xs
xsm
sm
md
lg

รายงานพิเศษ : Ignite Thailand++ ความรัก ฉบับ พลังบวก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วนิษา  เรซ
ผ่านพ้นไปแล้ว สำหรับ “Ignite Thailand” ครั้งที่ 3 เวทีสร้างสรรค์ ที่มีการเปิดพื้นที่ให้กับผู้นำความคิด และผู้ที่มีประเด็นจากหลากหลายวงการ สาขาอาชีพกว่า 22 คน มาเป็น Igniter หรือวิทยากรบอกเล่าเรื่องราว ข้อคิด แรงบันดาลใจในระยะเวลาสั้นๆ เพียงคนละ 5 นาที เพื่อปลุกพลังบวกและเปลี่ยนประเทศไทย งานนี้ไม่เพียงกระตุ้นผู้ฟัง ได้ตระหนักคิด แต่ยังสะกิดต่อมพลังบวกให้เกิดขึ้นในตัวตนอีกด้วย อีกทั้งยังทำให้รู้จักความหมายของคำว่าพลังบวกในอีกแง่มุมหนึ่งที่แตกต่างออกไป แต่สอดคล้องกับกระแสในเดือนแห่งความรักในห้วงเวลานี้

ธรรมลีลาฉบับเทศกาลแห่งความรักนี้ ขอนำเสนอข้อคิด เรื่องราวที่น่าสนใจอันเกี่ยวกับความรัก จาก 3 Igniter ชื่อดังจาก 3 วงการ “สรกล อดุลยานนท์, วานิษา เรซ และพรวรินทร์ นุตราวงศ์” มาร่วมถ่ายทอดและแบ่งปันนิยามของความรัก รักตามแบบฉบับสาวยุคใหม่ และกอดช่วยต่อพลังรักได้อย่างไร ร่วมค้นหาคำตอบดังต่อไปนี้..

รัก คือ พลังบวก

สรกล อดุลยานนท์ 1 ใน Igniter คอลัมนิสต์ เจ้าของนามปากกา “หนุ่มเมืองจันท์” จากค่ายสื่อในเครือมติชน และเจ้าของผลงานเขียนที่ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม “Positive Thinking” พร้อมกับคำนิยามในทฤษฎีของคำว่า “รัก” หรือ LOVE เขาบอกว่า คำว่า “รัก” ประกอบด้วยคำ 2 คำ ได้แก่ “ร.” ซึ่งหมายถึงเรา แต่ “ก”.มาจากคำว่า กู ซึ่งหมายถึง ก.ของกู โดยมีสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ สระไม้หัน อากาศ หากพิจารณาดูให้ดีพบว่ามีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ดังนั้นองค์ประกอบทั้งสามมารวมกันจึงเป็นคำว่ารัก ทั้งนี้คำว่าความรักนั้นไม่ใช่เป็นเรื่องเหตุผล แต่มันเป็นความรู้สึก เป็นเรื่องหัวใจที่สำคัญกว่าเหตุผล จากเรื่องความรักของคนสองคนนั้น นำไปสู่ความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือ ความรักในประเทศที่เราอาศัยอยู่ โดยที่ทั้งฉันและเธอยังคงยืนอยู่ได้

“บางครั้งความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เราเคยสงสัยหรือไม่ว่า มันอาจเกิดจากเพราะการที่เรา “มีฉัน มีเธอ” ซึ่งบางทีในวันนี้เราจำเป็นต้องใช้ไม้หันอากาศหรือหัวใจให้หันหน้าเข้าหากันมากกว่าเหตุผลอื่นๆ และใช้ความรู้สึกเป็นเข็มทิศนำทาง ดังนั้นเราจึงจะต้องกล้าให้อภัยซึ่งกันและกัน โดยบางครั้งเราต้องยอมรับความเจ็บปวดของผู้อื่น นั่นคือ ความรัก

ทั้งนี้ คำว่ารัก สามารถมองได้อีกมุมหนึ่งและค้นพบว่ารักก็คือ “บวก” ซึ่งทั้งสองคำนี้หากเปรียบเทียบคำต่อคำจะพบว่า รักเป็นคำที่มีไม้หันอากาศ ซึ่งเปรียบเสมือนหัวใจที่เชื่อมเข้าหากัน ส่วนบวกมีอักษร “ว.” เปรียบเสมือน เส้นตั้งฉากนั่นคือตัวเราสองเส้นที่โค้งขยับเข้าหากัน ดังนั้นพลังบวก แท้จริงคือความรักนั่นเอง” หนุ่มเมืองจันท์อธิบาย

