xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

โกกั้ง (20-จบ) สู่โลกมิจฉาชีพ (ต่อ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายหมิง กัวปิง หัวหน้ามาเฟียตระกูลหมิง (กลาง) และพวกถูกทางการพม่าจับกุมส่งตัวให้ตำรวจจีนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พ.ย.2566 - ภาพ : กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ
ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล

นอกจากนี้ ข้อมูลจากศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ยังได้รายงานอีกว่า ช่วงเดือนมีนาคม 2565 ถึงมิถุนายน 2567 มีคนไทยตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากกว่า 575,500 คดี สร้างความเสียหายรวมกว่า 65,715 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละ 80 ล้านบาท

โดยเหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงวัยทำงานจนถึงผู้สูงอายุ โดยผู้ที่มีอายุ 30-60 ปีขึ้นไปจะมีสูงถึง 248,800 คดี

ไม่เพียงเท่านั้น รายงานจากแหล่งเดียวกันยังทำให้รู้อีกว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกิดขึ้นครั้งแรกที่ไต้หวัน เวลานั้นยังไม่ได้ใช้คำว่า คอลเซ็นเตอร์ แต่ใช้ว่า  เอทีเอ็มเกม (ATM Game)  ที่ใช้คำนี้ก็เพราะเป็นการโกงด้วยการแอบอ้างตนเป็นผู้อื่น โดยหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อผ่านทางโทรศัพท์ แล้วให้เหยื่อจะไปที่ตู้เอทีเอ็มเพื่อโอนเงินให้ตน

ส่วนรูปแบบการหลอกลวงเหยื่อมีสองลักษณะ ลักษณะแรก หลอกลวงโดยอาศัยความโลภของเหยื่อ เช่น หลอกเหยื่อว่าได้รับคืนภาษีจากรัฐ ได้รับเงินรางวัล หรือได้รับเช็คคืนภาษี เป็นต้น จากนั้นอาชญากรก็จะอ้างว่า เหยื่อจะต้องจ่ายค่าบริการเบื้องต้นหรือค่าธรรมเนียมที่มีตัวเลขไม่สูงนัก เมื่อเปรียบเทียบกับเงินคืนภาษีหรือรางวัลที่เหยื่อจะได้ และทำให้เหยื่อไม่ลังเลที่จะจ่าย

เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเพราะ  “ความโลภ”  แล้ว เหยื่อก็จะโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารของผู้ที่หลอกตนได้เตรียมเปิดรองรับไว้แล้ว

ลักษณะต่อมาคือ  หลอกลวงด้วยความกลัว  โดยอาชญากรจะหลอกว่าเหยื่อเป็นหนี้ค่าโทรศัพท์ ค่าบัตรธนาคาร หรือมีบัญชีธนาคารที่พัวพันกับการค้ายาเสพติด เป็นต้น ซึ่งจะทำให้บัญชีธนาคารของเหยื่อจะถูกอายัด และถูกตรวจสอบโดยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อแล้วก็จะทำธุรกรรมทางการเงินตามที่ถูกอาชญากรหลอก
ว่ากันว่า ส่วนใหญ่ของการหลอกลวงจะอยู่ที่ลักษณะที่สอง เพราะได้ผลในทางจิตวิทยามากกว่าลักษณะแรก

จากที่กล่าวมานี้ทำให้เห็นว่า โกกั้งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์นั้น ถือเป็นกลุ่มที่ใหญ่พอๆ กับแก๊งที่อยู่ในกัมพูชา โดยทั้งสองที่นี้สามารถก่อเหตุได้ก็ด้วยมีผู้มีอำนาจให้ความคุ้มครอง หรือไม่ผู้มีอำนาจเป็นผู้กระทำการเอง

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเชิงสถิติคดีที่กล่าวไปข้างต้นนั้นทำให้เห็นว่า ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดได้อย่างต่อเนื่องนั้น มีมูลเหตุจูงใจมาจากรายได้ที่ได้รับจากการก่อเหตุมีมูลค่ามหาศาลอย่างยิ่ง ในขณะที่บทลงโทษทางกฎหมายไม่มีความรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับจีน

และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่า เหตุใดอาชญากรจีนซึ่งเป็นตัวการใหญ่จึงมาก่ออาชญากรรมที่ไทย กัมพูชา เมียนมา และลาว โดยเฉพาะในเมียนมาที่อาชญากรเหล่านี้ไปร่วมมือกับโกกั้งที่ใช้ภาษาจีนเหมือนกับตน ที่มีบทลงโทษไม่รุนแรงเท่าในจีน
เหตุฉะนั้น นับแต่ทศวรรษ 2010 เป็นต้นมา แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ก็เริ่มแผ่ลามไปทั่วอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง โดยที่เราควรกล่าวด้วยว่า พวกอาชญากรจีนที่มีส่วนอย่างสำคัญนั้น เมื่อเข้ามาในดินแดนโกกั้ง (หรือกัมพูชาและลาว) แล้ว เหยื่อจำนวนมากก็ยังคงเป็นชาวจีน และทำให้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทางการจีนต้องเข้ามาจัดการในชั้นหลัง
ส่วนเหยื่อที่มิใช่ชาวจีน แต่เป็นชาวไทยหรือชาติอื่นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้หลอกลวงสัญชาตินั้นๆ ซึ่งผู้หลอกลวงเหล่านี้มีทั้งที่สมัครใจและที่ถูกหลอกลวงมาก่อเหตุ พวกหลังนี้ถือว่าอาชญากรเหล่านี้ได้ก่อคดีลักพาตัว ค้ามนุษย์ และทารุณกรรมมนุษย์ เพิ่มเข้ามาด้วย

สมุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในภาคเหนือของพม่าถูกส่งตัวกลับให้ทางการจีนเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2567 - ภาพ : VCG
 การกวาดล้างครั้งใหญ่ 

การก่อเหตุของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์เป็นวงกว้างและเข้มข้นยิ่งขึ้น เมื่อถึงทศวรรษ 2020 แต่การปราบปรามในไทย เมียนมา กัมพูชา และลาวเป็นไปอย่างเชื่องช้า ตามไม่ทันกับการแพร่ขยายของแก๊งพวกนี้ ไม่มีใครทราบสาเหตุของความเชื่องช้านี้ แต่เจ้าหน้าที่ไทยให้เหตุผลว่า อาชญากรพวกนี้กระทำการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านจึงตามตัวได้ยาก
ส่วนเพื่อนบ้านที่เป็นที่ตั้งของอาชญากรพวกนี้ยิ่งน่าสงสัยกว่า โดยในกัมพูชาถึงขนาดที่ว่าเหยื่อที่รอดมาได้ระบุสถานที่ตั้งของพวกอาชญากรนี้แล้ว ทางการกัมพูชาก็ไม่ทำอะไร ในเมียนมาแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะโกกั้งกับอาชญากรจีนเป็นผู้ดำเนินการเองในรัฐอิสระ ในขณะที่ทางการเมียนมาก็หมกมุ่นอยู่กับแก้ปัญหาความขัดแย้งและสงครามภายในของตน

แต่คงด้วยเหตุนั้น จีนจึงใช้สายสัมพันธ์ที่มีอยู่กับเมียนมาเพื่อเข้าไปจัดการกับ  “มาเฟียตระกูลหมิง”  แห่งโกกั้งใน ค.ศ.2024 โดยในเดือนพฤศจิกายนสามารถจับกุมสมุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ราว 40,000 คน แล้วส่งกลับไปดำเนินคดีที่จีน

