป็นพวกวิ่งราว กระชากสร้อย ซึ่งทำเงินได้มากทีเดียว ลุงเอาเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่หาความสุข ส่วนเมียก็ติดการพนันงอมแงม ทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชาย 2 ลูกสาว 1 คือ วิชิต วิเชียร และวิภา
อาจเป็นเพราะเสียงสาปแช่งจากคนที่ลุงไปก่อกรรมทำเข็ญไว้ และสารพัดกรรมชั่วที่ลุงทำมา ทำให้ลูกแต่ละคนของลุงมีอันเป็นไปอย่างไม่น่าเชื่อ!!
เริ่มจาก “วิชิต” ลูกชายคนโต มีอาชีพขับรถรับจ้าง วิชิตแต่งงานกับ “ยุพา” แม่ค้าในตลาด มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาว 1 ลูกชาย 2 คือ วันเพ็ญ วันชัย และวันชาติ
“วันเพ็ญ” ลูกสาวคนโต เรียนจบแค่ ป.4 ก็ต้องออกจากโรงเรียนมาช่วยแม่ค้าขาย แต่แล้ววันเพ็ญก็มีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน ตอนนั้นเธออายุได้ 18 ปี กำลังมีหนุ่มๆมาชอบ วันหนึ่งเธอบ่นกับแม่ว่าขายของเหนื่อยมาก จะรีบเข้านอนก่อน แต่พอรุ่งเช้าเธอก็ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย
“วันชัย” ลูกชายคนที่สองของวิชิต เป็นเด็กไม่ค่อยฉลาด แถมยังซนมาก แต่วิชิตกับยุพาก็รักวันชัยอย่างที่สุด เพราะทั้งคู่ได้สูญเสียลูกสาวคนโตไปแล้ว วันชัยเรียนหนังสือได้แค่ ป.6 ก็ไม่อยากเรียน จึงออกมาช่วยแม่ที่ตลาด ผ่านไป 4-5 ปี วันชัยรู้สึกเบื่อ จึงขอพ่อกับแม่ว่า จะไปขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
พ่อเห็นว่าวันชัยโตพอจะรับผิดชอบตัวเองได้แล้วจึงอนุญาต และไปดาวน์รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาให้ลูก โดยไม่รู้เลยว่า มันจะกลายเป็นยานมรณะของลูก วันชัยขับรถหาเงินได้ไม่นาน ก็ต้องมาประสบอุบัติเหตุ ขับรถชนท้ายรถบรรทุกอย่างจังจนเสียชีวิต
วิชิตกับยุพาแทบบ้าเมื่อต้องสูญเสียลูกคนที่สอง ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงทะเลาะตบตีกันทุกวัน จนยุพาต้องขอแยกทาง โดยหอบ “วันชาติ” ลูกคนชายคนเล็กไปด้วย หลังแยกทางกับเมียไม่นาน วิชิตก็ล้มป่วย และไม่มีใครดูแลรักษา ในที่สุดวิชิตก็ตายตามลูกทั้งสองไป
มาดูเรื่องราวของ “วิเชียร” ลูกชายคนที่สองของลุงใหญ่กันบ้าง
ไม่น่าเชื่อว่าวิเชียรจะถอดแบบนิสัยใจคอและการดำเนินชีวิตมาจากผู้เป็นพ่อเป๊ะ เพราะวิเชียรเป็นคนกล้าบ้าบิ่น ไม่กลัวใคร เรียนหนังสือจบแค่ ป.4 ก็หนีเรียน ไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนๆ แม้ลุงใหญ่จะดุด่าเฆี่ยนตี แต่วิเชียรก็ไม่กลัว ตรงกันข้ามเขากลับไปคบหากับพวกนักเลงอันธพาล ที่มีอาชีพข่มขู่ รีดไถ ลักเล็กขโมยน้อย ฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สินของชาวบ้าน แล้วจุดจบของวิเชียรคือการถูกพวกเดียวกันแทงตาย เพราะแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว
ส่วน “วิภา” ลูกสาวคนสุดท้องของลุงใหญ่ เธอก็มีชีวิตไม่ต่างจากพวกพี่ๆเท่าไหร่นัก ชีวิตของเธอเหมือนตายทั้งเป็น เมื่ออายุ 15 เธอแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับ “ชัย” พ่อค้าขายของเร่ในตลาด จนตั้งท้อง เธอจึงแอบไปทำแท้งเพราะกลัวว่าพ่อแม่จะรู้ ต่อมาเธอจึงแอบหนีไปกับอยู่กินกับชัยที่กรุงเทพฯ มีลูกด้วยกัน 3 คน ลูกชาย 1 ลูกสาว 2
เธอกับชัยช่วยกันทำมาหากินจนพอมีเงินเก็บ เธอจึงเอาเงินไปเปิดร้านขายอาหารในห้างสรรพสินค้า แรกๆกิจการก็ไปได้ดี แต่ด้วยความโลภมาก อยากรวยเร็วๆ เธอจึงกู้เงินเพื่อขยายไปเปิดที่อื่นๆอีก สุดท้ายกิจการทั้งหมดก็ขาดทุนย่อยยับ เธอต้องกลายเป็นหนี้ธนาคารนับล้านบาท
วิภาเสียใจอย่างหนักจนกลายเป็นโรคประสาทอ่อนๆ ขณะที่ “อาร์ต” ลูกชายคนเดียวซึ่งครอบครัวหวังจะได้พึ่งนั้น ก็แย่หนัก ทั้งเกเร ไม่เรียนหนังสือ กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดพนันบอล และลักเล็กขโมยน้อย
ทั้งหมดที่ผมเล่ามานี้ เป็นกรรมร้ายแรงที่ลูกทั้ง 3 คนของลุงใหญ่ได้รับ แถมยังตกไปถึงหลานๆด้วย
ส่วนตัวลุงใหญ่เองนั้น ในบั้นปลายชีวิตก็กลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยโรคเรื้อรังทั้งความดัน เบาหวาน จนถูกตัดขาไปข้างหนึ่ง ตาก็เป็นต้อหินมองไม่เห็น เมียก็ทิ้งไปมีสามีใหม่ ปล่อยให้แกอยู่ตามลำพังด้วยความยากลำบากแสนสาหัส จนที่สุดแกก็ต้องลาโลกไปด้วยวัยเพียง 60 กว่าๆ
พ่อผมบอกว่า เคยไปเยี่ยมลุงใหญ่ก่อนที่แกจะตายไม่กี่วัน แกบอกกับพ่อว่า
“ชาตินี้กูทำกรรมมามาก ทำให้พ่อแม่เสียใจ แล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นๆอีก ครอบครัวกู ลูกกู จึงฉิบหาย กูคงชดใช้กรรมในชาตินี้ไม่หมด”
ผมเชื่อว่า นรกมีจริง และป่านนี้..ผมไม่รู้ว่าลุงใหญ่ไปชดใช้กรรมอยู่ในนรกขุมไหน แต่ถ้าเรื่องของลุงใหญ่เป็นอุทาหรณ์สอนใจใครบางคนได้ ความดีที่เกิดขึ้นนี้ ผมขออุทิศให้ลุงใหญ่ทั้งหมดครับ
ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เขียนเล่ามาเป็นธรรมทานในการเตือนสติแก่เพื่อนร่วมโลกให้ตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ และตั้งอยู่ในความดีงามตลอดไป
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 147 มีนาคม 2556 โดย พงศ์ เมืองเพชร)