“หลวงพ่อคะ ขอทำบุญตัดกรรมหน่อยค่ะ”
“ไปทำอะไรมาล่ะโยม ถึงต้องมาตัดกรรม”
“เห็นเขาลือกันว่า หลวงพ่อตัดกรรมเก่งนี่ค่ะ”
“อ้าว ไปฟังจากไหนมาล่ะ อาตมายังไม่รู้เรื่องเลย”
“ก็เพื่อนหนู เขาบอกว่ามาตัดกรรมกับหลวงพ่อ แล้วชีวิตจะดีขึ้นน่ะค่ะ”
“เขาว่าอย่างนั้นหรือ?”
“ค่ะ”
“เอา...เมื่อมาแล้ว ก็ลองคุยกันดู เดี๋ยวนะ ไอ้ต้อยๆ ออกมานั่งเป็นเพื่อนข้าหน่อย”
“ทำไมหลวงพ่อต้องเรียกลูกศิษย์มานั่งเป็นเพื่อนด้วยคะ หลวงพ่อกลัวหนูหรือคะ”
“เปล่า การนั่งสนทนาสองต่อสองกับผู้หญิงดูไม่เหมาะสม เดี๋ยวมีข้อครหาขึ้น เธอก็จะเดือดร้อนไปด้วย ป้องกันไว้ดีกว่า เออ.. ไอ้ต้อย นั่งตรงนั้นล่ะ เป็นเพื่อนข้าหน่อยนะ”
“ครับ”
“จะให้ตัดกรรมเรื่องอะไรล่ะ บอกมาซิ”
“คือตั้งแต่หนูไปทำแท้งมา รู้สึกว่าชีวิตไม่ดีเลย ทำอะไรก็มีอุปสรรค แฟนหนูก็เลิกกัน หนูคิดว่าเป็นกรรมจากที่ไปทำแท้งมา เด็กคงจะอาฆาตหนู ทำให้หนูเดือดร้อนค่ะ จึงอยากให้หลวงพ่อช่วยตัดกรรมให้หน่อยค่ะ”
“หนูรู้ไหมว่ากรรมคืออะไร?”
“กรรมก็คือสิ่งที่ไม่ดีที่หนูกำลังพบอยู่นี่ไงหลวงพ่อ”
“ที่ถามก็เพราะอยากให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงตามธรรม ถ้ามีความเข้าใจถูกต้องแล้ว ก็จะช่วยให้เข้าใจถึงปัญหาชีวิตที่ประสบอยู่”
“แล้วกรรมมันคืออะไรหรือคะ?”
“กรรม โดยความหมายก็คือการกระทำ กรรมดีก็คือการกระทำความดี กรรมชั่วก็คือการกระทำความชั่ว การกระทำหรือกรรม ก็ต้องมีเหตุจูงใจให้กระทำ เช่น อยากได้ของที่ถูกใจชอบใจ ก็ต้องขวนขวายหาเงินไปซื้อของนั้นมา ถ้าเป็นกรรมดี ก็จะต้องทำงานหาเงินโดยสุจริต ถ้าเป็นกรรมชั่ว ก็ต้องทำงานหาเงินโดยทุจริต เช่น ฉก ชิง วิ่งราว เป็นต้น ผลของการกระทำหรือกรรมจึงมี ๒ อย่างคือ ผลกรรมดี กับ ผลกรรมชั่ว
ผลกรรมดี ก็ทำให้จิตใจรื่นเริงเบิกบานมีความสุข ถ้าเราสามารถใช้เงินที่หามาได้ด้วยสุจริตไปซื้อของที่อยากได้ เราก็มีความสุขในของนั้น ผลกรรมชั่ว ก็ทำให้จิตใจทุกข์ยากเดือดร้อน แม้เราจะได้ของที่ต้องการ แต่เราก็ต้องคอยหวาดระแวง ว่าคนอื่นจะจับได้ว่าเราได้เงินมาโดยทุจริต หนูพอเข้าใจไหมในเรื่องกรรมนี่”
“งั้นกรรมที่หนูพูดถึง ก็ไม่ใช่กรรมซิคะ เป็นผลของกรรมที่หนูทำขึ้นเอง”
“ใช่.. กรรมของหนูคือการทำแท้ง หนูว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วล่ะ”
“จะดีได้ไงหลวงพ่อ นี่หนูฆ่าเด็กที่กำลังจะเกิดมาเป็นลูกหนูโดยเจตนานะคะ แต่หนูก็คิดว่าไม่น่าจะผิดมากนัก เพราะถ้าเขาเกิดมาโดยที่หนูไม่พร้อม หนูก็เลี้ยงเขาได้ไม่ดี ชีวิตของเขาก็จะลำบากน่ะค่ะ”
“เอ้า..นี่ กระดาษ..เช็ดน้ำตาก่อน แล้วทำไมถึงปล่อยให้ท้องล่ะ “
“วันวาเลนไทน์ปีที่แล้วหนูฉลองความรักกับแฟน แล้วเมากันทั้งคู่ และหนูก็รักพี่เขามาก อยากให้พี่เขาประทับใจในตัวหนู ก็เลยตามเลยค่ะ เพลินไปหน่อย เผลอนิดเดียวก็สองเดือนกว่าแล้ว พี่เขาก็ให้ไปเอาออก หนูก็พูดอะไรไม่ได้ ก็เสียเงินไปเอาออก จ่ายค่าทำแท้งและค่ายา ตั้งหลายพันเลยค่ะ”
“เออ.. แล้วมารู้สึกตอนไหนล่ะว่าชีวิตเราไม่ดีเลย”
“หลังจากทำแท้งได้เดือนกว่าๆ สุขภาพก็แย่ หงุดหงิด อะไรๆ มันก็ขวางไปหมด ตำหนิตัวเองก็ตำหนินะคะ งานเลยพลอยแย่ไปด้วย พี่เขาก็ทิ้งหนูไปมีคนใหม่อีก ช้ำใจจริงๆค่ะ ชีวิตที่ผ่านมาก็เซ็งระเบิดเลยหลวงพ่อ เพื่อนหนู มันว่ากรรมตามทัน เลยให้หนูมาตัดกรรมกับหลวงพ่อนี่ล่ะค่ะ”
“หนูรู้ไหมว่ากรรมมันอยู่ตรงไหน?”
