ครูพระขอรับอุปถัมภ์หนังสือ
เจริญพรบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลา
ด้วยอาตมาภาพได้รับความอุปถัมภ์ หนังสือธรรมลีลา จากคุณโยมวรรณพร แจ้งชัด หมดเขตสมาชิกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ที่แล้วนั้น จึงขอพึ่งพาอาศัยหน้ากระดาษของบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลาในคอลัมน์ตีฆ้องร้องป่าว เป็นสื่อสารให้คุณโยมวรรณพรได้ทราบ
ธรรมลีลารายเดือนเป็นธรรมทานแก่วัดแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อศูนย์การ ศึกษาประจำท้องถิ่น คือ โรงเรียนวัดตาคลี ก็ยังได้รับข่าวสารทั้งวิชาการและ ภาคทฤษฎี ยังความรู้ ความสามารถ ให้แจ้งชัด เกิดแสงสว่างได้นำสู่เจโตวิมุตติในที่สุด เพราะเด็กไทยรุ่นใหม่นำไทยสู่วิถีพุทธอย่างแท้จริง เพราะ “ธรรมลีลา” ลีลาใหม่ให้ประโยชน์และมีคุณค่ายิ่งแก่ผู้ค้นคว้าแสวงหาธรรม
สมด้วยพุทธศาสนสุภาษิตที่ยกเป็นเบื้องต้น ฉบับที่ 94 ที่แปลว่า “กรรมใด ทำไว้ ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ กรรมนั่นแหละเป็นสมบัติของเขา ซึ่งเขา จะพาเอาไป” หรือด้วยพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว... “วิธีศึกษาพิจารณาหลักการและแนวคิดแห่ง ศาสนา ... ผลที่แท้ มิใช่เหตุอันสับปลับ รวมทั้งพิจารณาด้วยหลักตรรกศาสตร์ จิตวิทยาและหลักการอื่นๆ ด้วย”
ดังนั้น จึงมีความประสงค์เป็นวัดที่รับบริจาคหนังสือธรรมลีลา เพื่อศึกษาค้นคว้าสืบไป ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่คุณโยมวรรณพร แจ้งชัด และท่านผู้มีกุศลเจตนา เป็นผู้อุปถัมภ์ตลอดไปเทอญ ขอเจริญพร
ครูพระทวีป กลฺยาณธมฺโม
วัดตาคลี จ.นครสวรรค์
นมัสการพระคุณเจ้า กราบขอบพระคุณ สำหรับความชื่นชมที่ท่านมีต่อ ธรรมลีลา แต่เด็กไทยรุ่นใหม่จะนำไทย สู่วิถีพุทธอย่างแท้จริงนั้น หาใช่เพราะ “ธรรมลีลา” ไม่ แต่คือครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน เช่นท่านนั่นเอง
ความประสงค์ของท่านที่แจ้งมานั้น เราได้ดำเนินการให้แล้ว โดยมีผู้อุปถัมภ์ รายใหม่ คือคุณอาภากร ฉายากุล จากสุราษฎร์ธานี อุปถัมภ์ให้ 1 ปี นับแต่ฉบับที่ 95 นี้เป็นต้นไป
อดีตกำนันแหนบทองคำขอขอบคุณ
เรียนบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลา
ด้วยข้าพเจ้าได้รับหนังสือธรรมลีลา จากคุณครูบุญล้น พันธุ์คำ เล่มแรกปีที่ 4 ฉบับที่ 45 สิงหาคม 2547 ทุกคอลัมน์ ล้วนแต่บรรจุเรื่องราวสาระประวัติสำคัญๆ น่าศึกษาประดับความรู้ นำไปเผยแพร่ต่อชุมชน ห้องสมุด ที่อ่าน หนังสือ วัด พระสงฆ์ ทายกทายิกาได้เป็นอย่างดียิ่ง
