xs
xsm
sm
md
lg

อสีติมหาสาวก : ตอนที่ ๗๗ กลุ่มพระมาณพ ๑๖ (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอตทัคคะ-อดีตชาติ(ต่อ)

พระกัปปะ มีกล่าวไว้เฉพาะชาติที่พบพระพุทธเจ้ากัสสปะ ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปข้างหน้า

พระชตุกัณณี ตั้งจิตปรารถนาไว้ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ครั้งนั้นท่านเกิดเป็นเศรษฐีในเมืองหงสวดี มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายทุกประการในปราสาท ๓ ฤดู ท่านกับครอบครัวเป็นคนใจบุญ ให้การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากเสมอ และสงเคราะห์สมณพราหมณ์มิได้ขาด ท่านดูแลทาสและบริวารเป็นอย่างดี

วันหนึ่ง พระพุทธเจ้าปทุมุตตระเสด็จผ่านมาทางปราสาทของท่านพร้อมด้วยพระสาวก ๑๐๐,๐๐๐ รูป พระพุทธเจ้าปทุมุตตระมีพระรัศมีเปล่งออกจากพระวรกายสว่างไสวไปทั่วบริเวณสถานที่พระองค์เสด็จผ่าน ท่านทราบว่าพระพุทธเจ้ากำลังเสด็จมา เพราะสังเกตจากแสงสว่างนั้น ครั้นแล้วจึงรีบลงจากปราสาทไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งกราบทูลให้พระองค์เสด็จเข้ามาเสวยพระกระยาหารในปราสาทของท่าน พร้อมด้วยพระสาวกทั้งหมดนั้น

ขณะที่พระพุทธเจ้ากำลังเสวยพระกระยาหารอยู่พร้อมกับพระสาวกนั้น ท่านให้พวกนักดนตรีประจำตัวของท่านประโคมดนตรีถวายเป็นพุทธบูชา จนถึงเวลาเสวยพระกระยาหารเสร็จ ก่อนเสด็จจากไป พระพุทธเจ้าได้ตรัสอนุโมทนาทาน และการประโคมดนตรีถวายเป็นพุทธบูชาของท่าน และอานิสงส์ต่างๆ ที่จะได้รับ ท้ายสุดได้ตรัสพยากรณ์ว่า

“ในอีก ๑๐๐,๐๐๐ กัปข้างหน้า พระพุทธเจ้าโคดมจักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เธอจักได้ออกบวชเป็นสาวกของพระองค์ และจักได้บรรลุอรหัตผล”

ท่านได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเกิดปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำความดีอื่นๆสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้นบุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในสุคติภูมินับชาติไม่ถ้วน

พระภัทราวุธ พระอุทยะ พระโปสาละ พระปิงคิยะ ทั้งหมด ๔ รูปนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ มีกล่าวไว้ แต่เฉพาะชาติที่พบพระพุทธเจ้ากัสสปะ ซึ่งจะได้กล่าวต่อไปข้างหน้า

พระโมฆราช ตั้งจิตปรารถนาไว้ตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าปทุมุตตระ ท่านเกิดเป็นบุตรเศรษฐีชาวเมืองหงสวดี วันหนึ่งได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกับพวกชาวเมืองเพื่อฟังธรรม เห็นพระพุทธเจ้าทรงตั้งพระสาวกรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะด้านนุ่งห่มผ้าเศร้าหมอง แล้วเกิดศรัทธาปรารถนาจะได้เป็นเช่นพระสาวกรูปนั้นบ้าง พระพุทธเจ้าก็ตรัสพยากรณ์ว่า

“ในอีก ๑๐๐,๐๐๐ กัปข้างหน้า พระพุทธเจ้าโคดมจักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก เธอจักได้ออกบวชเป็น สาวกของพระองค์ และจักได้บรรลุอรหัตผล พระพุทธเจ้าโคดมจักตั้งเธอไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ ด้านนุ่งห่มผ้าเศร้าหมอง”

ท่านได้ฟังพระพุทธเจ้าตรัสพยากรณ์แล้วเกิดปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ทำความดีอื่นๆสนับสนุนอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต จากชาตินั้นบุญส่งผลให้เวียนว่ายตายเกิดในสุคติภูมินับชาติไม่ถ้วน จนมาถึงพุทธุปบาทกาลของพระพุทธเจ้าอัตถทัสสี

ชาติที่พบพระพุทธเจ้าอัตถทัสสีนั้น ท่านเกิดเป็นบุตรของพราหมณ์ชาวเมืองโสภิตะ ศึกษาจบไตรเพท วันหนึ่งได้พบพระพุทธเจ้าแล้วเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธลักษณะและพระจริยาวัตร จึงเข้าไปถวายบังคมแล้ว กราบทูลว่า

“บรรดาสรรพสัตว์ที่เกิดมาในโลก ไม่ว่าจะมีรูปร่างหรือไม่มีก็ตาม ไม่ว่าจะอยู่บนบกหรือในน้ำก็ตาม ไม่มีใครเลยที่ประเสริฐกว่าพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเท่านั้นประเสริฐกว่าสรรพสัตว์ในโลก”

ครั้นแล้วได้น้อมนำน้ำผึ้งเข้าไปถวาย พระพุทธเจ้าได้ตรัสอนุโมทนาทานของท่านและอานิสงส์ต่างๆ ที่จะได้รับแล้ว ท้ายสุดได้ตรัสพยากรณ์ว่า

“ในชาติสุดท้าย เธอจักได้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าโคดม และจักได้บรรลุอรหัตผล”

ท่านได้ฟังพุทธพยากรณ์ซ้ำจากพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่งในช่วงเวลาต่อมา ท่านเกิดความรู้สึกเหมือนถูกตอกย้ำให้มั่นคงในการตั้งจิตปรารถนาเพื่อให้ได้บรรลุอรหัตผล และได้รับตำแหน่งเอตทัคคะด้านนุ่งห่มผ้าเศร้าหมอง

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 125 เมษายน 2554 โดย ผศ.ร.ท.ดร.บรรจบ บรรณรุจิ)
กำลังโหลดความคิดเห็น