“เอ๊ะ.. หลวงพ่อพูดแปลกจัง ถ้าหนูรู้ หนูจะมาหาหลวงพ่อหรือคะ “
“ก็อยากให้ลองคิดดู ถ้าหนูบอกได้ว่ากรรมอยู่ตรงไหน หลวงพ่อก็จะได้รู้ว่าต้องตัดกรรมตรงไหน ลองนั่งนิ่งๆ หลับตาคิดดูสิ ว่ากรรมของหนูอยู่ตรงไหน?”
“.......คิดไม่ออกหรอกหลวงพ่อ ยิ่งหลับตา หนูยิ่งเห็นภาพตอนทำแท้งชัดเลย นี่ยังจำความรู้สึกเจ็บจากที่เขาขูดมดลูก ได้เลยนะหลวงพ่อ”
“ใจเย็น ค่อยๆคิด ถ้าคิดไม่ออก ก็นั่งนิ่งๆ สัก ๕ นาที แล้วค่อยคุยกันใหม่”
“........คิดไม่ออกน่ะหลวงพ่อ แย่กว่าเก่าอีกนะหนูว่า นี่เหมือน มีเด็กมานั่งจ้องมองอย่างอาฆาต หนูมากเลย ใช่ลูกหนูที่ทำแท้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ หลวงพ่อช่วยดูให้หน่อยสิ ว่าใช่ไหม”
“อาตมาก็ไม่รู้สิ ดูไม่ได้ด้วย”
“อ้าว.. แล้วหลวงพ่อจะตัดกรรมหนูได้อย่างไรล่ะนี่”
“ได้ ถ้าหนูมีความเข้าใจในเรื่องกรรม เราก็ตัดกรรมได้แน่นอน”
“ไม่ต้องถวายสังฆทานหรือหลวงพ่อ”
“ไม่ต้อง.. ลองหลับตาใหม่ คิดในใจตามจังหวะลมหายใจว่า “พุท-โธ ๆ” ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบอกให้ลืมตา อย่าไปสนใจกับความรู้สึกอื่นๆ ให้จับที่ลมหายใจเข้าออกที่จมูก “เข้า-พุท” “ออก-โธ” ทำไปเรื่อยๆ”
“หลวงพ่อ..หนู เห็นแต่สีแดงเต็มไปหมดเลย จิตใจหนูก็เศร้ามากเลย ไม่เอาแล้ว มันเศร้ามากไป น่ากลัวมากกว่าเก่าอีก”
“ใจเย็นๆ นี่ละคือผลของการทำแท้งที่หนูไปทำมา สีแดงที่เห็นนั่นน่ะ คล้ายสีเลือดไหม”
“ใช่ค่ะ เลือดนองเต็มไปหมดเลยหลวงพ่อ”
“ก็หนูหมกมุ่นอยู่กับเรื่องไปทำแท้งมา จิตใจหนูก็เลยฝังแน่นในภาพของการทำแท้ง ไม่รู้ว่าตอนเขาทำแท้งให้หนู เขาทำสดหรือว่าวางยา”
“เขาฉีดยาชา และทำสดเลยหลวงพ่อ เจ็บมากเลยค่ะ”
“แล้วไปทำกับหมอหรือพยาบาลล่ะ”
“ไปทำกับหมอค่ะ เห็นเพื่อนที่ไปทำกับพยาบาลแล้ว ร่างกายทรุดโทรมทุกคนเลย หนูก็ไม่กล้า เลยจ่ายแพงหน่อย ทำกับหมอดีกว่า”
“หนูก็คงเห็นเลือดเนื้อของตนเองในขณะทำแท้งซิ จึงจำติดตามาตลอดเลย”
“ก็เห็นซิคะหลวงพ่อ แล้วนี่จะตัดกรรมให้หนูอย่างไรคะ”
“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน มาพบพระนี่ต้องใจเย็นๆ ทำจิตใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”
“จริงนะหลวงพ่อ”
“ถ้าไม่จริง เพื่อนหนูก็คงไม่แนะนำให้มาตัดกรรมกับหลวงพ่อหรอก”
“ไหนหลวงพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่องการตัดกรรมไงล่ะค่ะ”
“ตัดกรรม ในความหมายของหนูคืออะไรล่ะ”
“ก็คือตัดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหนูในขณะนี้ซิหลวงพ่อ มันเป็นกรรมของหนูที่ได้ก่อขึ้น เมื่อตัดกรรมแล้ว มันก็หมดกันไป หนูก็จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ถูกหรือคะ”
“เมื่อเช้านี้ หนูกินข้าวกับอะไรล่ะ”
“หนูกินขนมปัง กับนมสดค่ะ”
“ตอนนี้หนูตัดเรื่องกินเมื่อเช้าได้ไหม”
“ได้ซิคะ ก็อย่าคิดถึงมัน หนูก็ตัดได้แล้ว เรื่องจิ๊บๆ”
“มันง่ายไหม ตัดเรื่องกินข้าวเช้าน่ะ”
“โถ.. หลวงพ่อ กินข้าวเช้าเสร็จ มันก็ลืมแล้ว ไม่ยากเลย”
“การกินข้าวเช้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หนูคิดว่าหนูตัดมันได้ง่ายๆ ไหนบอกหลวงพ่อซิ สิ่งที่หนูตัดคืออะไร”
“ความทรงจำเรื่องกินข้าวซิคะ ไม่เห็นต้องถามให้ยุ่งยากเลยหลวงพ่อ”
“ความทรงจำในเรื่องที่เป็นปกติธรรมดา หนูก็รู้สึกว่าตัดได้ง่าย โดยไม่ต้องคิดถึงมัน แล้วเรื่องทำแท้งล่ะ ทำไมถึงไม่ตัดอย่างเรื่องกินข้าว”
“ถ้าตัดได้ หนูจะมาให้หลวงพ่อตัดกรรมทำไมล่ะคะ”