ปลุกพลังบวก+++

เมื่อความรัก คือ พลังบวกอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องรู้วิธีสร้างพลังบวกเช่นกัน 1 ใน 3 Igniter วนิษา เรซ หรือ “หนูดี” ซึ่งเป็นนักคิดนักเขียนชื่อดัง ได้มาร่วมแบ่งปันพลังสร้างสรรค์ เธอแนะนำถึงเทคนิคสร้างพลังบวกว่า อันดับแรก จะต้องไม่กลัวพลังลบ (ได้แก่ อารมณ์เสีย โกรธ เศร้า หรือทุกข์ใจ) พร้อมรับมือและรู้วิธีรับมือ ก็จะทำให้พลังบวกมาอยู่กับตัวเราแทบไม่ต้องสร้างเลย ตรงกันข้ามถ้าหากเราพยายามสร้างพลังบวกให้ใหญ่ พลังลบก็จะใหญ่ตามไปด้วย ซึ่งก็จะทำให้เราสับสน ว่าเป็นประเภทพลังลบหรือพลังบวกกันแน่ หรือเป็นคนอารมณ์เสียหรือ เพราะโดยธรรมชาติรอบตัวเรามักมีแต่พลังลบทำให้เรารู้สึกแย่ ดังนั้น ถ้าหากรู้วิธีจัดการกับพลังลบก็จะทำให้สามารถรับมือกับสิ่งเหล่านั้นได้ดี

“วิธีที่หนูดีใช้ได้ดีและเห็นผลมาแล้ว คือ ไม่กลัว จากเดิมที่ไม่อยากเจอสิ่งที่ไม่ดี ไม่อยากร้องไห้ ไม่อยากเสียใจ ไม่อยากผิดหวัง เพราะกลัวสิ่งเหล่านี้มาก ซึ่งเป็นเครื่องหมายของคนอ่อนแอ คนล้มเหลว แต่เมื่ออายุมากขึ้น เติบโตขึ้น จึงได้เรียนรู้กับสิ่งที่เป็นพลังลบมากขึ้น และ เป็นบทเรียนที่ต้องสอบผ่านไปให้ได้ แต่ถ้าหากสอบตก บทเรียนนั้นก็จะกลับมาหาเราเรื่อยๆ แต่ถ้าเราไม่กลัวแล้ว พลังลบทั้งหลายก็จะไม่กลับมาหาตัวเราอีก”

ความรัก สไตล์ วนิษา เรซ

สำหรับความรักตามแบบฉบับของเธอ วนิษาบอกว่า มี 2 แบบ ได้แก่ ความรักในครอบครัว กับความรักนอกครอบครัว สำหรับความรักในครอบครัวเป็นความรักที่ไม่เคยตั้งคำถาม แต่มีอะไรให้หมดเลยรวมทั้งความไว้วางใจที่มอบให้ก็ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น หากเป็นคนในครอบครัวก็จะได้ทุกอย่างไปจากใจของหนูดีทั้งหมด เพราะทันทีที่ก้าวออกจากประตูบ้านออกมาก็จะไม่ไว้ใจใครเลยสักคนเดียว แม้ว่าจะมีเพื่อนและรักเพื่อน

“อาจเพราะเป็นผู้หญิง ซึ่งหล่อหลอมว่าถ้าเรารักคนอื่นมากกว่าตัวเอง เราจะต้องเจ็บใจ เสียใจ แต่ความรักในครอบครัว พี่น้อง ซึ่งอนาคตหากใครแต่งงานไปก็จะบอกกับสามีว่า เราไม่ได้รักเขาแบบไม่มีเงื่อนไข เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นคนในครอบครัว ดังนั้นความรักสำหรับเขาจึงมีเงื่อนไข ซึ่งเขาจะต้องทำตัวดี หากเขาทำตัวไม่ดี ทำร้ายจิตใจ เราก็ไม่รักและให้ความไว้วางใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ถึงแม้จะมีคนมาบอกว่าความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาตั้งอยู่ในความไว้วางใจ

