xs
xsm
sm
md
lg

บทความจาก นสพ. ผู้จัดการ

x

สื่อใจสมานสร้างสรรค์: อุปสรรคด่านสำคัญที่นักปฏิบัติต้องฝ่าฟันคือ การทำดีหล่อเลี้ยงอัตตา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรื่องที่ 67
ชวนม่วนชื่น

เชื่อว่า ท่านผู้อ่านส่วนหนึ่งคงพอมีความคุ้นเคยอยู่บ้างกับผู้ร้ายในคราบนักปฏิบัติ เพราะหากสังเกตให้ดีในแต่ละวัน เขาจะยื่นหน้าออกมาทักทายเราเป็นระยะๆ หรือหากมีกำลังกล้าหน่อยก็จะปรากฏตัวออกมาประกาศศักดาแบบวูบวาบ แล้วหลบฉากม้วนตัวคืนสู่หลืบอันซ่อนเร้นด้วยความรู้สึกอับอาย เมื่อพระสติมีกำลังเข้มแข็งกว่าเสมอ

จิตใจคนเราก็เป็นอย่างนี้ มีหลายชั้น ซ่อนพับอยู่อย่าง ซับซ้อน ผูกเงื่อนตายไว้หลายปม หากอัตตาน้อยลงเมื่อไหร่ ก็สามารถลอกเปลือก เปิดโอกาสให้มโนธรรมออกมาทำงาน เสียสละให้ผู้อื่นเป็นสุขด้วยความเห็นอกเห็นใจ

ผู้ที่หมั่นฝึกฝนตนเองสู่ระดับโพธิจิตนี้ จะมีโอกาสเกิดความ ตื่นรู้ เห็นความจริงแจ่มแจ้ง ความรู้สึกที่พร่องและหวาดกลัวจะถูก เติมเต็มด้วยความเข้าใจ ไม่ปรารถนาจะดิ้นรนเพื่อแสวงหาสิ่งใด มาปรนเปรอความไม่มีตัวตนนี้อีกต่อไป

แต่อุปสรรคขวางกั้นสำคัญที่นักปฏิบัติทุกคนต้องฝ่าฟันเป็นด่านแรก คือ ความยึดติดอยู่กับอัตตา การแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว การยึดมั่นในความดี หรือปล่อยใจขึ้นลงไปกับ สุขหรือทุกข์ของผู้อื่น เช่น เป็นทุกข์เพราะช่วยคนอื่นไม่สำเร็จ หรือทุกข์เพราะทำดีไม่พอ ปล่อยให้อัตตาเข้ามาครอบงำความดี กลายเป็นทำดีเพื่อหล่อเลี้ยงอัตตา ถ้าคนอื่นไม่เห็นความดีที่ทำก็จะโกรธและน้อยใจ ใครทำดีกว่าก็ไม่พอใจหรืออิจฉา ถ้าเจอคนไม่ดีเท่าตัวหรือได้ระดับมาตรฐานตามที่ตนตั้งไว้ ก็ยกตนข่ม หรือดูถูกดูแคลนด่าทอต่อว่าเขา เป็นต้น

พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาส วัดป่าสุคะโต ได้ให้ข้อสังเกตชั้นของหน้ากากเจ้าวายร้ายในคราบนักปฏิบัตินี้ไว้ 3 ชั้น คือ ชั้นนอกสุด มุ่งปรนเปรออัตตา ชั้นที่สองของตัวร้ายระดับ รองลงมาหน่อย คือ การขัดเกลาอัตตาให้เบาบางลง ส่วนใจชั้นในสุดของนักปฏิบัติที่มีโอกาสพัฒนาไปถึงขั้นสูง คือ สภาวะไร้อัตตา

ในกระบวนการจิตวิวัฒน์ที่นักปฏิบัติกำลังพัฒนาลอกกิเลสที่เคลือบใจกันอยู่นี้ หากจะทำงานให้เป็นไปในทางที่ดี บรรลุถึงคุณค่าสูงสุดแห่งความเป็นมนุษย์ เข้าถึงอิสรภาพและความสงบเย็น ก็ต้องหมั่นสำรวจตรวจใจให้ปล่อยวาง พยายามใช้ปัญญาทำงานในหน้าที่ด้วยอุตสาหะถูกต้องชอบธรรม ไม่หวังได้ดิบได้ดีอะไร ปล่อยให้ผลเป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่ว่าจะออกหัวหรือออกก้อย คนที่ทำใจได้อย่างนี้ก็ไม่เป็นทุกข์

