xs
xsm
sm
md
lg

อริยสัจ:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

            จิตใจหนีก็ให้รู้ทันไว้ รู้สภาวะไปเรื่อย เดี๋ยวสติเกิดเอง
              ต่อไปพอกิเลสเกิดขึ้นในจิตในใจแวบ สติเห็นเอง 
                แต่เห็นแล้วก็อย่าคล้อยตามมัน ระวังจะตกเหว

ครั้งที่ 030
สติเกิดจากจิตจำสภาวะได้

หลวงพ่อ : คุณผู้หญิงเสื้อขาวแขนสั้นนั้นน่ะ ใจหนีไปคิด รู้จักไหม ใจมันหนีไปคิด ไหลแวบไป... ใจสงสัยขึ้นมาก็รู้ว่าสงสัย ใจเป็นยังไง รู้ว่าเป็นยังงั้น

หัดรู้จักสภาวะไปเรื่อยๆ พุทโธ พุทโธ ก็ได้นะ พุทโธก็ดี ความจริงคอยรู้ลมหายใจ รู้ท้อง รู้มือก็ได้ แต่ส่วนมากชอบเพ่ง แต่ บริกรรมพุทโธแล้วไม่รู้จะเพ่งตรงไหน หาที่เพ่งยากนะ พุทโธ พุทโธ พุทโธไป ใจแอบไปคิดแวบ รู้ทันละ ให้รู้ว่าใจหนีไปคิด ไม่ต่อว่ามันนะ แค่รู้ทัน พุทโธ พุทโธ ไป ใจชักจะซึมๆ ก็รู้ว่าใจซึมๆ พุทโธ แล้วมีความสุข ก็รู้ว่ามีความสุข พุทโธ แล้วก็คอยรู้ทันใจของตัวเองไปเรื่อยๆ นี่คือการหัดรู้สภาวะ ต่อไปจิตจำสภาวะได้มาก จำสภาวะได้แม่น สติจะเกิดบ่อย เพราะสติเกิดจากการที่จิตจำสภาวะได้แม่นยำ เรียกว่า เกิดจาก ถิรสัญญา จิตมันจำได้แม่นสติจะเกิด เพราะฉะนั้นเราต้องซ้อมทุกวันนะ หัดพุทโธไป หัดหายใจ หัดพองยุบอะไรไปก็ได้ ที่เคยทำแล้วสบาย แต่ถ้าทำแล้วเครียดๆ ไม่เอานะ แสดงว่าไม่ถูกจริต อย่างคนไหนพุทโธแล้วอึดอัด ก็ไม่เอาพุทโธ เอาอย่างอื่น คนไหนหายใจแล้วอึดอัด ก็อย่าเอาลมหายใจ ไปหากรรมฐานอื่น กรรมฐานถมเถไป หรือดูท้องพองยุบแล้วอึดอัด ก็ไม่เอา ไปเอาอันอื่น เอาที่มันสบายๆ บางคนสวดมนต์ก็ได้นะ สวดมนต์ก็ได้ สวดไปเรื่อยๆ เห็นปาก พะงาบๆ ไปนะ แล้วก็เดี๋ยวเห็นใจไหลแวบหนีไปคิดเรื่องอื่น แต่ปากก็ยังสวดได้นะ จิตใจหนีก็ให้รู้ทันไว้ รู้สภาวะไปเรื่อย เดี๋ยวสติเกิดเองนะ ต่อไปพอกิเลสเกิดขึ้นในจิตในใจแวบ สติเห็นเอง แต่เห็นแล้วก็อย่าไปสนุกกับมันนะ หลายคนเห็นแล้วสนุกกับมัน คล้อยตามมัน เช่นลองรักเล่นๆ ดู ชีวิตจะได้มีรสชาติ เดี๋ยวมันก็ตกเหว แต่ก่อนนี้มีคนเขียนกลอนไว้บทหนึ่ง หลวงพ่อจำชื่อคนเขียนไม่ได้แล้ว เขาเขียนไว้ดีทีเดียวว่า

เหวลึก อย่านึกว่าเหวตื้น
ปากเหวลื่น อย่าคะนองไปลองผลัก
ตกเหวหิน ปีนป่ายยังง่ายนัก
ตกเหวรัก กระเสือกกระสนไปจนตาย