ดังนั้นหากเราต้องการมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้ ต้องเข้าใจว่าความรักมีหลายประเภท และมีความรักบางประเภทที่สามารถทำให้ถึงตายได้ โดยเฉพาะความรักฉันท์ หนุ่มสาวที่ทำให้ถึงขั้นฆ่าตัวตาย เพราะฉะนั้น จงรักตัวเองและพร้อมปกป้องตัวเองให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ก่อน แล้วจะมีชีวิตที่โอเคกับความรักที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน มันเป็นวิธีคิดที่จะช่วยไม่ให้ผู้หญิงยุคใหม่ไม่เสียใจเพราะความรัก”


ขณะที่ความรักนอกครอบครัว สำหรับเธอเชื่อมั่นว่า จะไม่ทรยศหรือหักหลังอย่างแน่นอน คือ งาน เธอรักงานเสมือนรักคนคนหนึ่งเลย เพราะสังเกตว่าไม่ว่าให้อะไรไปกับงานไม่เคยย้อนกลับมาทำร้าย ทุ่มเทให้งานไปเท่าไหร่ผลงานก็ย้อนกลับมาเท่ากัน และงานไม่เคยทอดทิ้ง ขณะที่การให้ความรักไปกับคน มักมาพร้อมกับความเสี่ยงมากๆ โดยเฉพาะความผิดหวัง อย่างไรก็ตาม ความรักกับงานก็มีข้อจำกัด เพราะงานไม่มีชีวิต ดังนั้นจำเป็นต้องเฉลี่ยความรักให้กับครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต นอกจากงานแล้วยังมีเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอบอกว่ารักมากเช่นกัน โดยเมื่อก่อนปฏิบัติกับเงินอย่างเกรงกลัวมาก เพราะไม่ได้ร่ำเรียนด้านการเงิน ดังนั้นจึงไม่กล้าเอาเงินไปลงทุนอะไรมาก แต่เมื่อมีประสบการณ์สามารถหา เงินด้วยตัวเองมาเป็นเจ้าภาพในการปฏิบัติธรรมได้ ทำให้รู้สึกรักเงินมาก “เพราะมีเขา(เงิน) จึงสนองความตั้งใจอยากทำของเราได้” วนิษา เรซ บอก

กอด = พลังแห่งรัก

พยาบาลวิชาชีพ “พรวรินทร์ นุตราวงศ์” จากวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล สำนักการแพทย์ กับพลังความรักที่ดูแลสามี จนทำให้สามี หายป่วย จนเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดพลังความรักที่มีอยู่ให้ผู้อื่นอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย จนมีความหวังในการใช้ชีวิตที่ยืนยาวขึ้น เธอถ่ายทอดเรื่องราว ซึ่งเป็นประสบการณ์ส่วนตัวให้ฟังว่า สามีเป็นมะเร็ง ซึ่งคุณหมอบอกว่าไม่มียารักษาและจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก แต่ก็ตัดสินใจเสี่ยงรักษาให้เต็มที่ สุดความสามารถด้วยการใช้ยาเคมีนานอยู่ครั้ง แต่สามีก็ยังคิดฆ่าตัวตาย

ดังนั้นเธอได้เข้าไปกอดเขาและบอกรัก พร้อมทั้งยุติการรักษาด้วยยา ซึ่งตอนนั้นเชื่อว่าเมื่อหยุดการรักษาแล้วสามีคงอยู่ได้ไม่นาน แต่หลังจากที่กอดสามีและบอกกับสามีทุกวันว่า “พี่อย่าตายนะ ถ้าไม่มีพี่คงเลี้ยงลูกไม่ได้ ลูกคงหมดอนาคต ทำแบบนี้นับ 10 ครั้งติดต่อกันทุกวัน” ผลกลับตรงกันข้าม 6 ปีผ่านไปสามียังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้