“หนูรู้ไหม การกินข้าวเป็นกรรมดี ที่เราทำแล้วก็มีความสุข ปลดความทุกข์ที่เกิดจากความหิว อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หนูก็รู้สึกว่าตัดได้ง่ายใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“การทำแท้ง เป็นเรื่องไม่ดี เป็นกรรมชั่ว สร้างความทุกข์ทรมานแก่ร่างกายและจิตใจในขณะทำ นำให้ภาพเกิดติดตรึงในห้วงความนึกคิดของผู้ทำอยู่เสมอ หนูถึงบอกว่าตัดไม่ได้ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“หนูจะย้อนกลับไปแก้ไขกรรมในอดีต จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม.. ได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ”
“หนูคิดว่ามีใครในโลกนี้สามารถตัดกรรมตามความคิดของหนู ได้บ้างล่ะ”
“พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านมีบุญบารมีเยอะแยะ ท่านต้องตัดกรรมได้แน่ๆ”
“เอ้า...นั่งหลับตาใหม่ ตั้งใจฟังเรื่องที่หลวงพ่อจะเล่าต่อไปนี้ แล้วคิดตามไปด้วย
พระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาในพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พุทธบริษัท ไม่ประสงค์ให้พุทธบริษัทได้กระทำการอันจะส่งผลให้ตนได้รับความลำบากในอนาคต พระองค์ได้แสดงถึงกรรมเก่าในอดีตชาติที่ส่งผลให้พระองค์ต้องได้รับผลของกรรมนั้นในปัจจุบันชาติ แม้จะเป็นพระพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าคนทั้งปวง พระองค์ตรัสให้พระสงฆ์ฟังว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังกรรมที่เราทำแล้วของเรา เราเห็นภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้ว ได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าในกาลนั้น ผลแห่งกรรม คือการถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้า
ในกาลก่อน เราเป็นนายโคบาล ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นมัว จึงห้ามมัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ (แม้) เราจะกระหายน้ำ ก็ไม่ได้ดื่มน้ำ ตามความปรารถนา
เราได้บริภาษพระสาวกทั้งหลาย ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าผุสสะ ว่าท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง แต่อย่ากินข้าวสาลีเลย ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราอันพราหมณ์นิมนต์แล้ว อยู่ในเมืองเวรัญชาบริโภคข้าวแดงตลอด ๓ เดือน
พระโมคคัลลานะ อัครสาวก ผู้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ก็ยังหนีไม่พ้นวิบากกรรมของท่านเลย ในชาติหนึ่ง ท่านถูกความหลงในภรรยาครอบงำจิตใจ จึงปลอมตัวเป็นโจรร้าย และทำอันตรายแก่พ่อแม่ของตนจนถึงแก่ชีวิต เพราะหลงเชื่อคำยุยงของผู้เป็นภรรยา และจากผลกรรมที่ได้สร้างไว้ในครั้งนั้น ยังผลให้ท่านต้องตกนรกหมกไหม้ และต้องถูกเขาทุบตี จนตายมาแล้วหลายร้อยชาติ จนถึงชาติสุดท้าย ท่านก็มรณภาพเพราะถูกพวกเดียรถีย์รุมทำร้ายจนตาย
พระองคุลิมาล ก่อนบวชก็เป็นมหาโจร ฆ่าคนมากกว่าพันคน แม้จะตรัสรู้เป็นพระอรหันต์แล้ว ไปที่ไหน ผู้คนก็จำได้ว่า ภิกษุรูปนี้คือองคุลีมาลจอมโจรผู้โหดร้าย ผู้ที่เตรียมข้าวของจะใส่บาตรก็พากันวิ่งหนีทิ้งข้าวของ ปิดประตูแน่นหนาไม่ยอมโผล่หน้าออกมา ท่านออกไปบิณฑบาตที่ไหนก็ถูกขว้างปาด้วยก้อนหินก้อนกรวด จนหัวร้างข้างแตกจีวรขาดบาตรทะลุ นี้เรียกว่ากรรมมันตามมาทัน ทำให้ท่านต้องอดอยาก และถูกทำร้ายร่างกาย พระพุทธเจ้าทรงปลอบท่านว่า “องคุลีมาล ต้องอดทนไว้ ต้องชดใช้กรรมที่ตนได้กระทำไว้แล้วแต่ในอดีต” บางคนก็มีจิตเลื่อมใสต่อภิกษุองคุลีมาล บางคนก็โกรธแค้นแค้นดุด่าว่า ขว้างปาด้วยก้อนกรวดก้อนดิน บางคนมิได้มีเจตนาจะทำร้าย แค่ขว้างปาไปในอากาศด้วยความประสงค์อย่างอื่น (คือ เพื่อขับไล่สัตว์ต่างๆ เช่น กา สุนัข สุกรเป็นต้น) แต่ก้อนหินก้อนดินนั้นกลับหวนมาถูกท่านทั้งขาไปและขากลับ บางคราท่านไปบิณฑบาตไม่ได้อาหารแม้แต่ทัพพีเดียว และยิ่งร้ายกว่านั้น พระที่ไปบิณฑบาตร่วมทางเดียว กับท่าน เลยพลอยไม่ได้อาหารไปด้วย พระองคุลีมาลผู้ มีใจสงบระงับแล้ว ได้รับผลของกรรมไปจนสิ้นอายุขัย นิพพานแล้วจึงสิ้นสุด
พระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก ท่านมีบุญญาธิการฤทธานุภาพมาก ท่านก็ไม่สามารถหนีพ้นผลของกรรมที่ท่านได้กระทำไว้แล้วเลย ในโลกนี้ไม่มีใครเลยที่สามารถตัดกรรมได้ คิดตรองดูว่าจริงไหม”
“ฟังหลวงพ่อพูดแล้วเพิ่งคิดได้ตอนนี้แหละค่ะ คนเราก็ช่างพูดเรื่อยเปื่อยกันจนเข้าใจผิด ถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์สินเงินทองมากมาย หนูยอมรับแล้วค่ะ ว่ากรรมของหนู หนูเป็นคนทำ หนูก็ต้องรับผลของกรรมนั้น แล้วนี่หนูต้องถวายสังฆทานให้หลวงพ่อไหมคะ”
“ถ้าคิดทำบุญอุทิศให้ลูกเรา ก็ทำได้ แล้วนี่ไปซื้อของใช้สำหรับเด็กมาเป็นสังฆทานถวายพระ คิดว่าถวายแล้ว ลูกเราจะได้รับเลยรึ”
“ก็ถ้าเขายังไม่ได้ไปเกิด หนูก็คิดว่าเขาคงขาดเสื้อผ้าสิ่งของเหล่านี้ ก็เลยซื้อมาทำสังฆทาน”
“อ้อ.. เห็นพระเป็นนายไปรษณีย์สำหรับส่งของข้ามภพเลยนะ ความจริงหลวงพ่อรับแล้ว ก็นำไปบริจาคต่อให้ก็ได้ แต่กว่าจะถึงมือผู้ใช้ สิ่งของเหล่านี้ก็อาจจะเสื่อม หมดอายุแล้ว ทำไมไม่คิดจะถวายเงินเข้ากองทุนนิธิของวัด ที่มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาบ้างล่ะ เด็กที่ขาดโอกาส ทางการศึกษาจะได้มีอนาคตที่ดีขึ้น เมื่อเขาสุขใจ เขาก็อนุโมทนาบุญให้กับผู้บริจาค เราผู้บริจาคได้อุทิศกุศลให้ลูกเราเมื่อเริ่มต้นไปคราหนึ่งแล้ว เมื่อได้รับฟังคำบอกต่อมาถึงผลบุญนั้นอีก ก็จะสุขใจยินดีเป็นครั้งที่สอง และจะทวีขึ้นไปเมื่อได้ระลึกถึงอีก ลูกเราที่อยู่ในสัมปรายภพก็พลอยได้รับผลบุญที่ตั้งใจอุทิศให้ และสุขใจอยู่เสมอ บุญก็ย่อมอำนวยผลให้สุขไปตลอด แต่บุญนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าเราตั้งใจรักษาศีล ๕ และหมั่นภาวนาทุกค่ำคืน อุทิศให้ลูกเรา ลูกเราก็จะมีบุญบารมีเพิ่มขึ้น หมดวิบากกรรม ได้บุญที่แม่อุทิศไปให้ นำมาเกิดในมงคลสถานต่อไป”
“งั้นหลวงพ่อรับสังฆทานก่อน เดี๋ยวหนูจะนำเงินไปเข้ามูลนิธิเพื่อการศึกษาของวัด แล้วต่อไปหนูก็จะพยายามทำบุญตามที่หลวงพ่อบอก ติดขัดตรงไหนก็จะมาถาม ขอมอบตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อด้วยนะคะ ช่วยเมตตาตักเตือนว่ากล่าวด้วย เพื่อให้ชีวิตของหนูดีขึ้น ต่อไปหนูจะทำแต่กรรมดี ไม่ประมาทในชีวิตอีกแล้ว กลัวจริงๆ ค่ะ”
“เข้าใจแล้วก็ดี แล้วก็ไปอธิบายให้คนที่เขายังเชื่อว่าตัดกรรมได้ ให้เข้าใจให้ถูกต้องตรงตามธรรม ของนี้ถวายไว้แล้วจะจัดการให้ ไม่ต้องทำสังฆทานหรอก เพราะพระใช้ไม่ได้”
“ค่ะ”
“ขอความเจริญในจตุรพิธพรชัย มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ แลความคิดที่ถูกต้องตรงตามธรรม จงมีแก่เธอตลอดไป เทอญ”
“สาธุ หนูกราบลาเลยนะคะ”
“เจริญพร”
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 124 มีนาคม 2554 โดย พระพจนารถ ปภาโส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม)
“ไปทำอะไรมาล่ะโยม ถึงต้องมาตัดกรรม”
“เห็นเขาลือกันว่า หลวงพ่อตัดกรรมเก่งนี่ค่ะ”
“อ้าว ไปฟังจากไหนมาล่ะ อาตมายังไม่รู้เรื่องเลย”
“ก็เพื่อนหนู เขาบอกว่ามาตัดกรรมกับหลวงพ่อ แล้วชีวิตจะดีขึ้นน่ะค่ะ”
“เขาว่าอย่างนั้นหรือ?”
