ความรู้คู่สุขภาพ

• วิจัยสมุนไพร "รางจืดดอกม่วง" ช่วงล้างพิษ

นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์แผนไทย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า รางจืดเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณใช้ในการล้างพิษ แต่ชนิดที่มีสรรพคุณล้างพิษจะต้องเป็นชนิดเถามีดอกสีม่วงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่ารางจืดยังมีสรรพคุณช่วยแก้อาการปวดหัวหลังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนการกินนั้นสามารถทำได้หลายวิธี เช่น กินใบ เถาแบบสดๆ หรือนำมาบดพอกแผล และขณะนี้ยังมีผู้นำไปผลิตเป็นชาผงสำหรับชงด้วย

ที่ผ่านมา มีการวิจัยสารสกัดจากใบรางจืดจำนวนมาก โดยพบว่ามีฤทธิ์สูงสุดในการถอนพิษที่มีผลต่อระบบประสาทเช่น ยาฆ่าแมลง สารเสพติด แอลกอฮอล์ นอกจากนี้ยังมีรายงานเมื่อปี 2552 ว่าผู้ป่วยที่ได้รับพิษจากการกินยำไข่แมงดาทะเล ซึ่งการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่มียาถอนพิษที่จำเพาะต่อสารนี้ ความรุนแรงของอาการผันแปรตามปริมาณของไข่แมงดาทะเลที่กิน ซึ่งพบว่าสารสกัดด้วย น้ำจากใบรางจืดสามารถช่วยถอนพิษผู้ป่วยระยะวิกฤตระดับ 4 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และรูม่านตาไม่ตอบสนอง 2 ราย ให้กลับฟื้นเป็นปกติได้หลังได้รับสารสกัดสมุนไพรเป็นเวลา 40 นาที

• การนอนหลับช่วยความจำดีขึ้น
เกิดความคิดสร้างสรรค์

ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่า การนอนหลับช่วยรวบรวมความจำเก็บไว้ในสมอง เพื่อจะเรียกใช้ได้เมื่อต้องการ นั่นคือ ช่วยให้ความจำดีขึ้นนั่นเอง ล่าสุดบทความในวารสาร “Current Directions in Psychological Science” พูดถึงการวิจัยในปัจจุบันที่ระบุว่า การนอนหลับยังช่วยจัดระบบความจำใหม่ มันจะคัดเลือกรายละเอียดด้านอารมณ์ นำมาผสมผสานกับความจำ ช่วยให้เกิดความคิดใหม่ที่สร้างสรรค์

เจสสิกา ดี เพนน์ แห่งมหาวิทยาลัยนอเทอร์ เดม หนึ่งในผู้เขียนรายงานวิจัยเรื่องนี้ร่วมกับ อลิซาเบธ เอ เคนซิงเจอร์แห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน กล่าวว่า “คนมักเข้าใจผิดว่า สมองจะไม่ทำงานขณะที่คนนอนหลับอยู่ แท้จริงแล้ว มันทำงานตลอดเวลา และไม่เพียงเก็บรวบรวมความจำเท่านั้น แต่มันยังจัดระเบียบและคัดเลือกข้อมูลที่สำคัญที่สุด และนั่นคือสิ่งที่อาจทำให้คนเกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ”

โดยทั้งสองศึกษาว่า เกิดอะไรขึ้นระหว่างการนอนหลับ และได้ตรวจวัดการทำงานของสมอง พบว่า บริเวณสมองที่รวมเรื่องความจำและอารมณ์ ยังคงทำงาน และพบว่า บุคคลมีแนวโน้มที่จะจดจำเรื่องราวที่สะเทือนอารมณ์มากที่สุด

• มะเขือเทศมีสารป้องกันโรคหลอดเลือด

ดร.เทรุโอะ คาวาดะ จากมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ค้นพบว่า มะเขือเทศมีสารอาหารชนิดหนึ่งที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือด โดยการวิจัยครั้งนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Molecular Nutrition & Food Research

“ภาวะไขมันสูงกว่าปกติ มักไม่แสดงอาการ แต่มันอาจก่อให้เกิดอาการของโรคหลอดเลือด เช่น ภาวะผนังเส้นเลือดแดงหนาและมีความยืดหยุ่นน้อยลง และตับแข็ง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องหาทางป้องกันไม่ให้ไขมันสูง” ดร.คาวาดะ กล่าว

เป็นที่ทราบกันแล้วว่า มะเขือเทศมีสารประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่การวิจัยครั้งนี้เน้นการวิเคราะห์กรด 9-oxo-octadecadienoic เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ที่มันอาจมีฤทธิ์ต่อต้านภาวะไขมันสูงเกินปกติ

และการวิจัยพบว่า กรดดังกล่าวช่วยเพิ่มปฏิกิริยารวมตัวของกรดไขมันและออกซิเจนให้มีมากขึ้น ช่วยควบคุมกระบวนการเผาผลาญไขมันในตับทำงานให้เป็นปกติ จึงสามารถยับยั้งภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดได้

• เลิกบุหรี่ลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจได้ทันที

ดร. โดนัลด์ ลอยด์ โจเนส จากศูนย์ป้องกันโรคหัวใจ สถาบันหัวใจและหลอดเลือด Bluhm ในสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า“โรคหัวในและหลอดเลือด เป็นสาเหตุอันดับ 1 ในการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน แต่เราสามารถลดการการเสียชีวิตลงได้ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต ตัวอย่างเช่น การลดน้ำหนักและการสูบบุหรี่ นอกจากจะเป็นการลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว มันยังทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย”

นอกจากนี้ การเลิกบุหรี่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มีสุขภาพดีขึ้น และช่วยลดการเสียชีวิตก่อนวัยอันสมควร และประโยชน์ที่ได้รับทันทีเมื่อเลิกบุหรี่ คือ ความดันโลหิตจะลดลงหลังการเลิกบุหรี่ 20 นาที

• วิจัยพบออกกำลังกายเป็นประจำ
ยืดอายุผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก

นักวิจัยจากวิทยาลัยสาธารณสุขฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่ออกกำลังกาย 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ขึ้นไป มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตลดลง 61% เมื่อเทียบกับผู้ ที่ออกกำลังกายน้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์
การศึกษาครั้งนี้พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่ออกกำลังกายด้วยการเดินแบบธรรมดา ไปจนถึงเดินเร็ว ตั้งแต่ 90 นาทีขึ้นไปต่อสัปดาห์ มีอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคใดๆ ลดลง 46 % เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่ออกกำลังกายด้วยการเดินน้อยกว่า 90 นาทีต่อสัปดาห์

“งานวิจัยของเราแนะให้ผู้ชายที่ต้องการลดอันตรายจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากหลังจากตรวจพบ โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งนับว่าเป็นข่าวดีของผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากที่ต้องการดูแลตนเองให้มีอายุที่ยืนนาน” นักวิจัยกล่าว

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 123 กุมภาพันธ์ 2554 โดย ธาราทิพย์)