“แรงบันดาลใจครั้งนี้ ทำให้ดิฉันมีจิตอาสาเป็นพยาบาลอาสาสมัครรักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายด้วยการกอดและสอนให้ทุกคนรู้จักกอด ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าแบบพ่อกอดลูก แบบแม่กอดลูก หรือแบบลูกกอด พ่อและแม่ รวมทั้งสอนคุณป้าคนหนึ่งให้กอดคุณลุงซึ่งเป็นสามี ซึ่งเป็นโรคที่หมอชี้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียงแค่ เดือนเดียว แต่หลังจากคุณป้ากอด บอกรักและให้กำลังใจ คุณลุง ผลที่สุดคุณลุงอยู่ได้อีก 8 เดือน ซึ่งก่อนคุณลุงจากไป คุณป้าได้เข้าไปกอดและสวดมนต์ในวาระสุดท้ายก่อนจากไปอย่างมีความสุข”
พรวรินทร์บอกในตอนท้าย

รู้จัก Ignite Thailand++

Ignite
เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้ผู้คนจากสารพัดวงการนำเสนอความคิดที่สร้างสรรค์ จุดประกายไอเดียใหม่ๆ หรือเล่าเรื่องราวที่จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจแก่ผู้ฟัง ผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบต่างๆ ที่แต่ละคนถนัด ในบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ซึ่งงานนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Pecha Kucha Nights นั่นเอง ทั้งนี้ Igniters (วิทยากร) แต่ละท่านจะมีเวลาพูดคนละ 5 นาที ผ่านสไลด์ 20 แผ่น โดยแต่ละแผ่นจะเปลี่ยนภายในเวลา 15 วินาที งาน Ignite นี้จัดครั้งแรก เมื่อปี 2006 ที่ Seattle จากนั้นนิยมจัดกัน ไม่ว่าจะเป็น Finland, France หรือ New York และอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับแผนการดำเนินงานด้านกิจกรรมของเครือข่ายพลังบวกนั้น หนึ่งในกิจกรรมสำคัญ คือ การจัดให้มีเวที อิกไนท์ ไทยแลนด์ (Ignite Thailand) ซึ่งเป็นการเปิดพื้นที่ให้กับผู้ที่มีประเด็นต่าง ในแต่ละชุมชน ได้ปลดปล่อยศักยภาพในการแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องสิทธิอย่างสร้างสรรค์แบบเป็นระบบและยั่งยืน เพื่อจุดประกายความคิด "ปลุกพลังบวกเปลี่ยนประเทศไทย" เวที อิกไนท์ไทยแลนด์ บวก บวก (Ignite Thailand+) ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูด แต่ยังเปิดโอกาสให้แนวร่วมคิดบวกได้รับฟังแนวคิดสร้างสรรค์ และแง่มุมต่างๆ ที่น่าสนใจ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

มิติความรัก
ในมุมมองของพุทธศาสนา

ศาสนาพุทธ ความรัก คือ ความทุกข์ รักน้อยทุกข์น้อย รักมากทุกข์มาก ไม่รักเลยไม่ทุกข์เลย ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์
หากแต่คำกล่าวนี้ แท้จริง ไม่ได้สื่อความว่าไม่ให้คนเรารักกัน แต่ความ รักที่ ให้แก่กันจะต้องเป็นความรักที่มอบให้อย่างบริสุทธิ์ใจอย่างมีเมตตา ไม่คิดยึดติดในอารมณ์ รูป รส กลิ่น เสียงหรือความรู้สึกต่อความรักนั้นๆ การแผ่เมตตาก็ถือเป็นความรักรูปแบบหนึ่ง

ศาสนาพุทธแบ่งความรัก (ปิยัง) เป็น 4 อย่าง คือ

1. สิเนหา
ความรักที่เกิดจากความต้องการทางเพศหรือลุ่มหลงเทิดทูน

2. ปิยะ ความรักที่เกิดจากสัญชาตญาณหรือความรักในเครือญาติ

3. เปมัง ความรักที่เกิดจากความผูกพัน และช่วยเหลือกันมา

4. เมตตา ความรักที่เกิดจากการฝึกให้คุณธรรมเกิด มีขึ้นในจิตใจให้รักผู้อื่นไม่เห็นแก่ตัว

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 123 กุมภาพันธ์ 2554 โดย จิราจารีย์ ชัยมุสิก)
สรกล  อดุลยานนท์
พรวรินทร์  นุตราวงศ์
กำลังโหลดความคิดเห็น