“ค่ะ”
“เอา...เมื่อมาแล้ว ก็ลองคุยกันดู เดี๋ยวนะ ไอ้ต้อยๆ ออกมานั่งเป็นเพื่อนข้าหน่อย”
“ทำไมหลวงพ่อต้องเรียกลูกศิษย์มานั่งเป็นเพื่อนด้วยคะ หลวงพ่อกลัวหนูหรือคะ”
“เปล่า การนั่งสนทนาสองต่อสองกับผู้หญิงดูไม่เหมาะสม เดี๋ยวมีข้อครหาขึ้น เธอก็จะเดือดร้อนไปด้วย ป้องกันไว้ดีกว่า เออ.. ไอ้ต้อย นั่งตรงนั้นล่ะ เป็นเพื่อนข้าหน่อยนะ”
“ครับ”
“จะให้ตัดกรรมเรื่องอะไรล่ะ บอกมาซิ”
“คือตั้งแต่หนูไปทำแท้งมา รู้สึกว่าชีวิตไม่ดีเลย ทำอะไรก็มีอุปสรรค แฟนหนูก็เลิกกัน หนูคิดว่าเป็นกรรมจากที่ไปทำแท้งมา เด็กคงจะอาฆาตหนู ทำให้หนูเดือดร้อนค่ะ จึงอยากให้หลวงพ่อช่วยตัดกรรมให้หน่อยค่ะ”
“หนูรู้ไหมว่ากรรมคืออะไร?”
“กรรมก็คือสิ่งที่ไม่ดีที่หนูกำลังพบอยู่นี่ไงหลวงพ่อ”
“ที่ถามก็เพราะอยากให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ตรงตามธรรม ถ้ามีความเข้าใจถูกต้องแล้ว ก็จะช่วยให้เข้าใจถึงปัญหาชีวิตที่ประสบอยู่”
“แล้วกรรมมันคืออะไรหรือคะ?”
“กรรม โดยความหมายก็คือการกระทำ กรรมดีก็คือการกระทำความดี กรรมชั่วก็คือการกระทำความชั่ว การกระทำหรือกรรม ก็ต้องมีเหตุจูงใจให้กระทำ เช่น อยากได้ของที่ถูกใจชอบใจ ก็ต้องขวนขวายหาเงินไปซื้อของนั้นมา ถ้าเป็นกรรมดี ก็จะต้องทำงานหาเงินโดยสุจริต ถ้าเป็นกรรมชั่ว ก็ต้องทำงานหาเงินโดยทุจริต เช่น ฉก ชิง วิ่งราว เป็นต้น ผลของการกระทำหรือกรรมจึงมี ๒ อย่างคือ ผลกรรมดี กับ ผลกรรมชั่ว
ผลกรรมดี ก็ทำให้จิตใจรื่นเริงเบิกบานมีความสุข ถ้าเราสามารถใช้เงินที่หามาได้ด้วยสุจริตไปซื้อของที่อยากได้ เราก็มีความสุขในของนั้น ผลกรรมชั่ว ก็ทำให้จิตใจทุกข์ยากเดือดร้อน แม้เราจะได้ของที่ต้องการ แต่เราก็ต้องคอยหวาดระแวง ว่าคนอื่นจะจับได้ว่าเราได้เงินมาโดยทุจริต หนูพอเข้าใจไหมในเรื่องกรรมนี่”
“งั้นกรรมที่หนูพูดถึง ก็ไม่ใช่กรรมซิคะ เป็นผลของกรรมที่หนูทำขึ้นเอง”
“ใช่.. กรรมของหนูคือการทำแท้ง หนูว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วล่ะ”
“จะดีได้ไงหลวงพ่อ นี่หนูฆ่าเด็กที่กำลังจะเกิดมาเป็นลูกหนูโดยเจตนานะคะ แต่หนูก็คิดว่าไม่น่าจะผิดมากนัก เพราะถ้าเขาเกิดมาโดยที่หนูไม่พร้อม หนูก็เลี้ยงเขาได้ไม่ดี ชีวิตของเขาก็จะลำบากน่ะค่ะ”
“เอ้า..นี่ กระดาษ..เช็ดน้ำตาก่อน แล้วทำไมถึงปล่อยให้ท้องล่ะ “
“วันวาเลนไทน์ปีที่แล้วหนูฉลองความรักกับแฟน แล้วเมากันทั้งคู่ และหนูก็รักพี่เขามาก อยากให้พี่เขาประทับใจในตัวหนู ก็เลยตามเลยค่ะ เพลินไปหน่อย เผลอนิดเดียวก็สองเดือนกว่าแล้ว พี่เขาก็ให้ไปเอาออก หนูก็พูดอะไรไม่ได้ ก็เสียเงินไปเอาออก จ่ายค่าทำแท้งและค่ายา ตั้งหลายพันเลยค่ะ”
“เออ.. แล้วมารู้สึกตอนไหนล่ะว่าชีวิตเราไม่ดีเลย”
“หลังจากทำแท้งได้เดือนกว่าๆ สุขภาพก็แย่ หงุดหงิด อะไรๆ มันก็ขวางไปหมด ตำหนิตัวเองก็ตำหนินะคะ งานเลยพลอยแย่ไปด้วย พี่เขาก็ทิ้งหนูไปมีคนใหม่อีก ช้ำใจจริงๆค่ะ ชีวิตที่ผ่านมาก็เซ็งระเบิดเลยหลวงพ่อ เพื่อนหนู มันว่ากรรมตามทัน เลยให้หนูมาตัดกรรมกับหลวงพ่อนี่ล่ะค่ะ”
“หนูรู้ไหมว่ากรรมมันอยู่ตรงไหน?”