 “มาเฟียตระกูลหมิง” นี้ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายคนที่ได้ฉ้อโกง ฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วงเหนี่ยว ขู่กรรโชก เปิดบ่อนการพนัน จัดหาหญิงบริการทางเพศ ค้ายาเสพติด ลักลอบพาคนออกนอกประเทศ และละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล จนเรียกได้ว่า ก่อคดีจนแทบจะครบวงจรแห่งความชั่วร้ายเท่าที่มีในโลกอาชญากรรม โดยกล่าวเฉพาะเอกสารสำนวนฟ้องแล้วหนักถึง 2 ตัน 

ครั้นถึง ค.ศ.2025 ทางการจีนก็ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะชื่อ  หลิวจงอี้ (劉忠義) มายังไทยในเดือนมกราคม เพื่อประสานงานและร่วมมือกับทางการไทยแก้ปัญหาดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพราะการปราบปราม “มาเฟียตระกูลหมิง” เมื่อปีก่อนหน้านี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของเมียนมาที่อยู่ติดกับชายแดนจีนที่อวิ๋นหนัน ส่วนครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ชายแดนไทย-เมียนมา

ผลคือ โกกั้งและว้าในส่วนที่อยู่ติดกับชายแดนไทยถูกจับกุมจากทางการเมียนมา โดยชาวจีนที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ถูกจับกุมและส่งตัวกลับจีนเพื่อดำเนินคดีกว่า 5,400 คน

นับจากปฏิบัติการครั้งนั้นไปแล้ว ชนชั้นนำโกกั้งและผู้ใต้ปกครองยังคงอยู่ในดินแดนที่ตนเคยอยู่มาหลายร้อยปีต่อไป ที่ไม่มีใครรู้ว่า พวกเขายังคงก่ออาชญากรรมใดอีกหรือไม่ รู้แต่เพียงว่า ยาเสพติดที่เคยเข้ามายังไทยอย่างไรก็ยังคงเข้ามาไม่เปลี่ยนแปลง

 ความลงท้าย 

แล้วเรื่องราวของโกกั้งก็มาถึงกาลอันควรที่จะจบ แต่มิได้หมายความว่า ชีวิตของโกกั้งจะจบไปด้วย โกกั้งยังคงอยู่ในดินแดนของตนดังที่อยู่มาแล้วหลายร้อยปี ชั่วอยู่แต่ว่าอยู่ไปจนไม่เหลือเค้าความเป็น “ผู้ดี” แห่งราชวงศ์หมิงเหลืออยู่อีกเลย และที่ดำรงอยู่กลับเป็น “ผู้ร้าย” ที่ยากจะกลับตัว

ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า โกกั้งได้รับโอกาสอันดีจากพม่าหรือเมียนมาให้อยู่ได้โดยอิสระมายาวนาน และด้วยความอิสระนั้นโกกั้งจึงนึกอยากทำอะไรก็ทำไป สุดแท้แต่ผลประโยชน์จะชักนำไป ถึงแม้สิ่งที่ทำจะผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรงก็ตาม โกกั้งดำรงชีวิตเช่นนี้จนเกิดความคุ้นชินและไม่รู้สึกถึงความผิดถูก และคงเป็นเช่นนี้ต่อไปโดยไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่โกกั้งจะหยุดคิดเช่นนั้น

เหตุดังนั้น ชาวโลกทั้งที่อยู่ใกล้และไกลจากโกกั้งจึงยังคงได้รับผลกระทบจากสิ่งที่โกกั้งได้ก่อขึ้นต่อไป ด้วยเชื่อกันว่า ผลประโยชน์อันมหาศาลของโกกั้งที่ถูกจัดการเมื่อ ค.ศ.2025 จะทำให้โกกั้งสงบลงชั่วคราวเท่านั้น หากตั้งหลักได้เมื่อไหร่โกกั้งก็จะกลับมาก่อเหตุอีก

ถึงตอนนั้นจีนและชนชาติในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงคงต้องมาตั้งรับโกกั้งให้ดีๆ แต่คงจะดีไม่น้อยหากสามารถทำให้โกกั้งก้าวออกมาจากโลกมืดมาได้


กำลังโหลดความคิดเห็น