มีตัวอย่างจากประสบการณ์การขัดเกลาจิตใจของ พระวิปัสสนาจารย์ ผู้มอบตนเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ชา สุภัทโท ผ่านการศึกษาปฏิบัติธรรมทั้งธุดงควัตรและอบรมจิตใจในด้านวิปัสสนาธุระมานานกว่า 35 ปี ถ่ายทอดเรื่องเล่าหลากหลายกว่าร้อยเรื่อง ช่วยปลดปล่อยผู้ฟังออกจากสภาวะทุกข์ที่คุมขังใจหลายอาการ เช่น ความสมบูรณ์แบบ ความติดดี ความรู้สึกผิด ความรักแบบมีเงื่อนไข การอุทิศตนแบบหวังผลตอบแทน ความหวาดกลัว และความเจ็บปวด ความกังวลสงสัยเคลือบแคลง ความแห้งใจ ความโกรธ ความพยายามเรียกร้องให้เป็นไปตามใจอยาก การรู้จักปลดล็อกความคิดที่ติดลบ การฝึกจิตให้คิดบวก การรู้จักยกย่องโดยไม่เสแสร้ง การเสียสละเยี่ยงวีรบุรุษ การยุติด้วยธรรม ความเข้าใจในกฎแห่งกรรม การเผชิญปัญหาวิกฤตและการแก้ไขด้วยเมตตา การยอมไปตามกระแสโดยไม่หลงทาง ความยอมรับการตัดสินใจโดยไม่กล่าวโทษผู้อื่น ความกรุณาจริงกับเมตตาแท้ การรู้จักพัฒนาปัญญาและความสงบภายใน การรู้จักสร้างปัญญานำและมีน้ำใจตาม การรู้รักษ์ระมัดระวังในโอษฐภัย การทำความเข้าใจในจิตกับสัจธรรม การค้นหาจิตด้วยศาสตร์แห่งความสงบ การขจัดความเชื่ออันงมงาย การรู้จักคุณค่าของการปฏิบัติธรรม การสัมผัสอิสรภาพและความอ่อนน้อมถ่อมตน การรู้จักหัวเราะตัวเอง และการมองเห็นสาระจากเรื่องตลก การรู้จักความทุกข์และการปล่อยวาง การรู้จักทำใจให้สุขง่ายทุกข์ยาก เป็นต้น ทั้งหมดนี้ ถ่ายทอดผ่านเรื่องเล่า 11 บท จากฉากชีวิตมากกว่า 100 ฉาก ใน Opening the Door of Your Heart ของ พระอาจารย์พรหม เจ้าอาวาสวัดป่า โพธิญาณ ใกล้เมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย

ขอเชิญท่านผู้อ่าน รับฟังประสบการณ์การไถ่ถอนชั้นในของตัวตนได้จาก รายการธรรมะกับชีวิต ช่วง หมุนใจให้ตรง ทุกวันเสาร์ เวลา 05.00-06.00 น. ออกอากาศทางสถานีวิทยุ คลื่นของประชาชนคนนำปัญญา FM 97.75 MHz และ ASTV ช่องที่ 1 กับ 3 หรือ www.managerradio.com และ download ได้จาก section เสียงหนังสือ ของ www.dhamaforlife.com เสียงหนังสือจากเรื่องแปลชุด ชวนม่วนชื่น นี้ ถ่ายทอดถอดความคำต่อคำมาจากหนังสือที่ โรงเรียนทอสี นำงานแปลของ คุณศรีวรา อิสสระ มาจัดพิมพ์ ให้เสียงโดย พระกฤช นิมฺมโล อำนวยการผลิตโดย คุณวิรังรอง ทัพพะรังสี ผู้มีจิตศรัทธาสองท่าน ได้ร่วมจัดทำสำเนาเผยแผ่เพื่อนำเงินบริจาคตามกำลังศรัทธาทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้โรงพยาบาล นำไปรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ผู้สนใจขอรับ CD/MP3 ชุดนี้ และร่วมบริจาคปัจจัยในการ รักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธ ได้ที่ ตึกวชิรญาณวงศ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และตึกรับบริจาคของโรงพยาบาลสงฆ์

ขออนุโมทนาบุญกับพระอาจารย์พรหม และทุกท่านที่สามารถถอดใจเจ้าวายร้ายในคราบนักปฏิบัติออกไปได้สำเร็จ และขอสาธุล่วงหน้ากับผู้มีความตั้งใจจริง ขอเป็นกำลังใจให้ประสบความสำเร็จมีดวงตาเห็นธรรมกันทุกท่านค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น