xs
xsm
sm
md
lg

อริยสัจ:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

           ถ้าธรรมะเข้าไปสู่ใจ ถึงคราวจำเป็นนี่มันผุดขึ้นมาเลย 
              แต่ต้องฟังด้วยใจที่เปิดรับนะ ถ้าใจดื้อ ใจรั้น 
                  ใจเป็นชาล้นถ้วย มันรับไม่ได้หรอก

ครั้งที่ 046
เรียนธรรมะด้วยใจ

โยม : เมื่อก่อนมาฟังธรรมะของ พระอาจารย์แล้วมีความสุข สติก็เกิดได้ค่ะแต่ว่าพักหลังมันฟังธรรมะแล้วมันไม่เข้าใจ

หลวงพ่อ : อย่าพยายามเข้าใจ

โยม : มันไม่ทำงาน ความคิดไม่ทำงาน มันเห็นว่าเวลาคิดมันหลง มันเผลอ แล้วมันก็ฟังพระอาจารย์พูดไม่เข้าใจ

หลวงพ่อ : ไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก ฟังไปเหอะ ถึงวันหนึ่งที่จิตจำเป็นต้องใช้ ธรรมะที่หลวงพ่อพูดนี่มันจะขึ้นมาเอง ฟังไว้งั้นแหละ ธรรมะนี่นะฟังแล้วถ้ามันเข้าถึงจิตถึงใจ เรานะ มันเก็บไว้ได้นานนะ เคยมีพระรูปหนึ่งท่านความจำดี เมื่อราวๆ พ.ศ. 300 นี่อยู่กับอาจารย์ในป่า ทีนี้อาจารย์เป็นมะเร็งผิวหนัง ถูกกินลึกๆๆ ลงไปที่หน้าแข้ง พระนี่หายา หาใบไม้ หาอะไรมาพอกนะ ก็รักษาไม่หาย พออาจารย์ใกล้มรณภาพนะ นั่งร้องไห้เลยพระนี้ อาจารย์ก็สอน สอนธรรมะมาประโยคหนึ่งแล้วฝังอยู่ในใจพระรูปนั้นมาตลอดเลย ท่านบอกว่า กาย ของเรากระสับกระส่าย แต่จิตของเราไม่กระสับกระส่ายเลย เพราะฉะนั้นอย่าได้เศร้าโศกนะ พระท่านรู้เลยว่า อ้อ ภาวนา ไปนะ สุดท้ายถึงขันธ์จะกระสับกระส่ายไปนะ แต่ธรรมชาติรู้นี่ไม่กระทบกระทั่งอะไรเลย

ฉะนั้นฟังๆ ไป ฟังแล้วไม่ต้องจำก็ได้ เวลาภาวนาไปติดขัดนะ ธรรมะนี้จะผุดขึ้นมาสอนเราได้ บางคนมีเสียงหลวงพ่อประกอบด้วยนะ มีเสียงแสดงธรรม บางคนเห็นหน้าประกอบด้วย ถ้ามีเสียงประกอบนี่ยังสบายใจ ดูไปนะ แต่พอมีหน้ามาประกอบนี่นะเกร็ง ไม่เฉพาะอยู่ที่วัดนะ อยู่ที่บ้านพอเห็นหน้าประกอบนะก็จะเกร็งขึ้นมาแล้ว ใครเคยเป็นมั่ง ใครเคยมีเสียงผุดมั่ง มีเยอะแยะ หลวงพ่อบอกแล้ว หลวงพ่อสอน ธรรมะด้วยใจนะ ถ้าธรรมะเข้าไปสู่ใจ ถึงคราวจำเป็นนี่มันผุดขึ้นมาเลย แต่ต้องฟังด้วยใจที่เปิดรับนะ ถ้าใจดื้อ ใจรั้น ใจเป็นชาล้นถ้วย มันรับไม่ได้หรอก

โยม : ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าสภาวะมันขึ้นๆ ลงๆ แต่ก็สวิงน้อยกว่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนสวิงแรง

หลวงพ่อ : สภาวะสวิงไม่เป็นไร แต่จิตอย่าสวิงก็แล้วกัน สภาวะเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่เป็นไรนะ จิตรู้ทันไม่ยินดีไม่ยินร้ายเป็นกลางก็ใช้ได้ละ เราภาวนาไปเรื่อยๆ ในที่สุดจิตเราจะเป็นกลางกับสภาวะทั้งหลายทั้งปวง จิตก็ทรงตัวอยู่เฉย อยู่อย่าง นั้นนะ มีความอิ่ม มีความเต็ม ไม่ดิ้นไม่หิวอารมณ์ สภาวะทั้งหลายก็ไหลมาไหลไปตาม หน้าที่ของสภาวะ ส่วนใจเป็นกลางมีความสุข อยู่อย่างนั้นเอง แค่ใจเป็นกลางกับสภาวะก็มีความสุขเยอะแล้วนะ หากปล่อยวางจิตลงไปได้มันจะสุขขนาดไหนนึกไม่ออกเลยนะ มันก็สุขเหมือนธาตุขันธ์มนุษย์จะรองรับ ไม่ไหวทีเดียว

แต่ก่อนมีครูบาอาจารย์รูปหนึ่งท่านเกิดราคะ ท่านไปเอากระดูกช้างมาห้อยคอไว้ รู้สึกเอากระดูกคนมาห้อยเล็กไปมองไม่เห็น เลยเอากระดูกช้างมาห้อย แล้วท่านฉันหมากนี่ พระโบราณบ้วนน้ำหมากนะมันเปื้อนกระดูกช้าง เหมือนกระดูกเปื้อนเลือด ชาวบ้านเห็นแล้วกลัว ไม่กล้ามายุ่งกับท่านเลยนะ ท่านภาวนาสบายมากเลย หลวงพ่อคงต้องหัดทำอะไรให้คนกลัวเลิกยุ่งกับหลวงพ่อบ้างแล้ว (โยมหัวเราะกัน) เพราะแต่ละวันเหนื่อยเหลือเกิน

โยม : รู้สึกบางทีมันจะจงใจปฏิบัติอะเจ้าค่ะ บางทีสติที่เกิดก็คือแบบมันแกล้งทำอะเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ : อือ ดีที่เห็นนะ มันแกล้งน้อยลง รู้สึกมั้ยมันยังมีบ้าง ไอ้ความจงใจมันทำให้ใจเราทื่อๆ อยู่นิดหนึ่ง คนนี้ที่วันก่อนมาขออยู่วัดแล้วหลวงพ่อยังไม่ให้อยู่ ไม่ได้ลำเอียงนะดูออกแล้วใช่มั้ย มันทำให้เราไม่ตื่น เพราะใจเราจะไปเกาะทื่อๆ ไว้อย่างนั้นน่ะ แต่ว่าวันนี้ตื่นมากกว่าวันนู้นละ ดูออก มั้ย ถ้าวันนี้จะขออยู่วัด ก็ขอซะนั้น (โยมหัวเราะกัน)

(อ่านต่อสัปดาห์หน้า/
อย่าติดรูปแบบจนลืมแก่นสาร)
กำลังโหลดความคิดเห็น