กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสระแห่งหนึ่งซึ่งมีปลาอยู่ชุกชุม แต่น้ำในสระเริ่มลดน้อยลง นกกระยางตัวหนึ่งแลเห็นเช่นนั้น จึงคิดอุบายที่จะจับปลาเหล่านั้นกิน จึงไปทำท่าเศร้าสร้อยอยู่ที่ริมสระ เมื่อปลาทั้งหลายเห็นเช่นนั้น จึงเอ่ยขึ้นว่า
“ท่านคิดอะไรอยู่หรือ ทำไมจึงดูเศร้าสร้อยนัก”
นกกระยางจึงพูดขึ้นว่า “เรากำลังคิดถึงพวกท่านน่ะซี”
“คิดถึงพวกเราด้วยเหตุอันใดล่ะ”
“ก็คิดเป็นห่วงว่า อากาศร้อนอย่างนี้ น้ำในสระก็น้อยลงทุกทีๆ แล้วพวกท่านจะเป็นอย่างไร”
เมื่อฝูงปลาได้ยินดังนั้นก็เห็นจริง จึงได้เอ่ยถามนกกระยางว่า “ท่านคิดว่าพวกเราจะทำอย่างไรดี”
นกกระยางจึงกล่าวว่า “เราเห็นสระน้ำใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เราจะช่วยพวกท่านโดยคาบไปปล่อยทีละตัว”
พวกปลาคิดกันว่าแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีนกกระยางตัวใดจะคิดดีต่อปลา จึงได้บอกไปว่า “ท่านคิดจะกินพวกเราใช่หรือไม่ พวกเราไม่เชื่อท่านหรอก”
นกกระยางได้ฟังดังนั้น จึงรีบบอกว่า “เราไม่กินท่านหรอก ถ้าไม่เชื่อเรา ก็ลองส่งปลาสักตัวหนึ่งไปดูสระน้ำพร้อมกับเราก็ได้”
ปลาทั้งหลายปรึกษากันแล้วก็เห็นดีด้วย จึงได้ส่งปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งให้นกกระยางคาบไป นกกระยางจึงพาปลาตัวนั้นไปดูสระน้ำใหญ่ แล้วก็พากลับมา ปลาใหญ่ได้พรรณาความกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ของสระน้ำให้บรรดาปลาทั้งหมดฟัง เมื่อพวกปลาได้ยินเช่นนั้น ต่างก็เชื่อใจนกกระยาง ขอให้พาพวกตนไปยังสระน้ำแห่งใหม่
นกกระยางจึงคาบปลาไปทีละตัว แล้วจิกกิน จนกระทั่งไม่เหลือปลาสักตัวเดียวในสระน้ำ นั้น เหลือเพียงปูตัวหนึ่งมันจึงคิดจะกินปูที่เหลืออยู่นั้น มันจึงบอกกับปูว่า
“นี่แน่ะปู เรานำปลาทั้งหมดไปปล่อยในสระใหญ่หมดแล้ว เหลือเพียงท่าน จะไปหรือไม่ เราจะพาไป”
ปูจึงถามว่าจะพาไปอย่างไร นกกระยางก็ตอบไปว่าจะคาบไปเหมือนคาบปลานั่นแหละ ปูจึงแกล้งบอกไปว่า “ท่านพาไปอย่างนี้ เดี๋ยวเราตกลงมา เราไม่ไปกับท่านหรอก”
นกกระยางจึงบอกไปว่าไม่ต้องกลัว จะคาบอย่างระมัดระวัง แต่ปูก็รู้ดีว่านกกระยางไม่ได้คาบปลาไปปล่อยในสระใหม่ แต่มันได้คาบปลาทั้งหมดไปกิน ปูจึงคิดอุบายได้อย่างหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ให้เราเอาก้ามคาบคอท่านด้วยดีกว่า จะได้ไม่ตกลงมา ถ้าอย่างนี้เราก็จะไปกับท่าน”
นกกระยางคิดแต่จะกินปู จึงรีบรับคำ ปูจึงเอาก้ามทั้งสองคาบคอนกไว้แน่น นกกระยางพาปูไปที่สระแล้ว ก็เตรียมจะสลัดปูออกเพื่อกัดกิน แต่ปูรู้ทัน จึงกล่าวว่า
“ที่ท่านกินปลาเหล่านั้นได้จนหมด เพราะเป็นปลาโง่ แต่ท่านกินเราไม่ได้หรอก เพราะเราจะตัดศีรษะของท่านเดี๋ยวนี้” ว่าแล้ว ปูก็ใช้ก้ามหนีบคอนกจนนกกระยางอ้าปาก นํ้าตาไหล อ้อนวอนขอให้ปูไว้ชีวิต แต่ปูไม่ฟังเสียง กลับใช้ก้ามหนีบ จนคอนกกระยางขาดกระเด็นลงสระน้ำ
.........
บุคคลผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงผู้อื่น ย่อมไม่ได้ความสุขเป็นนิตย์ เพราะผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงคนอื่น ย่อมประสบผลแห่งบาปกรรมที่ตนทำไว้ เหมือนนกยางถูก ปูหนีบคอ ฉะนั้น
(เค้าโครงจากนิทานชาดก)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย ไม้หอม)
“ท่านคิดอะไรอยู่หรือ ทำไมจึงดูเศร้าสร้อยนัก”
นกกระยางจึงพูดขึ้นว่า “เรากำลังคิดถึงพวกท่านน่ะซี”
“คิดถึงพวกเราด้วยเหตุอันใดล่ะ”
“ก็คิดเป็นห่วงว่า อากาศร้อนอย่างนี้ น้ำในสระก็น้อยลงทุกทีๆ แล้วพวกท่านจะเป็นอย่างไร”
เมื่อฝูงปลาได้ยินดังนั้นก็เห็นจริง จึงได้เอ่ยถามนกกระยางว่า “ท่านคิดว่าพวกเราจะทำอย่างไรดี”
นกกระยางจึงกล่าวว่า “เราเห็นสระน้ำใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เราจะช่วยพวกท่านโดยคาบไปปล่อยทีละตัว”
พวกปลาคิดกันว่าแต่ไหนแต่ไรมา ไม่เคยมีนกกระยางตัวใดจะคิดดีต่อปลา จึงได้บอกไปว่า “ท่านคิดจะกินพวกเราใช่หรือไม่ พวกเราไม่เชื่อท่านหรอก”
นกกระยางได้ฟังดังนั้น จึงรีบบอกว่า “เราไม่กินท่านหรอก ถ้าไม่เชื่อเรา ก็ลองส่งปลาสักตัวหนึ่งไปดูสระน้ำพร้อมกับเราก็ได้”
ปลาทั้งหลายปรึกษากันแล้วก็เห็นดีด้วย จึงได้ส่งปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่งให้นกกระยางคาบไป นกกระยางจึงพาปลาตัวนั้นไปดูสระน้ำใหญ่ แล้วก็พากลับมา ปลาใหญ่ได้พรรณาความกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ของสระน้ำให้บรรดาปลาทั้งหมดฟัง เมื่อพวกปลาได้ยินเช่นนั้น ต่างก็เชื่อใจนกกระยาง ขอให้พาพวกตนไปยังสระน้ำแห่งใหม่
นกกระยางจึงคาบปลาไปทีละตัว แล้วจิกกิน จนกระทั่งไม่เหลือปลาสักตัวเดียวในสระน้ำ นั้น เหลือเพียงปูตัวหนึ่งมันจึงคิดจะกินปูที่เหลืออยู่นั้น มันจึงบอกกับปูว่า
“นี่แน่ะปู เรานำปลาทั้งหมดไปปล่อยในสระใหญ่หมดแล้ว เหลือเพียงท่าน จะไปหรือไม่ เราจะพาไป”
ปูจึงถามว่าจะพาไปอย่างไร นกกระยางก็ตอบไปว่าจะคาบไปเหมือนคาบปลานั่นแหละ ปูจึงแกล้งบอกไปว่า “ท่านพาไปอย่างนี้ เดี๋ยวเราตกลงมา เราไม่ไปกับท่านหรอก”
นกกระยางจึงบอกไปว่าไม่ต้องกลัว จะคาบอย่างระมัดระวัง แต่ปูก็รู้ดีว่านกกระยางไม่ได้คาบปลาไปปล่อยในสระใหม่ แต่มันได้คาบปลาทั้งหมดไปกิน ปูจึงคิดอุบายได้อย่างหนึ่ง แล้วเอ่ยว่า
“เอาอย่างนี้แล้วกัน ให้เราเอาก้ามคาบคอท่านด้วยดีกว่า จะได้ไม่ตกลงมา ถ้าอย่างนี้เราก็จะไปกับท่าน”
นกกระยางคิดแต่จะกินปู จึงรีบรับคำ ปูจึงเอาก้ามทั้งสองคาบคอนกไว้แน่น นกกระยางพาปูไปที่สระแล้ว ก็เตรียมจะสลัดปูออกเพื่อกัดกิน แต่ปูรู้ทัน จึงกล่าวว่า
“ที่ท่านกินปลาเหล่านั้นได้จนหมด เพราะเป็นปลาโง่ แต่ท่านกินเราไม่ได้หรอก เพราะเราจะตัดศีรษะของท่านเดี๋ยวนี้” ว่าแล้ว ปูก็ใช้ก้ามหนีบคอนกจนนกกระยางอ้าปาก นํ้าตาไหล อ้อนวอนขอให้ปูไว้ชีวิต แต่ปูไม่ฟังเสียง กลับใช้ก้ามหนีบ จนคอนกกระยางขาดกระเด็นลงสระน้ำ
.........
บุคคลผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงผู้อื่น ย่อมไม่ได้ความสุขเป็นนิตย์ เพราะผู้ใช้ปัญญาหลอกลวงคนอื่น ย่อมประสบผลแห่งบาปกรรมที่ตนทำไว้ เหมือนนกยางถูก ปูหนีบคอ ฉะนั้น
(เค้าโครงจากนิทานชาดก)
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 126 พฤษภาคม 2554 โดย ไม้หอม)