แหม วันนี้มีกลอนด้วยนะ หลายๆ ปีจำได้ครั้งหนึ่ง อย่าโง่นะ อย่าโง่ ไม่เฉพาะเหวรักหรอก เหวโกรธ ก็เหมือนกัน จำพวกเพลิงแค้น อย่างหนังจีนชอบสอนนะเช่น 'ผู้ดีแก้แค้น 10 ปีไม่สาย' ผู้ดีอะไร ผู้ร้ายชัดๆ มันอาฆาต มันจะผู้ดีอะไร มันยังแยกไม่ออกเลยว่า อะไรดี อะไรเลวนะ มาสอนผู้ดีแก้แค้น 10 ปีไม่สาย

หรือสอนว่า 'อย่าปล่อยคนชั่วให้ลอยนวล' ชาวพุทธต้องไม่ให้คนชั่วลอยนวล น่ะ ถูกแล้ว เพราะเป็นภัยต่อสังคม แต่ไม่ใช่ เกลียดชังนะ มันคนละอันกัน เราควรป้องกันไม่ให้คนชั่วมีอำนาจหรือมีโอกาสทำชั่ว อย่างที่พระเจ้าอยู่หัวทรงสอนว่า 'เราทำทุกคนให้เป็นคนดีไม่ได้ แต่ต้องให้คนดีมีโอกาส ปกครองบ้านเมือง' หลวงพ่อจำคำสอนเต็มๆ ของพระองค์ท่านไม่ได้แล้ว พวกเราลองไปหาอ่านเอาเถอะ แต่การไม่ปล่อยให้คนชั่วมีอำนาจหรือครอบงำสังคมนั้น ไม่ได้แปลว่าเราต้องเกลียดคนชั่ว ไม่ได้ไปเกลียดนะ เกลียดแล้วไม่มีความสุข มันเป็นเรื่องของการมีเหตุมีผล ดังนั้นชาวพุทธไม่ใช่พวก นิ่งนอนใจนะ เห็นความชั่วอยู่ต่อหน้าต่อตาก็ถือว่า 'ชั่วช่างชีดีช่างสงฆ์' นี่ไม่ใช่นะ พระพุทธเจ้าทรงสอนให้ 'ข่มคนที่ควรข่ม ชมคนที่ควรชม' ไม่ได้บอกให้ปฏิบัติอย่างเสมอภาคต่อทุกคนนะ แต่ว่าใจเรานี่เสมอภาคต่อทุกคน ไม่ได้รัก ไม่ได้เกลียดใครหรอก แต่คนนี้เกเร เราก็จำกัดที่จำกัดทางไม่ให้เกเรระรานคนอื่นได้

สังเกตใจนะ พอหลวงพ่อหยุดพูด สังเกตไหม หนีไปคิดอุตลุดเลย หนีไปคิด คอยรู้มันไป ใจหนีไปคิดแล้วรู้ หนีไปคิดแล้วรู้ อย่านึกว่าหนีแค่นี้ไม่สำคัญนะ สำคัญนะ ที่หลวงพ่อสอนนี่ คนที่ฟังหลวงพ่อเทศน์ 2 ครั้ง 3 ครั้ง หรือเอาซีดีไปฟัง ฟังไปเรื่อยๆ สติเกิดขึ้นได้นะ มีเป็นพันแล้วนะ จิตที่ตื่นขึ้นมาๆ มีจนนับไม่ถูก จิตใจได้รับความสงบร่มเย็น หลายคนมารายงานนะ ว่ามีความสุข จิตใจเปลี่ยนไปฉับพลันเลย เปลี่ยนเร็วมากเลย จากคนที่อมทุกข์นะ ก็กลายเป็นคนที่ไม่อมทุกข์ละ ความทุกข์ไหลมาก็ไหลไป จิตใจค่อยมีความสุขมากขึ้นๆ ภาวนาถูกต้อง ต้องมีความสุขนะ ภาวนาถ้าถูกต้อง ต้องมีความสุข ถ้าภาวนาผิดจะเครียด

(อ่านต่อสัปดาห์หน้า/
ภาวนาถูกต้อง ต้องมีความสุข)
กำลังโหลดความคิดเห็น