“เอ๊ะ.. หลวงพ่อพูดแปลกจัง ถ้าหนูรู้ หนูจะมาหาหลวงพ่อหรือคะ “
“ก็อยากให้ลองคิดดู ถ้าหนูบอกได้ว่ากรรมอยู่ตรงไหน หลวงพ่อก็จะได้รู้ว่าต้องตัดกรรมตรงไหน ลองนั่งนิ่งๆ หลับตาคิดดูสิ ว่ากรรมของหนูอยู่ตรงไหน?”
“.......คิดไม่ออกหรอกหลวงพ่อ ยิ่งหลับตา หนูยิ่งเห็นภาพตอนทำแท้งชัดเลย นี่ยังจำความรู้สึกเจ็บจากที่เขาขูดมดลูก ได้เลยนะหลวงพ่อ”
“ใจเย็น ค่อยๆคิด ถ้าคิดไม่ออก ก็นั่งนิ่งๆ สัก ๕ นาที แล้วค่อยคุยกันใหม่”
“........คิดไม่ออกน่ะหลวงพ่อ แย่กว่าเก่าอีกนะหนูว่า นี่เหมือน มีเด็กมานั่งจ้องมองอย่างอาฆาต หนูมากเลย ใช่ลูกหนูที่ทำแท้งหรือเปล่าก็ไม่รู้ หลวงพ่อช่วยดูให้หน่อยสิ ว่าใช่ไหม”
“อาตมาก็ไม่รู้สิ ดูไม่ได้ด้วย”
“อ้าว.. แล้วหลวงพ่อจะตัดกรรมหนูได้อย่างไรล่ะนี่”
“ได้ ถ้าหนูมีความเข้าใจในเรื่องกรรม เราก็ตัดกรรมได้แน่นอน”
“ไม่ต้องถวายสังฆทานหรือหลวงพ่อ”
“ไม่ต้อง.. ลองหลับตาใหม่ คิดในใจตามจังหวะลมหายใจว่า “พุท-โธ ๆ” ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะบอกให้ลืมตา อย่าไปสนใจกับความรู้สึกอื่นๆ ให้จับที่ลมหายใจเข้าออกที่จมูก “เข้า-พุท” “ออก-โธ” ทำไปเรื่อยๆ”
“หลวงพ่อ..หนู เห็นแต่สีแดงเต็มไปหมดเลย จิตใจหนูก็เศร้ามากเลย ไม่เอาแล้ว มันเศร้ามากไป น่ากลัวมากกว่าเก่าอีก”
“ใจเย็นๆ นี่ละคือผลของการทำแท้งที่หนูไปทำมา สีแดงที่เห็นนั่นน่ะ คล้ายสีเลือดไหม”
“ใช่ค่ะ เลือดนองเต็มไปหมดเลยหลวงพ่อ”
“ก็หนูหมกมุ่นอยู่กับเรื่องไปทำแท้งมา จิตใจหนูก็เลยฝังแน่นในภาพของการทำแท้ง ไม่รู้ว่าตอนเขาทำแท้งให้หนู เขาทำสดหรือว่าวางยา”
“เขาฉีดยาชา และทำสดเลยหลวงพ่อ เจ็บมากเลยค่ะ”
“แล้วไปทำกับหมอหรือพยาบาลล่ะ”
“ไปทำกับหมอค่ะ เห็นเพื่อนที่ไปทำกับพยาบาลแล้ว ร่างกายทรุดโทรมทุกคนเลย หนูก็ไม่กล้า เลยจ่ายแพงหน่อย ทำกับหมอดีกว่า”
“หนูก็คงเห็นเลือดเนื้อของตนเองในขณะทำแท้งซิ จึงจำติดตามาตลอดเลย”
“ก็เห็นซิคะหลวงพ่อ แล้วนี่จะตัดกรรมให้หนูอย่างไรคะ”
“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน มาพบพระนี่ต้องใจเย็นๆ ทำจิตใจให้สงบ ไม่ฟุ้งซ่าน แล้วทุกอย่างก็จะดีขึ้นเอง”
“จริงนะหลวงพ่อ”
“ถ้าไม่จริง เพื่อนหนูก็คงไม่แนะนำให้มาตัดกรรมกับหลวงพ่อหรอก”
“ไหนหลวงพ่อบอกว่าไม่รู้เรื่องการตัดกรรมไงล่ะค่ะ”
“ตัดกรรม ในความหมายของหนูคืออะไรล่ะ”
“ก็คือตัดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับหนูในขณะนี้ซิหลวงพ่อ มันเป็นกรรมของหนูที่ได้ก่อขึ้น เมื่อตัดกรรมแล้ว มันก็หมดกันไป หนูก็จะได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ถูกหรือคะ”
“เมื่อเช้านี้ หนูกินข้าวกับอะไรล่ะ”
“หนูกินขนมปัง กับนมสดค่ะ”
“ตอนนี้หนูตัดเรื่องกินเมื่อเช้าได้ไหม”
“ได้ซิคะ ก็อย่าคิดถึงมัน หนูก็ตัดได้แล้ว เรื่องจิ๊บๆ”
“มันง่ายไหม ตัดเรื่องกินข้าวเช้าน่ะ”
“โถ.. หลวงพ่อ กินข้าวเช้าเสร็จ มันก็ลืมแล้ว ไม่ยากเลย”
“การกินข้าวเช้าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว หนูคิดว่าหนูตัดมันได้ง่ายๆ ไหนบอกหลวงพ่อซิ สิ่งที่หนูตัดคืออะไร”
“ความทรงจำเรื่องกินข้าวซิคะ ไม่เห็นต้องถามให้ยุ่งยากเลยหลวงพ่อ”
“ความทรงจำในเรื่องที่เป็นปกติธรรมดา หนูก็รู้สึกว่าตัดได้ง่าย โดยไม่ต้องคิดถึงมัน แล้วเรื่องทำแท้งล่ะ ทำไมถึงไม่ตัดอย่างเรื่องกินข้าว”
“ถ้าตัดได้ หนูจะมาให้หลวงพ่อตัดกรรมทำไมล่ะคะ”