บ้านของข้าพเจ้าเป็นที่รวมชุมชนรับส่งหนังสือไปรษณีย์ของตำบล และมีสถานที่สำหรับอ่านหนังสือมาก่อนแล้ว คุณครูบุญล้น พันธุ์คำ จึงมีศรัทธาจัดซื้อ หนังสือธรรมลีลาไปมอบให้ชุมชนได้ศึกษาตามอัธยาศัย ตรงกับชื่อ “ธรรมลีลา” พระธรรมเยื้องกรายไปทั่วทิศสถานที่ชุมชนให้เกิดแสงสว่างแก่มวลมนุษย์โลก
จึงขอพึ่งคอลัมน์ตีฆ้องร้องป่าว เป็นสื่อตอบขอบพระคุณ คุณครูบุญล้นคุณครูปารมา พันธุ์คำ และครอบครัวที่โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด หมู่ที่ 3 ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เจริญในหน้าที่ราชการตลอดกาลเทอญ
ขอแสดงความนับถือ
นายสุรินทร์ ยินธนานนท์
อดีตกำนันแหนบทองคำ ต.รุง(ชายแดนไทย - กัมพูชา)
ขอส่งคำขอบคุณและคำอวยพรจาก ท่านอดีตกำนันแหนบทองคำ ที่มีต่อคุณครูล้นคุณครูปารมา พันธุ์คำ และครอบครัว มา ณ ที่นี้
เราเชื่อว่าบุญกุศลที่ท่านได้ร่วมนำแสงสว่างหรือปัญญาไปสู่ชุมชน จักทำให้ ชีวิตของท่านสว่างไสวตลอดไป
สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะที่อำเภอกันทรลักษณ์ ไม่สู้ดีนัก อันเนื่องมาจากเรื่องเขาพระวิหาร อย่างไรก็ตาม ขอธรรมะจงรักษาทุกท่านด้วยเทอญ
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ต.ค. 51)
เจริญพรบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลา
ด้วยอาตมาภาพได้รับความอุปถัมภ์ หนังสือธรรมลีลา จากคุณโยมวรรณพร แจ้งชัด หมดเขตสมาชิกเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2551 ที่แล้วนั้น จึงขอพึ่งพาอาศัยหน้ากระดาษของบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลาในคอลัมน์ตีฆ้องร้องป่าว เป็นสื่อสารให้คุณโยมวรรณพรได้ทราบ
ธรรมลีลารายเดือนเป็นธรรมทานแก่วัดแล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อศูนย์การ ศึกษาประจำท้องถิ่น คือ โรงเรียนวัดตาคลี ก็ยังได้รับข่าวสารทั้งวิชาการและ ภาคทฤษฎี ยังความรู้ ความสามารถ ให้แจ้งชัด เกิดแสงสว่างได้นำสู่เจโตวิมุตติในที่สุด เพราะเด็กไทยรุ่นใหม่นำไทยสู่วิถีพุทธอย่างแท้จริง เพราะ “ธรรมลีลา” ลีลาใหม่ให้ประโยชน์และมีคุณค่ายิ่งแก่ผู้ค้นคว้าแสวงหาธรรม
สมด้วยพุทธศาสนสุภาษิตที่ยกเป็นเบื้องต้น ฉบับที่ 94 ที่แปลว่า “กรรมใด ทำไว้ ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ กรรมนั่นแหละเป็นสมบัติของเขา ซึ่งเขา จะพาเอาไป” หรือด้วยพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว... “วิธีศึกษาพิจารณาหลักการและแนวคิดแห่ง ศาสนา ... ผลที่แท้ มิใช่เหตุอันสับปลับ รวมทั้งพิจารณาด้วยหลักตรรกศาสตร์ จิตวิทยาและหลักการอื่นๆ ด้วย”
