มนุษย์เราเมื่อเกิดมาแล้ว สามารถเลือกได้ว่าจะทำกรรมดีหรือกรรมชั่ว แต่คนเราโดยทั่วไปมักไม่ค่อยใช้เสรีภาพนี้ในการเลือกทำสิ่งที่ดีงาม มักปล่อยใจให้ไหลไปตามอำนาจกิเลสตัณหามากกว่า เมื่อกิเลสเกิดขึ้นในใจและไม่รู้จักควบคุม จึงทำให้ต้องเผลอไปทำความชั่วอยู่ร่ำไป สุดท้ายผลแห่งกรรมชั่วนั้นก็ย่อมวกกลับมาหาตัวผู้กระทำนั่นเอง
ต่อไปนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนสมัยใหม่ ที่มักปล่อยใจไปตามอำนาจกิเลสตัณหา เรื่องมีอยู่ว่า
ณ ใจกลางเมืองหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาล ครอบครัวของนายศรายุทธ กับนางพัชรี ดูเหมือนว่าจะเป็นครอบครัวที่มีความอบอุ่น มีฐานะทางเศรษฐกิจดีพอสมควร ครอบครัวของเขามีกันแค่ 3 คน คือ พ่อ แม่ และลูกสาว ซึ่ง “พัชรา” ลูกสาวของศรายุทธ เป็นเด็กผู้หญิงที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง
ศรายุทธเป็นคนที่มีความรับผิดชอบเรื่องการงานค่อนข้างมาก ขยันทำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ส่วนพัชรี ภรรยาของเขา ก็ขยันทำงานเช่นเดียวกัน กว่าจะกลับจากบริษัทได้แต่ละวันก็มืดค่ำแล้ว
พัชรีกับศรายุทธทำงานอยู่คนละที่ ทั้งสองตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่า ถึงแม้ทั้งคู่จะทำงานหนักอย่างไรก็ตาม ก็จะไม่ใช้อารมณ์คุยกัน แต่จะใช้เหตุผลในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ตอนแต่งงานใหม่ๆ ทั้งคู่ก็เข้ากันได้ดี เข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเท่าใดนัก จนกระทั่งมีลูกด้วยกันหนึ่งคน จึงเริ่มมีปัญหา เพราะต้องเลี้ยงลูกและทำงานไปด้วย ทำให้ความเหนื่อยเพิ่มขึ้นทวีคูณ บางครั้งพัชรีไม่ว่างและศรายุทธเองก็ไม่ค่อยมีเวลาช่วยภรรยา จึงทำให้ทั้งสองคนทะเลาะกันบ่อยขึ้น ตอนแรกทั้งคู่คิดจะจ้างคนมาเลี้ยงลูก แต่ก็กลัวว่าเงินจะไม่พอ จึงตัดสินใจเลี้ยงเอง จนกระทั่งพัชราเติบโตสู่วัยสาว
เมื่อลูกสาวโตที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว ศรายุทธและพัชรีจึงปล่อยให้ลูกดูแลตัวเอง เพราะทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล และการที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลนี่เอง เป็นเหตุให้ต้องเลี้ยงดูลูกแบบตามใจ จึงทำให้ลูกชอบทำอะไรตามใจตนเอง อยากทำอะไรก็ทำ พัชราจึงเป็นเด็กที่ค่อนข้างเอาแต่ใจ ชอบเที่ยวสนุกสนาน เธอทำตัวอย่างนี้ตั้งแต่มัธยมจนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัย
ฝ่ายศรายุทธ เมื่อทำงานหนักและทะเลาะกับภรรยาเป็นประจำ จึงกลายเป็นคนชอบเที่ยวกินเหล้าเมายา และที่สำคัญคือ เขาชอบซื้อบริการทางเพศจากเด็กสาวๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กนักศึกษา เพราะอยู่ในวัยที่กำลังเป็นสาวสวย
ศรายุทธใช้ชีวิตอยู่อย่างนั้นเป็นประจำ เขาเล่าให้ฟังว่า มีหลายสาเหตุที่ทำให้เขากระทำเช่นนั้น คือ อาจจะเป็นเพราะเบื่อภรรยา เบื่อปัญหาทางบ้าน และเพราะความเครียดในการทำงาน (แต่สิ่งเหล่านี้ก็อยู่ที่ความคิดของแต่ละคน ถ้าเราอยากทำอะไรก็มักจะหาเหตุผลมาสนับสนุนอยู่เสมอ แต่ความเป็นจริงลึกๆ แล้วก็คือเกิดจากกิเลสที่อยู่ภายในจิตใจนั่นเอง)
หลังจากที่พัชราเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เธอก็ขอพ่อไปอยู่หอพัก เพราะว่าอยู่ที่บ้านก็เหมือนไม่ได้อยู่ ไม่ค่อยมีโอกาสได้เจอหน้าพ่อแม่อยู่แล้ว แม้แต่วันเสาร์อาทิตย์ เพราะเธอมักนอนตื่นสาย ส่วนวันอื่นๆ ต่างคนก็ต่างรีบไปทำหน้าที่ของตนเอง พ่อแม่รีบตื่นไปทำงาน ส่วนลูกก็ต้องไปเรียนหนังสือ