“หนูรู้ไหม การกินข้าวเป็นกรรมดี ที่เราทำแล้วก็มีความสุข ปลดความทุกข์ที่เกิดจากความหิว อันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ หนูก็รู้สึกว่าตัดได้ง่ายใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“การทำแท้ง เป็นเรื่องไม่ดี เป็นกรรมชั่ว สร้างความทุกข์ทรมานแก่ร่างกายและจิตใจในขณะทำ นำให้ภาพเกิดติดตรึงในห้วงความนึกคิดของผู้ทำอยู่เสมอ หนูถึงบอกว่าตัดไม่ได้ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“หนูจะย้อนกลับไปแก้ไขกรรมในอดีต จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วก็ตาม.. ได้ไหม”
“ไม่ได้ค่ะ”
“หนูคิดว่ามีใครในโลกนี้สามารถตัดกรรมตามความคิดของหนู ได้บ้างล่ะ”
“พระพุทธเจ้า พระอรหันต์ ท่านมีบุญบารมีเยอะแยะ ท่านต้องตัดกรรมได้แน่ๆ”
“เอ้า...นั่งหลับตาใหม่ ตั้งใจฟังเรื่องที่หลวงพ่อจะเล่าต่อไปนี้ แล้วคิดตามไปด้วย
พระพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาในพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พุทธบริษัท ไม่ประสงค์ให้พุทธบริษัทได้กระทำการอันจะส่งผลให้ตนได้รับความลำบากในอนาคต พระองค์ได้แสดงถึงกรรมเก่าในอดีตชาติที่ส่งผลให้พระองค์ต้องได้รับผลของกรรมนั้นในปัจจุบันชาติ แม้จะเป็นพระพุทธเจ้า ผู้เลิศกว่าคนทั้งปวง พระองค์ตรัสให้พระสงฆ์ฟังว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟังกรรมที่เราทำแล้วของเรา เราเห็นภิกษุผู้ถืออยู่ป่าเป็นวัตรรูปหนึ่งแล้ว ได้ถวายผ้าเก่า เราปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรก เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าในกาลนั้น ผลแห่งกรรม คือการถวายผ้าเก่า ย่อมอำนวยผลให้เป็นพระพุทธเจ้า
ในกาลก่อน เราเป็นนายโคบาล ต้อนโคไปเลี้ยง เห็นแม่โคกำลังดื่มน้ำขุ่นมัว จึงห้ามมัน ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น ในภพหลังสุดนี้ (แม้) เราจะกระหายน้ำ ก็ไม่ได้ดื่มน้ำ ตามความปรารถนา
เราได้บริภาษพระสาวกทั้งหลาย ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระนามว่าผุสสะ ว่าท่านทั้งหลายจงเคี้ยว จงกินแต่ข้าวแดง แต่อย่ากินข้าวสาลีเลย ด้วยวิบากแห่งกรรมนั้น เราอันพราหมณ์นิมนต์แล้ว อยู่ในเมืองเวรัญชาบริโภคข้าวแดงตลอด ๓ เดือน
พระโมคคัลลานะ อัครสาวก ผู้ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ก็ยังหนีไม่พ้นวิบากกรรมของท่านเลย ในชาติหนึ่ง ท่านถูกความหลงในภรรยาครอบงำจิตใจ จึงปลอมตัวเป็นโจรร้าย และทำอันตรายแก่พ่อแม่ของตนจนถึงแก่ชีวิต เพราะหลงเชื่อคำยุยงของผู้เป็นภรรยา และจากผลกรรมที่ได้สร้างไว้ในครั้งนั้น ยังผลให้ท่านต้องตกนรกหมกไหม้ และต้องถูกเขาทุบตี จนตายมาแล้วหลายร้อยชาติ จนถึงชาติสุดท้าย ท่านก็มรณภาพเพราะถูกพวกเดียรถีย์รุมทำร้ายจนตาย
พระองคุลิมาล ก่อนบวชก็เป็นมหาโจร ฆ่าคนมากกว่าพันคน แม้จะตรัสรู้เป็นพระอรหันต์แล้ว ไปที่ไหน ผู้คนก็จำได้ว่า ภิกษุรูปนี้คือองคุลีมาลจอมโจรผู้โหดร้าย ผู้ที่เตรียมข้าวของจะใส่บาตรก็พากันวิ่งหนีทิ้งข้าวของ ปิดประตูแน่นหนาไม่ยอมโผล่หน้าออกมา ท่านออกไปบิณฑบาตที่ไหนก็ถูกขว้างปาด้วยก้อนหินก้อนกรวด จนหัวร้างข้างแตกจีวรขาดบาตรทะลุ นี้เรียกว่ากรรมมันตามมาทัน ทำให้ท่านต้องอดอยาก และถูกทำร้ายร่างกาย พระพุทธเจ้าทรงปลอบท่านว่า “องคุลีมาล ต้องอดทนไว้ ต้องชดใช้กรรมที่ตนได้กระทำไว้แล้วแต่ในอดีต” บางคนก็มีจิตเลื่อมใสต่อภิกษุองคุลีมาล