ปัตตานี - แม่ทัพภาคที่ 4 เผยเจ้าหน้าที่มีจุดอ่อนในการ รปภ.พระ เป็นช่องว่างทำให้คนร้ายใช้ก่อเหตุได้ ซึ่งต่อไปจะต้องแก้ไขให้มากขึ้น ขณะที่พระในเขตเทศบาลไม่ต้องการให้มี จนท.ติดตาม
วันนี้ (6 มี.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกรณีคนร้ายลอบยิงพระเสียชีวิตและบาดเจ็บว่า สาเหตุมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามให้มีความแตกแยกในเรื่องศาสนาระหว่างไทยมุสลิมและไทยพุทธ เพราะก่อนหน้านี้มีการยิงอิหม่ามเสียชีวิต และมีการปล่อยข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนกระทำ ซึ่งตนก็ได้กำชับให้กองกำลังทุกฝ่ายดูแลความปลอดภัยพระมาตลอดโดยเฉพาะหลังการก่อเหตุยิงอิหม่ามเสียชีวิต แต่อาจจะมีจุดอ่อนตรงที่ส่งพระไม่ทันเข้าวัด ทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งต่อไปจะต้องแก้ไขให้มากขึ้น
ส่วนแผนรักษาความปลอดภัยพระในขั้นต่อไปนั้น คงต้องโซนนิ้งในเรื่องของการออกบิณฑบาตรโดยการปรับแผนในการ รปภ.ว่าพระจะออกไปบิณฑบาตถนนสายไหนบ้างก็จัดกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด และจะใช้กองกำลังประชาชนเข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะซ้ำซาก แต่ก็ไม่เต็มทุกพื้นที่ มีเพียงบางส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามดูจุดอ่อนของเรา ซึ่งตนได้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี มาร่วมประชุมหลังเกิดเหตุว่า ให้หาจุดอ่อนของเราว่าอยู่ตรงไหน ประเด็นสำคัญคือ เราจะต้องคุ้มครองให้ 100%ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ 100% ก็ต้องปรับให้ดีขึ้น
ส่วนจะเป็นเรื่องของการประมาทของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น จริงๆ แล้วในเขตเทศบาล ทางพระไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เดินตาม ให้เพียงวางจุดและใช้รถลาดตระเวน แต่คนร้ายก็อาศัยจังหวะที่เป็นช่องว่างในการก่อเหตุ ต่อไปนี้จะต้องปรับแผนบางส่วน คงจะต้องดูคนที่เป็นตัวฮาร์ดคอร์จริงๆ เราจะทำอย่างไรให้คนพวกนี้ไม่กล้าทำไม่กล้าก่อเหตุ เราจะดำเนินการอย่างไร ตนคงไม่ขอพูดต่อในรายละเอียดนี้
วันนี้ (6 มี.ค.) พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยกรณีคนร้ายลอบยิงพระเสียชีวิตและบาดเจ็บว่า สาเหตุมีคนกลุ่มหนึ่งที่พยายามให้มีความแตกแยกในเรื่องศาสนาระหว่างไทยมุสลิมและไทยพุทธ เพราะก่อนหน้านี้มีการยิงอิหม่ามเสียชีวิต และมีการปล่อยข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐเป็นคนกระทำ ซึ่งตนก็ได้กำชับให้กองกำลังทุกฝ่ายดูแลความปลอดภัยพระมาตลอดโดยเฉพาะหลังการก่อเหตุยิงอิหม่ามเสียชีวิต แต่อาจจะมีจุดอ่อนตรงที่ส่งพระไม่ทันเข้าวัด ทำให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งต่อไปจะต้องแก้ไขให้มากขึ้น
ส่วนแผนรักษาความปลอดภัยพระในขั้นต่อไปนั้น คงต้องโซนนิ้งในเรื่องของการออกบิณฑบาตรโดยการปรับแผนในการ รปภ.ว่าพระจะออกไปบิณฑบาตถนนสายไหนบ้างก็จัดกำลังดูแลอย่างใกล้ชิด และจะใช้กองกำลังประชาชนเข้ามาช่วยอีกทางหนึ่ง
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะซ้ำซาก แต่ก็ไม่เต็มทุกพื้นที่ มีเพียงบางส่วนที่ฝ่ายตรงข้ามดูจุดอ่อนของเรา ซึ่งตนได้เรียกผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจ และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี มาร่วมประชุมหลังเกิดเหตุว่า ให้หาจุดอ่อนของเราว่าอยู่ตรงไหน ประเด็นสำคัญคือ เราจะต้องคุ้มครองให้ 100%ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำเต็มที่แล้ว แต่ก็ยังไม่ 100% ก็ต้องปรับให้ดีขึ้น
ส่วนจะเป็นเรื่องของการประมาทของเจ้าหน้าที่หรือไม่นั้น จริงๆ แล้วในเขตเทศบาล ทางพระไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เดินตาม ให้เพียงวางจุดและใช้รถลาดตระเวน แต่คนร้ายก็อาศัยจังหวะที่เป็นช่องว่างในการก่อเหตุ ต่อไปนี้จะต้องปรับแผนบางส่วน คงจะต้องดูคนที่เป็นตัวฮาร์ดคอร์จริงๆ เราจะทำอย่างไรให้คนพวกนี้ไม่กล้าทำไม่กล้าก่อเหตุ เราจะดำเนินการอย่างไร ตนคงไม่ขอพูดต่อในรายละเอียดนี้
