นักวิจัยชี้ ‘ขิง’ และ‘ชาเขียว’ อาจรักษามะเร็งได้
นักวิจัยหลายคณะ รายงานผลการศึกษาต่อที่ประชุมสมาคมวิจัยโรคมะเร็งอเมริกันว่า การบริโภคขิง ชาเขียว และสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง อาจหยุดยั้งการสร้างเซลล์มะเร็งได้
แอนน์ โบด และต่ง จี้กัง จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา ได้ทำการทดลองโดยการฉีดเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ จากมนุษย์เข้าไปในตัวหนู จากนั้นได้ให้อาหาร หนูเหล่านี้ด้วยสารสกัดจากขิงเป็นเวลา 15 วัน ปรากฏว่า หนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากขิงมีอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งน้อยกว่าหนูที่ได้รับอาหารธรรมดา
ด้านทีมนักวิจัยจากยูเนียน คอลเลจใน รัฐเนแบรสกา พบว่า สมุนไพรจีนที่เรียก ว่า เป่าจื้อเหลียน หรือชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Scutellaria barbata มีสรรพคุณในการหยุดยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากในตัวหนู
ส่วนคณะนักวิจัยจากศูนย์โรคมะเร็งแอริโซนาได้ทดลองให้ผู้ที่สูบบุหรี่จัด 118 คนดื่มชาเขียวและชาดำอย่างน้อยวันละ 4 ถ้วย ปรากฏว่าผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำตลอด 4 เดือน สามารถลดการหลั่งสารเคมี 8-OhdG ที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อตอบสนองการที่ดีเอ็นเอถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ถึง 31% ขณะที่ผู้ที่ดื่มชาดำไม่มีการเปลี่ยน แปลงใดๆ
ดื่มโกโก้วันละแก้วสุขภาพดี
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เน้นถึงคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพที่พบใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ โดยมีงานวิจัยในจีน พบว่า คนที่ดื่มน้ำชา เป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกว่าครึ่งหนึ่ง
นักวิจัยในฝรั่งเศสรายงานว่า ดื่มไวน์ แดงวันละแก้ว อาจช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจ และในปี 1998 ได้มีการ ศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คนพบว่าช็อกโกแลต ซึ่งผลิตมาจากโกโก้นั้นอาจช่วยให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์ และก่อให้เกิดมะเร็งได้
ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับ สารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมาก กว่าไวน์แดง 1 แก้วถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วยถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
แม้ว่าโกโก้จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหลายอย่างรวมทั้งช็อกโกแลต แต่นักวิจัยเผยว่าทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็คือการดื่มโกโก้ โดยตรง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในช็อกโกแลต 1 แท่งอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่ง ขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น
เดินวันละชั่วโมงลดโอกาสมะเร็งเต้านม
นักวิจัยระบุการเดินวันละชั่วโมง และออกกำลังกายเบาๆ ต่ออีกนิดหน่อย ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลงกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่อยู่เฉยๆ ไม่ชอบยืดเส้นยืดสายการค้นพบนี้ช่วยยืนยันการศึกษาในอดีตที่ชี้ว่า แม้การออกกำลังกายเบาๆ ก็สามารถปกป้องสุภาพสตรีจากโรคร้ายนี้ได้
ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมมีตั้งแต่ภาวะน้ำหนักเกิน การมีสมาชิกครอบครัว เคยเป็นโรคนี้มาก่อน การสูบบุหรี่ และการย่างเข้าสู่วัยทอง
การศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัย เมืองนาโกยา ญี่ปุ่น ติดตามผลผู้หญิง 30,000 คน นาน 12 ปี เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจะถูกสอบถามว่า แต่ละวันได้เดินไม่ถึง 30 นาที, 30-59 นาที หรือหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
ผลการศึกษาพบว่าคนที่เดินวันละอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง และวิ่ง ว่ายน้ำ หรือเข้าฟิตเนสอีกหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมลดลงถึง 55%
อนึ่ง ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่า คือผู้ที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือนหรืออ้วนได้ประโยชน์จากการเดินทุกวันเช่นเดียวกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่า การออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยรวม แต่คนคนนั้นจะต้องนอนหลับพักผ่อนเพียงพอในตอนกลางคืนด้วย ทั้งนี้ นักวิจัยอเมริกันพบว่า คนที่มีกิจกรรมทางกายมากที่สุด มีโอกาสเป็นมะเร็ง ซึ่งรวมถึงมะเร็งเต้านมน้อยลง แต่ถ้านอนน้อยกว่าคืนละ 7 ชั่วโมง ประโยชน์นั้นจะหายไปทันที และกลับกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งด้วยซ้ำ
จัดระบบแพทย์ฉุกเฉินลดเสี่ยงเสียชีวิตพิการจากโรคหลอดเลือดสมอง
น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนัก งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่ทำให้เกิดความพิการในระดับต้นๆ เมื่อเกิดอาการโรคหลอดเลือดสมองเฉียบ พลันแล้ว ผู้ป่วยเหล่านี้ต้องได้รับการรักษาภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อฉีดยาละลาย ลิ่มเลือด ผู้ป่วยก็มีอายุยืนยาวต่อไปและลดอัตราความพิการ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ารักษาได้ทันเวลามีเพียงร้อยละ 1.96 เท่า นั้น ซึ่งทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการสูงมาก ดังนั้นการมีระบบการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว และมีความพร้อม จะช่วยลดความพิการและอัตราเสียชีวิตลงได้ สปสช.ได้ร่วมมือกับสถาบันประสาทวิทยา และกระทรวงสาธารณสุข จัดแนวทางใหม่ในการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินโรคหลอดเลือดสมอง เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 มีสถานพยาบาลนำร่องฯ เข้าร่วม 15 แห่ง โดยเป็นหน่วย บริการที่มีศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันท่วงทีเมื่อมีการร้องขอ
“สัญญาณของโรคนี้ที่สำคัญ ได้แก่ เวียน ศีรษะ เดินเซ แขนขาอ่อนแรง มีอาการชาครึ่งซีก พูดไม่ได้ และพูดไม่ออก ปากเบี้ยว สับสน สำลักบ่อย อาจหมดสติ ต้องรีบพบแพทย์ด่วนภายใน 3 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนบัตรทอง 1330 หรือ ศูนย์นเรนทร 1669”
นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา หน่วยประสาท วิทยาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า คนไทยป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 250,000 รายต่อปี ในจำนวนนี้เสียชีวิต 50,000 รายต่อปี และยังมีประชาชนเสี่ยงที่จะป่วยจากโรคดังกล่าวอีกประมาณ 10 ล้านคน โรคหลอดเลือดสมองหากเป็นแล้ว แม้รอดชีวิตก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ ปัจจัยเสี่ยง คือ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สามารถป้องกันโดยการออกกำลังกาย การปรับพฤติกรรมการกิน ไม่ควรกินเนื้อสัตว์ล้วนๆ กินผักผลไม้ให้ ได้ครึ่งหนึ่ง ลดการกินอาหารไขมันสูงและงดการสูบบุหรี่
ดื่มกาแฟหนัก ระวังประสาทหลอน!!