บางคนก็โกรธแค้นแค้นดุด่าว่า ขว้างปาด้วยก้อนกรวดก้อนดิน บางคนมิได้มีเจตนาจะทำร้าย แค่ขว้างปาไปในอากาศด้วยความประสงค์อย่างอื่น (คือ เพื่อขับไล่สัตว์ต่างๆ เช่น กา สุนัข สุกรเป็นต้น) แต่ก้อนหินก้อนดินนั้นกลับหวนมาถูกท่านทั้งขาไปและขากลับ บางคราท่านไปบิณฑบาตไม่ได้อาหารแม้แต่ทัพพีเดียว และยิ่งร้ายกว่านั้น พระที่ไปบิณฑบาตร่วมทางเดียว กับท่าน เลยพลอยไม่ได้อาหารไปด้วย พระองคุลีมาลผู้ มีใจสงบระงับแล้ว ได้รับผลของกรรมไปจนสิ้นอายุขัย นิพพานแล้วจึงสิ้นสุด
พระพุทธเจ้า พระอรหันตสาวก ท่านมีบุญญาธิการฤทธานุภาพมาก ท่านก็ไม่สามารถหนีพ้นผลของกรรมที่ท่านได้กระทำไว้แล้วเลย ในโลกนี้ไม่มีใครเลยที่สามารถตัดกรรมได้ คิดตรองดูว่าจริงไหม”
“ฟังหลวงพ่อพูดแล้วเพิ่งคิดได้ตอนนี้แหละค่ะ คนเราก็ช่างพูดเรื่อยเปื่อยกันจนเข้าใจผิด ถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์สินเงินทองมากมาย หนูยอมรับแล้วค่ะ ว่ากรรมของหนู หนูเป็นคนทำ หนูก็ต้องรับผลของกรรมนั้น แล้วนี่หนูต้องถวายสังฆทานให้หลวงพ่อไหมคะ”
“ถ้าคิดทำบุญอุทิศให้ลูกเรา ก็ทำได้ แล้วนี่ไปซื้อของใช้สำหรับเด็กมาเป็นสังฆทานถวายพระ คิดว่าถวายแล้ว ลูกเราจะได้รับเลยรึ”
“ก็ถ้าเขายังไม่ได้ไปเกิด หนูก็คิดว่าเขาคงขาดเสื้อผ้าสิ่งของเหล่านี้ ก็เลยซื้อมาทำสังฆทาน”
“อ้อ.. เห็นพระเป็นนายไปรษณีย์สำหรับส่งของข้ามภพเลยนะ ความจริงหลวงพ่อรับแล้ว ก็นำไปบริจาคต่อให้ก็ได้ แต่กว่าจะถึงมือผู้ใช้ สิ่งของเหล่านี้ก็อาจจะเสื่อม หมดอายุแล้ว ทำไมไม่คิดจะถวายเงินเข้ากองทุนนิธิของวัด ที่มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาบ้างล่ะ เด็กที่ขาดโอกาส ทางการศึกษาจะได้มีอนาคตที่ดีขึ้น เมื่อเขาสุขใจ เขาก็อนุโมทนาบุญให้กับผู้บริจาค เราผู้บริจาคได้อุทิศกุศลให้ลูกเราเมื่อเริ่มต้นไปคราหนึ่งแล้ว เมื่อได้รับฟังคำบอกต่อมาถึงผลบุญนั้นอีก ก็จะสุขใจยินดีเป็นครั้งที่สอง และจะทวีขึ้นไปเมื่อได้ระลึกถึงอีก ลูกเราที่อยู่ในสัมปรายภพก็พลอยได้รับผลบุญที่ตั้งใจอุทิศให้ และสุขใจอยู่เสมอ บุญก็ย่อมอำนวยผลให้สุขไปตลอด แต่บุญนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะถ้าเราตั้งใจรักษาศีล ๕ และหมั่นภาวนาทุกค่ำคืน อุทิศให้ลูกเรา ลูกเราก็จะมีบุญบารมีเพิ่มขึ้น หมดวิบากกรรม ได้บุญที่แม่อุทิศไปให้ นำมาเกิดในมงคลสถานต่อไป”
“งั้นหลวงพ่อรับสังฆทานก่อน เดี๋ยวหนูจะนำเงินไปเข้ามูลนิธิเพื่อการศึกษาของวัด แล้วต่อไปหนูก็จะพยายามทำบุญตามที่หลวงพ่อบอก ติดขัดตรงไหนก็จะมาถาม ขอมอบตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อด้วยนะคะ ช่วยเมตตาตักเตือนว่ากล่าวด้วย เพื่อให้ชีวิตของหนูดีขึ้น ต่อไปหนูจะทำแต่กรรมดี ไม่ประมาทในชีวิตอีกแล้ว กลัวจริงๆ ค่ะ”
“เข้าใจแล้วก็ดี แล้วก็ไปอธิบายให้คนที่เขายังเชื่อว่าตัดกรรมได้ ให้เข้าใจให้ถูกต้องตรงตามธรรม ของนี้ถวายไว้แล้วจะจัดการให้ ไม่ต้องทำสังฆทานหรอก เพราะพระใช้ไม่ได้”
“ค่ะ”
“ขอความเจริญในจตุรพิธพรชัย มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติ แลความคิดที่ถูกต้องตรงตามธรรม จงมีแก่เธอตลอดไป เทอญ”
“สาธุ หนูกราบลาเลยนะคะ”
“เจริญพร”
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 124 มีนาคม 2554 โดย พระพจนารถ ปภาโส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม)