xs
xsm
sm
md
lg

บทความจาก นสพ. ผู้จัดการ

x

สื่อใจสมานสร้างสรรค์:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอมทุกข์เพราะการกระทำชั่วของคนอื่น
ดีกว่าต้องลงมือกระทำชั่วด้วยตัวเอง
แม้บาปที่ทำแล้วมันแก้ไม่ได้
แต่นิสัยชั่วที่เราประพฤติอยู่นั้นมันแก้ไขได้
การตัดกรรมให้หมดไป จึงเป็นไปไม่ได้
หากจะพอตัดได้ ก็คือการตัดเวร
ตัดความผูกพยาบาทอาฆาตกัน

เรื่องที่ 121 ตัดเวร ตัดกรรม ตัดใจ

ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ เสมือนกระจกสะท้อนอย่างซื่อตรง ให้เห็นภาพการกระทำของมนุษย์ที่มีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อยู่เสมอ แต่อาจล่าช้าไม่ทันใจผู้เฝ้าดูและรอลุ้นอยู่ อย่างเช่น กว่ามวลพลังของความร้อนจะรวมกันก่อตัวเป็นหยาดฝนตกลงมาราดรดเพื่อดับไฟที่จุดโดยคนเผาป่า เผาบ้าน เผาเมือง ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งค่อนสัปดาห์ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องอาศัยจังหวะเวลาตามกำหนดกฎมาตรฐานของตน

คนที่ทำร้ายคนรอบข้างด้วยความไม่รู้จักตนเองดีพอ และไม่ได้ศึกษาให้รู้หลักธรรมตามธรรมชาติ จึงมักถูกลากจูงไปตามแรงผลักแรงดันของกลุ่มชนที่เลือกไปมีสัมพันธ์ร่วม น่าเห็นใจในจุดของความไม่รู้นะคะ แต่หากทั้งๆ ที่รู้แล้ว แต่ยังดื้อกระทำกรรม แม้เทวดาจะเห็นใจ แต่สวรรค์ก็ต้องลงโทษค่ะ

ในหนังสือฐานิยปูชา 80 ปี หลวงพ่อพุธ มีธรรมบรรยายเกี่ยวกับเรื่อง พิธีการตัดกรรม มีประเด็นน่าสนใจ ขอคัดย่อมาให้อ่าน เพื่อเปิดของคว่ำให้หงาย เผื่อจะปรับใจให้ถูกต้องได้ทันเหตุการณ์ก่อนที่จะถลำลึกลงไปในทะเลเดือดของคนเลือดพล่าน

*พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ว่า ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นแน่นอน หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การไปทำพิธีตัดกรรม ก็เป็นการลบล้างคำสอนของพระพุทธเจ้า กรรมใดใครก่อ ใครทำลงไปแล้ว ใจเป็นผู้จงใจ คือมีเจตนาที่ทำลงไป พอทำลง ไปแล้ว ย่อมก่อกรรมอันเป็นบาป

ต่อเมื่อภายหลังเรามานึกว่าเราไม่ต้องการผลของบาป มันก็หลีกเลี่ยงปฏิเสธไม่ได้ เพราะใจเป็นผู้สั่งให้กาย วาจา ทำลงไป พูดออกไป ใจตัวนี้ต้องรับผิดชอบโดยความเป็นธรรม โดยหลักของธรรมชาติ

เพราะฉะนั้น การที่เราจะไปทำพิธีตัดกรรมนี่ หมายถึงตัดผลของบาป มันตัดไม่ได้ อย่าไปเข้าใจผิดคิดว่าทำได้ ถ้าหากพระรูปใด แนะนำว่า ทำบาปแล้วตัดกรรมได้ อย่าไปเชื่อ

ขอให้พุทธบริษัททั้งหลาย จงปลูกฝังนิสัยให้เด็กของเราเข้าใจให้ถูกต้องในข้อนี้ เพราะเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญที่สุด ถ้าเด็กๆ ของเราไปเข้าใจว่า ทำบาปทำกรรมแล้ว ไปทำพิธีตัดกรรม แล้วมันจะหมดบาป ประเดี๋ยวเด็กๆ มันทำบาป แล้วไปหาหลวงพ่อ หลวงพี่ ตัดบาปตัดกรรมได้ มันก็ไม่เกิดความกลัวต่อบาป เพราะฉะนั้น อย่าไปเข้าใจผิดว่าทำกรรมอันเป็นบาปแล้ว ตัดกรรมให้มันหมดไปได้ มันเป็นไปไม่ได้ แต่ตัดเวรนี่มีทาง

เพราะ เวร หมายถึงการผูกพยาบาทอาฆาต คอยแก้แค้นกันอยู่ตลอดเวลา อย่างเราฆ่าเขาตาย บางทีนึกถึงบาปกรรม กลัวว่าเขาจะอาฆาตจองเวร เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา ถ้าหากว่า เขาได้รับส่วนกุศลจากเรา เขาได้รับความสุข เขาเลื่อนฐานะจากภาวะที่ทุกข์ทรมานไปสู่ฐานะที่มีความสุข เขานึกถึงคุณงามความดี นึกถึงบุญถึงคุณของเรา เขาก็อโหสิกรรมให้แก่เรา ไม่ตามล้าง ตามผลาญกันอีกต่อไป หรืออย่างเช่น เราอยู่ด้วยกัน ทำผิดต่อกัน เมื่อปรับความเข้าใจกันได้แล้ว เราขอโทษซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายต่างยกโทษให้กัน เวรที่จะตามมา คอยจองล้างจองผลาญกันมันก็หมดสิ้นไป แต่ผลกรรมที่ทำผิดต่อกันนั้นมันไม่หายไปไหนหรอก