เตือนการดื่มกาแฟสำเร็จรูปวันละกว่า7 แก้ว เพิ่มความเสี่ยงในการได้ยินหรือเห็นภาพหลอนสามเท่าเมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟแค่แก้วเดียว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดอร์แรม ของอังกฤษ ขอให้นักศึกษา 219 คนบันทึกจำนวนกาแฟที่กินในแต่ละวัน โดยอิงกับข้อเท็จจริงว่ากาแฟสำเร็จรูปแต่ละแก้วมีคาเฟอีนอยู่ 45 มิลลิกรัม รวมทั้งสอบถามนักศึกษาว่ามีประสบการณ์ประสาทหลอนบ่อยแค่ไหนซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ระบุไว้ด้านบน โดยนักวิจัยเชื่อว่าต้นเหตุมาจากการที่คาเฟอีนไปกระตุ้นระดับคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด
ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตกาแฟของอังกฤษระบุว่า การดื่มกาแฟวันละ 4-5 แก้วปลอด ภัยสำหรับคนทั่วไป และอาจดีต่อสุขภาพ ในบางด้าน ขณะที่สำนักงานมาตรฐานอาหาร แนะนำให้สตรีมีครรภ์จำกัดการบริโภคคาเฟอีนไม่ให้เกินวันละ 200 มิลลิกรัม
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 99 ก.พ. 52 โดยธาราทิพย์)
นักวิจัยหลายคณะ รายงานผลการศึกษาต่อที่ประชุมสมาคมวิจัยโรคมะเร็งอเมริกันว่า การบริโภคขิง ชาเขียว และสมุนไพรจีนชนิดหนึ่ง อาจหยุดยั้งการสร้างเซลล์มะเร็งได้
แอนน์ โบด และต่ง จี้กัง จากมหาวิทยาลัยมินเนโซตา ได้ทำการทดลองโดยการฉีดเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ จากมนุษย์เข้าไปในตัวหนู จากนั้นได้ให้อาหาร หนูเหล่านี้ด้วยสารสกัดจากขิงเป็นเวลา 15 วัน ปรากฏว่า หนูกลุ่มที่ได้รับสารสกัดจากขิงมีอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งน้อยกว่าหนูที่ได้รับอาหารธรรมดา
ด้านทีมนักวิจัยจากยูเนียน คอลเลจใน รัฐเนแบรสกา พบว่า สมุนไพรจีนที่เรียก ว่า เป่าจื้อเหลียน หรือชื่อทางพฤกษศาสตร์ว่า Scutellaria barbata มีสรรพคุณในการหยุดยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากในตัวหนู
ส่วนคณะนักวิจัยจากศูนย์โรคมะเร็งแอริโซนาได้ทดลองให้ผู้ที่สูบบุหรี่จัด 118 คนดื่มชาเขียวและชาดำอย่างน้อยวันละ 4 ถ้วย ปรากฏว่าผู้ที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำตลอด 4 เดือน สามารถลดการหลั่งสารเคมี 8-OhdG ที่ร่างกายผลิตออกมาเพื่อตอบสนองการที่ดีเอ็นเอถูกทำลาย ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งได้ถึง 31% ขณะที่ผู้ที่ดื่มชาดำไม่มีการเปลี่ยน แปลงใดๆ
ดื่มโกโก้วันละแก้วสุขภาพดี
เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาหลายชิ้นได้เน้นถึงคุณสมบัติในการเสริมสร้างสุขภาพที่พบใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ โดยมีงานวิจัยในจีน พบว่า คนที่ดื่มน้ำชา เป็นประจำนั้นมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ไม่ดื่มกว่าครึ่งหนึ่ง
นักวิจัยในฝรั่งเศสรายงานว่า ดื่มไวน์ แดงวันละแก้ว อาจช่วยลดโอกาสความเสี่ยงของโรคหัวใจ และในปี 1998 ได้มีการ ศึกษากับคนอเมริกันกว่า 8,000 คนพบว่าช็อกโกแลต ซึ่งผลิตมาจากโกโก้นั้นอาจช่วยให้อายุยืนขึ้น เนื่องจากอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยกวาดล้างของเสียที่ผลิตจากร่างกาย โดยของเสียเหล่านั้นมีส่วนทำลายเซลล์ และก่อให้เกิดมะเร็งได้
ในการศึกษาล่าสุดนี้ ดร. ชาง ยง ลี และคณะ จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ในนิวยอร์ก ได้ทำการทดสอบโดยวัดระดับ สารต่อต้านอนุมูลอิสระใน ชา ไวน์แดง และโกโก้ พบว่าโกโก้ถ้วยหนึ่งนั้นมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์มากที่สุด โดยมีมาก กว่าไวน์แดง 1 แก้วถึง 2 เท่า มากกว่าชาเขียว 1 ถ้วยถึง 3 เท่า และมากกว่าชาดำถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
แม้ว่าโกโก้จะถูกนำไปทำเป็นอาหารหลายอย่างรวมทั้งช็อกโกแลต แต่นักวิจัยเผยว่าทางที่ดีที่สุดที่จะได้รับคุณค่าสารอาหารอย่างเต็มที่ ก็คือการดื่มโกโก้ โดยตรง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าในช็อกโกแลต 1 แท่งอุดมไปด้วยไขมัน โดยช็อกโกแลตแท่ง ขนาด 40 กรัมนั้นมีไขมันมากถึง 8 กรัม ขณะที่โกโก้ร้อน 1 ถ้วยมีไขมันเพียงแค่ประมาณ 0.3 กรัมเท่านั้น
เดินวันละชั่วโมงลดโอกาสมะเร็งเต้านม
นักวิจัยระบุการเดินวันละชั่วโมง และออกกำลังกายเบาๆ ต่ออีกนิดหน่อย ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งลงกว่าครึ่ง เมื่อเทียบกับคนที่อยู่เฉยๆ ไม่ชอบยืดเส้นยืดสายการค้นพบนี้ช่วยยืนยันการศึกษาในอดีตที่ชี้ว่า แม้การออกกำลังกายเบาๆ ก็สามารถปกป้องสุภาพสตรีจากโรคร้ายนี้ได้
ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านมมีตั้งแต่ภาวะน้ำหนักเกิน การมีสมาชิกครอบครัว เคยเป็นโรคนี้มาก่อน การสูบบุหรี่ และการย่างเข้าสู่วัยทอง
การศึกษาล่าสุดของมหาวิทยาลัย เมืองนาโกยา ญี่ปุ่น ติดตามผลผู้หญิง 30,000 คน นาน 12 ปี เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัจจัยเสี่ยงมะเร็ง กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดจะถูกสอบถามว่า แต่ละวันได้เดินไม่ถึง 30 นาที, 30-59 นาที หรือหนึ่งชั่วโมงขึ้นไป
ผลการศึกษาพบว่าคนที่เดินวันละอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง และวิ่ง ว่ายน้ำ หรือเข้าฟิตเนสอีกหนึ่งชั่วโมงต่อสัปดาห์ มีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมลดลงถึง 55%
อนึ่ง ผู้หญิงที่มีความเสี่ยงมากกว่า คือผู้ที่อยู่ในช่วงวัยหมดประจำเดือนหรืออ้วนได้ประโยชน์จากการเดินทุกวันเช่นเดียวกับกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำผลการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งพบว่า การออกกำลังกาย ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โดยรวม แต่คนคนนั้นจะต้องนอนหลับพักผ่อนเพียงพอในตอนกลางคืนด้วย ทั้งนี้ นักวิจัยอเมริกันพบว่า คนที่มีกิจกรรมทางกายมากที่สุด มีโอกาสเป็นมะเร็ง ซึ่งรวมถึงมะเร็งเต้านมน้อยลง แต่ถ้านอนน้อยกว่าคืนละ 7 ชั่วโมง ประโยชน์นั้นจะหายไปทันที และกลับกลายเป็นการเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งด้วยซ้ำ
จัดระบบแพทย์ฉุกเฉินลดเสี่ยงเสียชีวิตพิการจากโรคหลอดเลือดสมอง
