คอลัมน์ศิลปะแห่งศรัทธา
โดย Artmulet
คัมภีร์ครุฑปุราณะกล่าวถึงครุฑไว้ว่าเป็นบุตรของนางวินตา ซึ่งเป็นหนึ่งในธิดาสิบสามนางของพระทักษาประชาบดีที่ยกให้เป็นพระมเหสีของพระกัศยปมุนีเทพบิดร ตามตำนานเล่าว่ากัศยปมุนีเป็นฤษีผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ และเป็นผู้ให้กำเนิดเทพอีกหลายองค์ในศาสนาพราหมณ์จึงได้ชื่อว่าเป็นเทพบิดร ครั้งหนึ่งฤษีกัศยปได้ให้นางวินตาขอพรได้หนึ่งข้อ นางจึงขอให้ตนเองมีบุตรสององค์แต่ขอให้บุตรทั้งสองนั้นมีอำนาจวาสนา ต่อมานางได้ออกลูกเป็นไข่สองฟอง ไข่ฟองแรกกำเนิดเป็นพระอรุณเทพบุตรผู้เป็นสารถีของพระอาทิตย์ แต่ไข่ฟองที่สองใช้เวลาฟักอยู่นานถึงห้าร้อยปีจึงแตกออกมาเป็นพญาครุฑ มีนามว่าเวนไตย เวนไตยมีรูปร่างใหญ่โตจรดฟ้า ปีกกระพือให้เกิดลมพัดจนภูเขาปลิวได้ ดวงตาเป็นประกายดุจสายฟ้า หากแผ่รัศมีออกจากร่างสามารถทำให้เกิดไฟไหม้โลกได้จนเหล่าเทพทั้งหลายเข้าใจไปว่าเป็นพระอัคนีแบ่งภาคมาเกิด นิสัยดุร้ายมีฤทธานุภาพมาก ชอบกินมนุษย์รวมถึงสัตว์ต่างๆ แต่กัศยปมุนีและนางวินตาได้กำชับไว้ว่าให้กินได้แต่มนุษย์ที่ชั่วร้าย ห้ามกินพราหมณ์ พญาครุฑมีชายาชื่อนางอุนนะติหรือวินายะกา มีโอรสสองตนคือชะตายุในเรื่องรามเกียรติ์เรียกว่าสดายุ และสัมปาติในเรื่องรามเกียรติ์เป็นผู้ชี้ทางให้หนุมานไปกรุงลงกา
เทวะลักษณ์ของพญาครุฑนั้นเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งนก หรือมนุษย์กึ่งเทวดามีรัศมีโชติช่วง ศีรษะปีกเท้าเหมือนพญานกอินทรี หน้าขาวปีกแดงมีลำตัวแขนเหมือนดั่งมนุษย์แต่มีสีทอง เล็บแหลมคม คอยาวสามสิบโยชน์ปากกว้างเก้าโยชน์ ร่างกายสูงใหญ่ถึงหนึ่งร้อยห้าสิบโยชน์ ปีกกว้างข้างละห้าสิบโยชน์ ขายาวสิบสองโยชน์ หางยาวสิบโยชน์ มีวิมาณฉิมพลีอยู่บนต้นงิ้วในป่างิ้วเขาพระสุเมรุ (สุเมรุเป็นชื่อภูเขาในคัมภีร์ไตรภูมิโลกสัณฐาน เป็นเมืองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์) พญาครุฑนั้นยังมีนามเรียกขานอีกหลายนาม เช่น กาศบปิ เกิดจากพระกัศยป, เวนไตย เกิดแต่นางวินตา, รักตะปักษา นกปีกแดง, สุวรรณกายะ ผู้มีกายสีทอง รวมถึงนาม สุบรรณ ผู้มีปีกงามหรือขนวิเศษ
นามสุบรรณนี้ได้จากการรบชนะพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่แห่งสรวงสวรรค์ โดยการรบครั้งนั้นวัชระสายฟ้ามหาศาสตราของพระอินทร์ทำได้เพียงให้ขนของพญาครุฑหลุดร่วงไปหนึ่งเส้น ขนที่หลุดร่วงไปนั้นจึงถือได้ว่าเป็นการแสดงความเคารพและให้เกียรติ์ต่อพระอินทร์ของพญาสุบรรณผู้มีพละกำลังอันยิ่งใหญ่