บาปที่ทำแล้วมันแก้ไม่ได้ แต่นิสัยชั่วที่เราประพฤติอยู่นั้น มันแก้ไขได้ ท่านให้แก้กันที่ตรงนี้*

เชื่อว่า ความจริงข้อนี้คงทำให้ใจผู้ผูกเวรลดราวาศอกลง ได้บ้าง หากอารมณ์ขุ่นมัวนี้ยังไม่หมดไปจากจิตใจ ลองนึกวาดภาพ ถึงผลเสียหายที่จะเกินขึ้นต่อตนเองและส่วนรวมซิคะ นอกจาก ไฟในปรมาณูจะไม่ให้คุณต่อใครแล้ว ยังมีผลในการทำลายล้าง อันน่ากลัวอีกด้วย

ดังนั้น ใครเขาจะทำกรรมชั่ว แล้วชวนเราไปชั่วด้วย จงอย่าทำ ยอมทุกข์ทรมานเพราะความชั่วของคนอื่น ดีกว่าจะลงมือกระทำชั่วด้วยตนเอง นะคะ

มนุษย์เรามีเรื่องไม่พอใจกันเองอยู่มากมาย สาเหตุสำคัญของความไม่พอใจก็คือ ไม่สามารถควบคุมความอยากของกัน และกันได้ บางทีก็ขัดกันในความไม่อยาก บางครั้งก็ขัดกันเพราะมี ความอยากที่เหมือนกัน ต่างฝ่ายต่างพ่ายแพ้แก่อารมณ์ตนเอง จึงปรากฏฤทธิ์ออกมาเป็นพิษของการกระทบกระทั่ง เรียกร้องแนวร่วม ให้ออกมาต่อสู้เพื่อตน

คนที่ไม่รู้จักตนเอง และวิเคราะห์เหตุการณ์ได้ไม่ถูกต้อง จึงมักกลายเป็นเครื่องมือชูเกียรติให้คนโฉดอยู่เสมอ เมื่อใดกิเลสหรือ อารมณ์ทำบทบาทเหนือสติปัญญาและคุณธรรม เมื่อนั้นบุคคลก็จะถูกชักจูงไปในทางชั่ว แต่หากปัญญานำ คุณธรรมย่อมอยู่เหนือกิเลส ฉะนั้นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าการคอยไปสังเกตสังกาวิเคราะห์ คนอื่น ก็คือการควบคุมตนเองให้อยู่ในกรอบของคุณธรรม

คนมีคุณธรรม จะไม่มีความกล้าในการทำสิ่งใดๆ ให้สังคมเดือดร้อน เสียหาย แต่คนขลาดนั้นทำได้เสมอ เขาจะจัดเจน โดยเฉพาะในการมอบสถานภาพของความเป็นแพะให้ผู้อื่นรับบาป ดังที่ปรากฏในสังคมไทยอยู่ในขณะนี้

อย่าตกไปเป็นเหยื่อของคนไร้คุณธรรมเลยนะคะ และหากอยากให้ชีวิตเป็นสุข ต้องยึดคุณธรรมเป็นหลัก ตัดใจ ตัดเวร ตัดกรรม ให้ได้้มากๆ บ่อยๆ แม้จะยังมีอารมณ์มัวๆ อยู่บ้าง ก็ต้องยึดคุณธรรม ไว้ก่อน การเลือกคบกับคนไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม ส่อให้เห็นความเป็นผู้ไม่สามารถเอาชนะอารมณ์ตนเองได้ ยิ่งคบก็จะยิ่งหื่นกระหาย ตกหลุมพรางที่ถูกหลอกล่อ ตามเขาไปสร้างกรรมเสี่ยงภัย อีกมากมาย ข้อเสี่ยงอันสำคัญก็คือ การเสี่ยงต่อความตกจากตำแหน่งของมนุษยภาพแห่งตน ทำให้ต้องต่อสู้ดิ้นรนมากเกินเหตุ หรือทุ่มเทชีวิตไปกับสิ่งสูญเปล่า

คนในชาติใด หากขาดปัญญาและคุณธรรมเสียแล้ว การลงทุน ทุ่มเงินเพื่อซื้อเกียรติยศกลับคืน ก็เหมือนการเข็นภูเขาลงครก ต่อให้ผูกเวรกันต่อเป็นร้อยเป็นพันชาติก็ไม่มีวันสำเร็จในสิ่งที่ผิด หลักธรรมชาติไปได้หรอก รังแต่จะถูกชะตากรรมลงทัณฑ์ให้สิ้นหวัง

ตราบที่ชีวิตยังให้โอกาสแก้ตัว รีบเร่งหันมาฝึกฝนเอาชนะความชั่วในใจตนกันดีกว่า อย่าลืมตั้งกฎให้กับตนเองว่า ยอมทุกข์เพราะการกระทำชั่วของคนอื่น ดีกว่าต้องลงมือกระทำชั่วด้วยตัวเอง

ผู้เขียน อยากเห็นคนในชาติเลิกผูกเวรกันเสียที จะได้ไม่ต้อง ทำพิธีกรรมตัดกรรมอย่างที่ทำๆ กันอยู่ให้เยาวชนรู้เห็นจดจำไปผิดทางค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น