xs
xsm
sm
md
lg

เติมใจให้กัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครั้งที่ 77
การกีดกันใจจากอารมณ์โกรธเกลียดได้
เป็นความประเสริฐไม่น้อย

พระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาว่า

ที่อยู่อาศัย หรือวิหารย่อมป้องกันหนาวร้อน สัตว์ร้าย เช่น งู ยุง และป้องกันฝนในฤดูฝน นอกจากนี้ยังป้องกันลมแดดได้อีกด้วย การถวายวิหารทาน แก่สงฆ์เพื่อให้ท่านได้หลีกเร้นอยู่ เพื่อความสุข เพื่อการเพ่งพิจารณา เพื่อความรู้แจ้งเห็นจริงนั้น พระพุทธเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่าเป็นทานอันเลิศ ด้วยเหตุนี้ ผู้ฉลาดเล็งเห็นประโยชน์อยู่ พึงสร้างที่อยู่อันรื่นรมย์เพื่อภิกษุ ผู้เป็นพหุสูตจักได้อยู่อาศัย

อนึ่ง พึงมีใจเลื่อมใสถวายข้าวน้ำ ผ้าและเครื่องใช้อื่นๆ อันสมควรแก่สมณบริโภคแก่ภิกษุผู้มีความซื่อตรง พวกเธอได้รับอุปการะอย่างนี้แล้วย่อมแสดงธรรมอันเป็นเครื่องบรรเทาทุกข์ทั้งปวงแก่เขา เขารู้ทั่วถึงธรรมนั้นแล้ว จักเป็นผู้ไม่มีอาสวะ ปรินิพพาน

ท่านผู้เคารพในธรรม ยกเว้นพระศาสดาแล้ว จริยาของพระสารีบุตรนั้นไม่มีใครเสมอเหมือน ท่านมิได้มีอหังการว่าเราเป็นอัครสาวก แต่เป็นผู้สันโดษและอ่อนน้อมถ่อมตนอยู่เป็นนิตย์ ดังได้กล่าวมาบ้างแล้วแต่หนหลัง

นอกจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว พระสารีบุตรยังเป็นผู้มีความอดทนและให้อภัยแก่ผู้ประทุษร้าย ดังเรื่องต่อไปนี้

คราวหนึ่ง เมื่อพระบรมศาสดาประทับ ณ เชตวันวิหาร พวกมนุษย์เป็นอันมากในที่แห่งหนึ่งได้พากันกล่าวสรรเสริญคุณของสารีบุตรเถระว่า 'พระผู้เป็นเจ้าของเราเป็นผู้มีคุณน่าอัศจรรย์ ประกอบด้วยกำลังคือขันติความอดทน เมื่อใครๆ ด่าก็ตาม ประหารท่าน ก็ตาม ความโกรธหาเกิดขึ้นแก่ท่านไม่'

คราวนั้นมีพราหมณ์มิจฉาทิฐิคนหนึ่งไม่เชื่อ และมีความประสงค์จะทดลองคุณของพระเถระ เช้าวันหนึ่งเห็นพระเถระสารีบุตรเดินเข้าไปรับภิกษาในละแวกบ้านจึงเดินตามไปข้างหลัง เมื่อได้โอกาสก็ตีกลางหลังของท่านด้วยฝ่ามืออย่างแรง

พระอัครสาวกมิได้เหลียวดูเลย คงเดินไปเรื่อยๆ ด้วยอาการสงบ เมื่อเป็นดังนั้น พราหมณ์ก็เกิดร้อนตัวขึ้นอย่างแรง คิดว่า 'โอ พระผู้เป็นเจ้าสมบูรณ์ด้วยคุณคือขันติอย่างที่คนทั้งหลายเล่าลือจริง'

เขาหมอบลงแทบเท้าของพระเถระ กล่าวขอขมา เมื่อได้รับอภัยโทษจากพระสารีบุตรผู้ทรงคุณแล้ว กล่าวนิมนต์พระเถระ ให้ได้โปรดไปรับอาหารที่เรือนของตน พร้อมขอรับบาตรจากพระสารีบุตร พาท่านไปยังเรือนของตน อังคาส เลี้ยงดูด้วยอาหารอันประณีต

แต่การที่พราหมณ์ลอบประหารพระสารีบุตรนั้นหาได้พ้นสายตาของมหาชนบางกลุ่มไปไม่ พวกเขาโกรธแค้น ถือท่อนไม้และก้อนดินยืนซุ่มอยู่ที่บริเวณประตูบ้านของพราหมณ์ จะรุมประทุษร้าย แต่พระสารีบุตรกล่าวห้ามว่า

'พราหมณ์ได้ขออภัยโทษแล้ว เรื่องแล้วไปแล้ว พวกท่านทั้งหลายกลับกันไปเสียเถิด' แล้วท่านก็ให้พราหมณ์กลับไปยังเรือนของตน ส่วนท่านเองกลับไปยังเชตวันวิหาร

ภิกษุทั้งหลายกล่าวยกโทษว่า อะไรกัน พระสารีบุตรถูกพราหมณ์ประหารแล้วยังไปนั่งฉันอาหารที่เรือนเขาอีก เมื่อเขาประหารพระเถระเช่นพระสารีบุตรได้ ต่อไปก็จะเที่ยวประหารภิกษุอื่นๆ โดยไม่มีความละอายและความเกรงกลัว'

พระศาสดาเสด็จมายังธรรมสภา ทรงทราบเรื่องที่ภิกษุสนทนากันแล้วตรัสว่า 'พราหมณ์ประหารพราหมณ์นั้นไม่มี แต่พราหมณ์คฤหัสถ์อาจประหารสมณะได้ อนึ่ง ความโกรธย่อมถูกทำลายไปด้วยอนาคามีมรรค' ดังนี้แล้ว ตรัสต่อไปว่า

"พราหมณ์ไม่ควรประหารพราหมณ์ ไม่ควรจองเวรพราหมณ์ น่าติเตียนพราหมณ์ผู้ประหารพราหมณ์ด้วยกัน น่าติเตียนพราหมณ์ผู้จองเวรยิ่งกว่าพราหมณ์ผู้ประหารก่อน การกีดกันใจจากอารมณ์อันเป็นที่รักเป็นความประเสริฐไม่น้อย' บุคคลที่สามารถกลับใจได้จากความคิดเบียดเบียนย่อมได้รับความสงบ

พระอรรถกถาจารย์ได้อธิบายข้อว่า 'การกีดกันใจจากอารมณ์อันเป็นที่รักเป็นความประเสริฐไม่น้อย' ไว้ว่า 'ความเกิดขึ้นแห่งความโกรธ ชื่อเป็นอารมณ์ที่รักแห่งใจของผู้มักโกรธ"

ถือเอาความว่า อารมณ์อันเป็นที่รัก ในที่นี้ท่านหมายเอาความโกรธ การกีดกันความโกรธเกลียดได้ คือไม่ให้ความโกรธเกิดขึ้นเป็นความประเสริฐไม่น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น