มหานทีสีทันดรเป็นห้วงน้ำกว้างใหญ่เจ็ดสายอยู่ระหว่างเขาพระสุเมรุ และภูเขาเจ็ดเทือกเขาที่มีชื่อว่ายุคนธร อิสินธร กรวิก สุทัสนะ เนมินธร วินตกะ อัสกัน เรียกรวมกันว่าเขาสัตบริภัณฑ์ เป็นเขาสูงเสียดฟ้าเหนือทิวเขาคือสวรรค์ห้วงสีทันดรทั้งเจ็ดชั้น น้ำในมหานทีสีทันดรนั้นลึกมากโดยรอบเขาสิเนรุลึกที่สุด น้ำในสีทันดรจะมีสีที่แตกต่างตามกันทิศ เงียบสงบไม่มีคลื่นน้ำ น้ำละเอียดยิ่งไม่มีสิ่งใดลอยน้ำได้ เรือแพก็ไม่สามารถลอยได้ แม้แต่ขนนกยูงตกลงบนผิวน้ำยังจมลง ใต้มหานทีสีทันดรยังเป็นที่อยู่ของเทวดาจำพวกนาครวมถึงนาคที่ไม่ใช่เทวดาด้วย สัตว์น้ำในมหานทีนั้นล้วนแล้วแต่มีรูปกายใหญ่โตมหึมา ถึงเพียงแค่หูไหวข้างเดียวน้ำก็จะไหลเป็นวงกว้างไปถึงพันโยชน์ อย่างปลาอานนท์ที่ตัวใหญ่ถึงหนึ่งพันโยชน์ ในอดีตจะมีคำกล่าวถึงว่าแผ่นดินไหวเพระปลาอานนท์พลิกตัว มหานทีสีทันดรนี้ยังมีปลาใหญ่อื่นๆอีกเช่น ปลามหาติมิใหญ่หนึ่งพันโยชน์ ปลาอัชฌาโรหะใหญ่หนึ่งพันโยชน์ ปลาติมินทะใหญ่หนึ่งพันโยชน์ ปลามิรมิงคละใหญ่ห้าร้อยโยชน์ ปลาติมิมิงคละใหญ่สี่ร้อยโยชน์ ปลามิงคละใหญ่สามร้อยโยชน์ ปลามิติใหญ่สองร้อยโยชน์ วรรณคดีเรื่องกากีได้พรรณาถึงการเหาะเหินข้ามมหานทีสีทันดรของพญาครุฑไว้อย่างวิจิตรพิสดารดังนี้ว่า
“.............................. ในสาครลึกกว้างทางวิถี
แม้จะขว้างแววหางมยุรี ก็จมลงถึงที่แผ่นดินดาล
อันน้ำนั้นสุขุมละเอียดอ่อน จึงชื่อสีทันดรอันใสสาร
ประกอบหมู่มัจฉากุมภาพาล คชสารเงือกปลาและนาคินทร์
ผู้ใดข้ามนทีสีทันดร ก็ม้วยมรณ์เป็นเหยื่อแก่สัตว์สิ้น
แสนมหาพระยาครุฑยังเต็มบิน กว่าจะไปถึงถิ่นวิมานทอง”
มหานทีที่มีความพิสดารพันลึกเช่นนี้ผู้ที่ไม่มีอิทธิฤทธิ์บุญบารมีจึงไม่อาจข้ามพ้นไปได้ มีแต่เพียงพญาครุฑเท่านั้นที่สามารถข้ามได้ เพราะเป็นผู้มีพละกำลังอันมหาศาลที่จะบินข้ามไปโดยไม่หมดกำลังลงก่อน แต่ถึงกระนั้นพญาครุฑเองแม้จะข้ามไปได้ แต่ก็ยังต้องใช้พละกำลังดั่งคำว่าเต็มบินหรือก็คือสุดความสามารถนั่นเอง
จากตำนานแห่งศรัทธาสู่การรังสรรค์งานประติมากรรมพญาสุบรรณสีทันดรนี้ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวของพญาครุฑผู้มีพละกำลังอันยิ่งใหญ่ ท่วงท่ากางปีกเหินเวหาเหาะข้ามมหานทีสีทันดรที่มีปลาอานนท์พลิกตัวสะบัดหาง องค์พญาสุบรรณสีทันดรจึงเปรียบได้ถึงสัญญะแห่งการมุ่งมั่นที่จะฟันฝ่า เพื่อก้าวข้ามปัญหาและอุปสรรคทั้งปวงไปให้ได้ ด้วยพลังอำนาจ พลังกาย และพลังใจอันยิ่งใหญ่แห่งตนดั่งองค์พญาสุบรรณสีทันดรที่สามารถเหาะเหินข้ามมหานทีอันกว้างใหญ่ไพศาลและมากด้วยอุปสรรคนานาประการไปได้โดยราบรื่น
สำหรับท่านที่สนใจประติมากรรมพญาสุบรรณสีทันดร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Artmulet
Official Line ID: @artmulet
เว็บไซต์:www.artmulet.com
และที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง T.0925577511