น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนัก งานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า โรคหลอดเลือดสมองเป็นโรคที่ทำให้เกิดความพิการในระดับต้นๆ เมื่อเกิดอาการโรคหลอดเลือดสมองเฉียบ พลันแล้ว ผู้ป่วยเหล่านี้ต้องได้รับการรักษาภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อฉีดยาละลาย ลิ่มเลือด ผู้ป่วยก็มีอายุยืนยาวต่อไปและลดอัตราความพิการ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่ารักษาได้ทันเวลามีเพียงร้อยละ 1.96 เท่า นั้น ซึ่งทำให้อัตราการเสียชีวิตและพิการสูงมาก ดังนั้นการมีระบบการดูแลรักษาที่ถูกต้องรวดเร็ว และมีความพร้อม จะช่วยลดความพิการและอัตราเสียชีวิตลงได้ สปสช.ได้ร่วมมือกับสถาบันประสาทวิทยา และกระทรวงสาธารณสุข จัดแนวทางใหม่ในการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินโรคหลอดเลือดสมอง เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550 มีสถานพยาบาลนำร่องฯ เข้าร่วม 15 แห่ง โดยเป็นหน่วย บริการที่มีศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันท่วงทีเมื่อมีการร้องขอ
“สัญญาณของโรคนี้ที่สำคัญ ได้แก่ เวียน ศีรษะ เดินเซ แขนขาอ่อนแรง มีอาการชาครึ่งซีก พูดไม่ได้ และพูดไม่ออก ปากเบี้ยว สับสน สำลักบ่อย อาจหมดสติ ต้องรีบพบแพทย์ด่วนภายใน 3 ชั่วโมง โดยสามารถแจ้งได้ที่สายด่วนบัตรทอง 1330 หรือ ศูนย์นเรนทร 1669”
นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา หน่วยประสาท วิทยาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ กล่าวว่า คนไทยป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองประมาณ 250,000 รายต่อปี ในจำนวนนี้เสียชีวิต 50,000 รายต่อปี และยังมีประชาชนเสี่ยงที่จะป่วยจากโรคดังกล่าวอีกประมาณ 10 ล้านคน โรคหลอดเลือดสมองหากเป็นแล้ว แม้รอดชีวิตก็มักจะมีความพิการหลงเหลืออยู่ ปัจจัยเสี่ยง คือ ความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่ โรคหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สามารถป้องกันโดยการออกกำลังกาย การปรับพฤติกรรมการกิน ไม่ควรกินเนื้อสัตว์ล้วนๆ กินผักผลไม้ให้ ได้ครึ่งหนึ่ง ลดการกินอาหารไขมันสูงและงดการสูบบุหรี่
ดื่มกาแฟหนัก ระวังประสาทหลอน!!
เตือนการดื่มกาแฟสำเร็จรูปวันละกว่า7 แก้ว เพิ่มความเสี่ยงในการได้ยินหรือเห็นภาพหลอนสามเท่าเมื่อเทียบกับการดื่มกาแฟแค่แก้วเดียว นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเดอร์แรม ของอังกฤษ ขอให้นักศึกษา 219 คนบันทึกจำนวนกาแฟที่กินในแต่ละวัน โดยอิงกับข้อเท็จจริงว่ากาแฟสำเร็จรูปแต่ละแก้วมีคาเฟอีนอยู่ 45 มิลลิกรัม รวมทั้งสอบถามนักศึกษาว่ามีประสบการณ์ประสาทหลอนบ่อยแค่ไหนซึ่งได้ผลลัพธ์ออกมาตามที่ระบุไว้ด้านบน โดยนักวิจัยเชื่อว่าต้นเหตุมาจากการที่คาเฟอีนไปกระตุ้นระดับคอร์ติซอล หรือฮอร์โมนความเครียด
ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตกาแฟของอังกฤษระบุว่า การดื่มกาแฟวันละ 4-5 แก้วปลอด ภัยสำหรับคนทั่วไป และอาจดีต่อสุขภาพ ในบางด้าน ขณะที่สำนักงานมาตรฐานอาหาร แนะนำให้สตรีมีครรภ์จำกัดการบริโภคคาเฟอีนไม่ให้เกินวันละ 200 มิลลิกรัม
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 99 ก.พ. 52 โดยธาราทิพย์)