xs
xsm
sm
md
lg

บทความจาก นสพ. ผู้จัดการ

x

สื่อใจสมานสร้างสรรค์:

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บทความเรื่องที่ 50
สถาบันวิมุตตยาลัย

มีผู้อ่านท่านหนึ่งได้กรุณาส่งข้อความสั้นๆ ของ จวงจื้อ นักปราชญ์จีนผู้ลือนามมาสะกิดใจ ข้อความดังกล่าวคือ สิ่งที่ดักแด้ เรียกว่า การดับสูญ ผู้รู้เรียกว่า การกำเนิดของผีเสื้อ

ตราบที่ปัญญาของเรายังมีเท่าดักแด้ หรือแค่ผีเสื้อ เราก็ยังไม่สามารถก้าวพ้นเดรัจฉานได้ ต่อเมื่อใดพัฒนาการไต่ระดับ ถึงขั้นความเป็นผู้รู้จริง เข้าใจถ่องแท้ในสภาพชีวิตตามหลักอริยสัจ 4 ประการ คือ ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ การดับทุกข์ และหนทางแห่งการดับทุกข์ เราจึงจะล่วงพ้นภพชาติได้

แล้วเมื่อไหร่ล่ะเราจึงจะรู้เดียงสา เป็นผู้มีสติสัมปชัญญะกำกับตลอดสาย ไม่ทำผิดพลาด ไม่ตามใจกิเลส ไม่ทำอะไรสนองตัณหา คำถามนี้มันเป็นปัญหาที่ต่อให้คิดจนหัวแตกก็ไม่มีวันได้คำตอบหรอก มันต้องลงมือทำ ไม่ใช่มัวกุมขมับคิด การจะเป็นนักกีฬาปิงปองต้องว่องไว ทั้งในการตั้งรับและตบกลับ หากมัวแต่ยืนทื่อ คำนวณกระบวนท่า ผลที่ได้รับก็มีแค่การเป็น ผู้แพ้ตลอดกาล

ยิ่งอมทุกข์เพ่งโทษตนเองและผู้อื่นมากเท่าไหร่ ไม่พยายามเปิดกะโหลกแบกบาลปล่อยวางเสียบ้าง อาการแห่งจิตก็จะยิ่งเข้าใกล้ขั้นตรีทูต เพราะข้อมูลที่ฝังใจจำจะถูกกดลึกลงไปในจิตใต้สำนึก จนยากที่จะเอาออก

วันนี้ จึงขอค้นคำ นำสำนวนชวนอ่านของท่าน ว.วชิรเมธี หรือ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง) มาให้พิจารณา หากอ่านจบแล้วยังไม่จุใจ ไปค้นข้อมูลธรรมะกันต่อได้ที่ สถาบันวิมุตตยาลัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพแห่งการตื่นรู้สู่อิสรภาพ ตั้งอยู่ เลขที่ 7/9-18 ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700 เปิดทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.

โทรศัพท์สอบถามข้อมูลการให้บริการทางวิชาการ และบริการด้านสื่อยกใจให้มีปัญญารู้เท่าทันปัจจุบัน เข้าใจความจริงของชีวิต ได้ที่หมายเลข 0-2422-9123 หรือโทรสาร 0-2422-9128 และ www.vimuttayalaya.net

ในห้องสมุดธรรมะของท่านมีธรรมะหลากหลายเตรียมไว้ให้บริการทั้งซีดี ดีวีดี และ MP3 นอกจากนี้ยังมีการสอนภาษาบาลีเบื้องต้นให้แก่คนทั่วไปด้วย ทั้งยังมีรายการธรรมบรรยายสด ประกอบการปฏิบัติสมาธิภาวนาในวันอาทิตย์เดือนละ 2 ครั้ง มีการ จัดคอร์สนอกสถานที่ ณ อาศรมอิสระชน เป็นคอร์สตื่นรู้ดูใจ ส่วนอาศรมนี้จะอยู่ที่ไหน ใกล้ไกลหรือไม่ ถามไถ่กันได้โดยตรงนะคะ

บอกกล่าวข้อมูลของสถาบันวิมุตตยาลัยไว้เบื้องต้นก่อน เชื่อว่าเมื่อผู้อ่านมีความสนใจ คงจะเจาะข้อมูลกันต่อได้เองตามที่อยู่ข้างต้น ตอนนี้เราหันมาพิจารณาคำคมยกใจกันหน่อยกับ พร 4 ประการ ที่ท่าน ว.วชิรเมธี นำเสนอ เพื่อให้ดักแด้น้อยใหญ่อย่างเราๆ ท่านๆ ได้ก้าวถอยออกมาจากกรอบเก่าแห่งเคยชิน

พร 4 ประการ คือ (1) อย่าเป็นนักจับผิด (2) อย่ามัวแต่คิดริษยา (3) อย่าเสียเวลากับความหลัง และ (4) อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ

1. อย่าเป็นนักจับผิด
คนที่คอยจับผิดคนอื่น แสดงว่าหลงตัวเองว่าเป็นคนดีกว่าคนอื่น ไม่เห็นข้อบกพร่องของตนเอง "กิเลสฟูท่วมหัว ยังไม่รู้จักตัวอีก" คนที่ชอบจับผิด จิตใจจะหม่นหมอง ไม่มีโอกาส "จิตประภัสสร" ฉะนั้น จงมองคน มองโลกในแง่ดี "แม้ในสิ่งที่เป็นทุกข์ ถ้ามองเป็น ก็เป็นสุข"

2. อย่ามัวแต่คิดริษยา
"แข่งกันดี ไม่ดีสักคน ผลัดกันดี ได้ดีทุกคน" คนเราต้องมี พรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คนที่เราริษยาเป็นการส่วนตัว มีชื่อว่า "เจ้ากรรมนายเวร" ถ้าเขาสุข เราจะทุกข์ ฉะนั้น เราต้องถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา เพราะไฟริษยา เป็น "ไฟสุมขอน" (ไฟเย็น) เราริษยา 1 คน เราก็มีทุกข์ 1 ก้อน เราสามารถถอดถอนความริษยาออกจากใจเรา โดยใช้วิธี"แผ่เมตตา" หรือซื้อโคมมาแล้วเขียนชื่อคนที่เราริษยา แล้วปล่อยให้ลอยไป

3. อย่าเสียเวลากับความหลัง
90% ของคนที่ทุกข์ เกิดจากการย้ำคิดย้ำทำ "ปล่อยไม่ลง ปลงไม่เป็น" มนุษย์ที่สลัดความหลังไม่ออก เหมือนมนุษย์ที่เดินขึ้นเขา พร้อมแบกเครื่องเคราต่างๆ ไว้ที่หลังขึ้นไปด้วย ความทุกข์ที่เกิดขึ้นแล้ว จงปล่อยมันซะ "อย่าปล่อยให้คมมีดแห่งอดีตมากรีดปัจจุบัน" อยู่กับปัจจุบันให้เป็น ให้กายอยู่กับจิต จิตอยู่กับกาย คือมี "สติ" กำกับตลอดเวลา

4. อย่าพังเพราะไม่รู้จักพอ
"ตัณหา" ที่มีปัญหา คือ ความโลภ ความอยากที่เกินพอดี เหมือนทะเลไม่เคยอิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่เคยอิ่มด้วยเชื้อ ธรรมชาติของตัณหา คือ "ยิ่งเติมยิ่งไม่เต็ม" ทุกอย่างต้องดูคุณค่าที่แท้ ไม่ใช่คุณค่าเทียม เช่น คุณค่าที่แท้ของนาฬิกาคืออะไร คือ ไว้ดูเวลาไม่ใช่มีไว้ใส่เพื่อความโก้หรู คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์มือถือคืออะไร คือไว้สื่อสาร แต่องค์ประกอบอื่นๆ ที่เสริมมาไม่ใช่คุณค่าที่แท้ของโทรศัพท์ เราต้องถามตัวเองว่า "เกิดมาทำไม" "คุณค่าที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์อยู่ตรงไหน" ตามหา "แก่น" ของชีวิตให้เจอ คำว่า "พอดี" คือ ถ้า "พอ" แล้วจะ "ดี" รู้จัก "พอ" จะมีชีวิตอย่างมีความสุข

เดรัจฉานอย่างดักแด้ยังมีพัฒนาการมาเป็นผีเสื้อได้ แล้วมนุษย์อย่างเราๆ จะพัฒนาไปเป็นอะไร หรือไม่เป็นอะไรกันดี ลองหาคำตอบให้ตนเองกันนะคะ ตั้งกระทู้ไว้ในคอลัมน์นี้ จะไปตอบใน สมุดเซ็นเยี่ยมของ www.dhamaforlife.com สื่อสัจจะสู่การรู้แจ้ง ก็ได้ค่ะ เผื่อจะได้ฟังธรรมะออนไลน์อื่นๆ ไปด้วยขณะทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ เป็นการบริหารเวลาชีวิตให้เกิดประโยชน์เกิน 2 เท่า คือ เก่งทั้งภาคตั้งรับ ด้วยการเลือกเสพสื่อที่มีสารธรรม เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันใจให้เข้มแข็ง และเสริมทักษะพร้อมที่จะตบกิเลสกลับบ้างในยามจำเป็นค่ะ
กำลังโหลดความคิดเห็น