เมื่อลูกสาวของศรายุทธได้เข้าไปอยู่หอพัก ก็ทำให้เธอมีเพื่อนเพิ่มขึ้นอีกมากมาย และในบรรดาเพื่อนเหล่านั้น แน่นอนว่า คนที่มีลักษณะนิสัยอย่างไร ก็มักจะมีเพื่อนที่มีนิสัยใกล้เคียงกัน กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน เพื่อนของเธอแต่ละคนล้วนแต่ชอบเที่ยวสนุกสนานกันทั้งนั้น ไม่ค่อยสนใจการเรียนเท่าไหร่ ทุกคืนเอาแต่เที่ยวเตร่ กินเหล้าเมายากันเป็นประจำ จนกลายเป็นความเคยชินไปในที่สุด
จากสาเหตุที่พัชราชอบเที่ยวเตร่กินเหล้าเมายานี้เอง ทำให้เธอต้องพลาดท่าให้กับผู้ชายจนได้ และที่หนักกว่านั้น เงินที่พ่อแม่ให้มาไม่เคยพอใช้ และถ้าขอมากเกินไป ก็จะถูกซักถามละเอียดว่าจะเอาไปใช้อะไรบ้าง ค่าเทอมเท่าไหร่ ค่าหอเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวเท่าไหร่ ฯลฯ
เมื่อเป็นเช่นนี้เธอก็ต้องหาวิธีที่จะหาเงินมาใช้จ่ายประจำเดือนให้ได้ มิเช่นนั้นจะเป็นการเสียหน้ามากเมื่อไปอยู่กับเพื่อนๆ เพราะต่างคนต่างก็โชว์ความเป็นไฮโซ ซื้อของมาอวดกันเป็นประจำ
ความที่เคยถูกตามใจมาตลอด เคยได้สิ่งที่ต้องการเสมอ ทำให้พัชราตัดสินใจหาเงินใช้เองด้วยการขายตัว เพราะเธอคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอ ซึ่งเคยพลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายมาหลายคนแล้ว
จากความคิดนี้ทำให้เธอตัดสินใจกระทำสิ่งที่ผิดพลาด โดยการขายตัวเพื่อหาเงินมาเที่ยว มาใช้จ่าย เพราะวิธีการนี้ได้เงินง่าย มีเสี่ยมาเลี้ยง และเป็นงานที่ค่อนข้างจะสบายสำหรับเธอ
ขณะเดียวกัน พ่อของเธอซึ่งมีนิสัยชอบเที่ยว กินเหล้าเคล้านารี และออฟเด็กสาวนักศึกษาไปเป็นคู่นอนอยู่เป็นประจำ เพื่อสนองตัณหา โดยไม่สนใจว่าสิ่งที่กระทำลงไปนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร และเขาเองก็ไม่เคยนึกเลยว่า สิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นจะเป็นกรรมที่ตามมาสนองตัวเอง
วันหนึ่งศรายุทธคุยกับแม่เล้าให้ติดต่อนักศึกษาสาวให้เขาตามปกติ เขาขอเด็กสาวที่หน้าตาดี ส่วนเงินไม่มีปัญหา แม่เล้ารับปากและรีบจัดหาให้ทันที แต่.. อนิจจา..เด็กสาวที่แม่เล้าจัดหาให้นั้น คือพัชราลูกสาวของศรายุทธนั่นเอง!!
ศรายุทธ ผู้เป็นพ่อ ไม่รู้เลยว่าคนที่ตนเองกำลังจะซื้อบริการทางเพศนั้นคือลูกสาวแท้ๆ ของตน ส่วนลูกสาวเองก็ไม่รู้ว่า แขกที่กำลังจะไปหานั้นคือพ่อ!! รู้เพียงว่าแขกรายนี้กระเป๋าหนัก จ่ายไม่อั้น เธอคิดว่างานนี้คงได้เงินเยอะแน่เลย
แม่เล้าได้จัดการนัดแนะสถานที่ให้ทั้งสองได้เจอกัน เมื่อศรายุทธกับลูกสาวได้มาเจอกัน ต่างก็ตกใจสุดขีด!! ศรายุทธเองไม่เคยคิดเลยว่า กรรมที่ตนเองกระทำไว้นั้น จะตกมาถึงลูกสาวแท้ๆ ของตน หัวใจของผู้เป็นพ่อแทบแหลกสลาย
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ศรายุทธรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกผิดที่ได้กระทำสิ่งที่ไม่ดีงามลงไป ส่วนลูกสาวก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เธออับอายจนไม่อยากเจอหน้าพ่อแม่ โดยเฉพาะกับผู้เป็นพ่อ จึงไม่ยอมกลับบ้านอีกเลย ส่งผลให้ครอบครัวนี้เต็มไปด้วยความระทมทุกข์
นี่เป็นผลของกฎแห่งกรรมที่ศรายุทธและลูกสาวได้กระทำไว้ เป็นเหมือนกับงูกินหาง ที่วนกลับมาหาตนเอง กรรมไม่ดีจะกระทำเมื่อใดก็ตาม ในที่มืดหรือที่แจ้ง ก็ย่อมส่งผลไม่ดีอยู่นั่นเอง
ส่วนกรรมดีไม่ว่าจะกระทำที่ไหน สักวันก็ย่อมให้ผลดีอยู่ร่ำไป เราทั้งหลายจึงควรหลีกเลี่ยงกระทำกรรมชั่วทุกชนิด ทั้งด้วยกาย วาจา และใจ เพราะคนที่คิดชั่ว ทำชั่ว ย่อมประสบกับความทุกข์ความเดือนร้อนอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น
ขอเชิญชวนท่านผู้อ่านที่มีประสบการณ์จริงเกี่ยวกับเรื่องกฎแห่งกรรม เขียนเล่ามาเป็นธรรมทานในการเตือนสติแก่เพื่อนร่วมโลกให้ตระหนักถึงบาปบุญคุณโทษ และตั้งอยู่ในความดีงามตลอดไป
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 139 กรกฎาคม 2555 โดย มาลาวชิโร)