ดังนั้น จึงมีความประสงค์เป็นวัดที่รับบริจาคหนังสือธรรมลีลา เพื่อศึกษาค้นคว้าสืบไป ขอความสุขสวัสดิ์จงมีแด่คุณโยมวรรณพร แจ้งชัด และท่านผู้มีกุศลเจตนา เป็นผู้อุปถัมภ์ตลอดไปเทอญ ขอเจริญพร
ครูพระทวีป กลฺยาณธมฺโม
วัดตาคลี จ.นครสวรรค์
นมัสการพระคุณเจ้า กราบขอบพระคุณ สำหรับความชื่นชมที่ท่านมีต่อ ธรรมลีลา แต่เด็กไทยรุ่นใหม่จะนำไทย สู่วิถีพุทธอย่างแท้จริงนั้น หาใช่เพราะ “ธรรมลีลา” ไม่ แต่คือครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียน เช่นท่านนั่นเอง
ความประสงค์ของท่านที่แจ้งมานั้น เราได้ดำเนินการให้แล้ว โดยมีผู้อุปถัมภ์ รายใหม่ คือคุณอาภากร ฉายากุล จากสุราษฎร์ธานี อุปถัมภ์ให้ 1 ปี นับแต่ฉบับที่ 95 นี้เป็นต้นไป
อดีตกำนันแหนบทองคำขอขอบคุณ
เรียนบรรณาธิการหนังสือธรรมลีลา
ด้วยข้าพเจ้าได้รับหนังสือธรรมลีลา จากคุณครูบุญล้น พันธุ์คำ เล่มแรกปีที่ 4 ฉบับที่ 45 สิงหาคม 2547 ทุกคอลัมน์ ล้วนแต่บรรจุเรื่องราวสาระประวัติสำคัญๆ น่าศึกษาประดับความรู้ นำไปเผยแพร่ต่อชุมชน ห้องสมุด ที่อ่าน หนังสือ วัด พระสงฆ์ ทายกทายิกาได้เป็นอย่างดียิ่ง
บ้านของข้าพเจ้าเป็นที่รวมชุมชนรับส่งหนังสือไปรษณีย์ของตำบล และมีสถานที่สำหรับอ่านหนังสือมาก่อนแล้ว คุณครูบุญล้น พันธุ์คำ จึงมีศรัทธาจัดซื้อ หนังสือธรรมลีลาไปมอบให้ชุมชนได้ศึกษาตามอัธยาศัย ตรงกับชื่อ “ธรรมลีลา” พระธรรมเยื้องกรายไปทั่วทิศสถานที่ชุมชนให้เกิดแสงสว่างแก่มวลมนุษย์โลก
จึงขอพึ่งคอลัมน์ตีฆ้องร้องป่าว เป็นสื่อตอบขอบพระคุณ คุณครูบุญล้นคุณครูปารมา พันธุ์คำ และครอบครัวที่โรงเรียนเกษตรประชาตาทวด หมู่ที่ 3 ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จงมีแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เจริญในหน้าที่ราชการตลอดกาลเทอญ
ขอแสดงความนับถือ
นายสุรินทร์ ยินธนานนท์
อดีตกำนันแหนบทองคำ ต.รุง(ชายแดนไทย - กัมพูชา)
ขอส่งคำขอบคุณและคำอวยพรจาก ท่านอดีตกำนันแหนบทองคำ ที่มีต่อคุณครูล้นคุณครูปารมา พันธุ์คำ และครอบครัว มา ณ ที่นี้
เราเชื่อว่าบุญกุศลที่ท่านได้ร่วมนำแสงสว่างหรือปัญญาไปสู่ชุมชน จักทำให้ ชีวิตของท่านสว่างไสวตลอดไป
สถานการณ์บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะที่อำเภอกันทรลักษณ์ ไม่สู้ดีนัก อันเนื่องมาจากเรื่องเขาพระวิหาร อย่างไรก็ตาม ขอธรรมะจงรักษาทุกท่านด้วยเทอญ
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ต.ค. 51)