xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

โกกั้ง (19) สู่โลกมิจฉาชีพ (ต่อ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปฏิบัติการกวาดล้าง “จีนเทา” ที่เล่าก์ก่าย เมืองหลวงของโกกั้ง
ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล

 การที่ไทยเป็นทางผ่านของพวกมิจฉาชีพหรืออาชญากรข้ามชาตินั้น ทำให้เกิดคำถามว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

คำตอบคือ ตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อนตอนที่เศรษฐกิจฟองสบู่ไทยกำลังฟูฟ่องนั้น ปัจจัยหนึ่งที่มาเกื้อหนุนคือ การท่องเที่ยว ที่ขณะนั้นยังไม่ได้เฟื่องเท่าปัจจุบัน แต่ก็ทำให้ภาครัฐเห็นช่องทางในการสร้างรายได้เข้าประเทศจากธุรกิจนี้ ภาครัฐจึงมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยส่วนหนึ่งของนโยบายก็คือ การเอื้อให้การเดินทางเข้าออกประเทศไทยของชาวต่างชาติมีความสะดวกมากขึ้น

จนกล่าวกันว่า ไทยไม่เพียงจะเป็นวิมานของนักท่องเที่ยวเท่านั้น หากแต่ยังเป็นวิมานของเหล่าอาชญากรข้ามชาติอีกด้วย 

นอกจากนโยบายดังกล่าวแล้ว ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ก็ยังเป็นปัจจัยที่ดึงดูดอาชญากรรมข้ามชาติด้วยเช่นกัน กล่าวคือ ไทยเป็นชาติที่มีที่ตั้งติดหรือใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน และมีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งบันเทิงเริงรมย์ไปทั่วโลก ไทยจึงเป็นจุดหมายปลายทางของต่างชาติ

ประเด็นปัญหาก็คือว่า การเป็นแหล่งบันเทิงเริงรมย์นั้น ย่อมนำมาซึ่งธุรกิจอบายมุขให้เกิดตามมาด้วยเช่นกัน เมื่อมีธุรกิจอบายมุขก็ง่ายต่อการมีธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเมื่อ 40-50 ปีก่อนธุรกิจที่ผิดกฎหมายก็เช่น การค้ายาเสพติด การค้าประเวณี การค้าของเถื่อน และการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

ธุรกิจที่ผิดกฎหมายตามที่ยกมาข้างต้นนั้น กล่าวเฉพาะการค้ามนุษย์ข้ามชาติแล้ว อาจกล่าวได้ว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังสุด โดยเฉพาะหลังจากจีนมีนโยบายเปิดประเทศตั้งแต่ ค.ศ.1979 นโยบายนี้ทำให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้ง่ายขึ้น และด้วยเหตุที่เศรษฐกิจจีนในขณะนั้นยังล้าหลัง ดินแดนต่างชาติจึงเป็นจุดหมายปลายทางของชาวจีน

ชาวจีนที่มีฐานะดีหน่อยจะมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศที่พัฒนาแล้ว ส่วนที่มีฐานะด้อยลงมาจะมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ประเทศกำลังพัฒนา ยิ่งมีที่ตั้งใกล้หรือติดกับจีนด้วยแล้วก็ยิ่งประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง กลุ่มหลังนี้เลือกไทยเป็นจุดหมายปลายทางของตน ด้วยในเวลานั้น (รวมทั้งเวลานี้) เศรษฐกิจของไทยดีกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน

และเมื่อประกอบกับความสะดวกในการเดินทางเข้าออกด้วยแล้ว ก็ยิ่งเอื้อให้ชาวจีนมุ่งมาไทยเพื่อชีวิตที่ดีกว่ามากขึ้น

 คนไทยที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปในปัจจุบันคงจะจำได้หรือคุ้นๆ กับข่าวหนึ่งที่อื้อฉาวมากในไทยขณะนั้นคือ แก๊งลูกหมูจีน ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมข้ามชาติที่จีน “นำเข้า” มายังไทยเมื่อทศวรรษ 1990 โดยแก๊งนี้จะจับชาวจีนที่มาท่องเที่ยวในไทยเพื่อเรียกค่าไถ่จากครอบครัวของเหยื่อที่จีน 

หลายคดีที่ทางการไทยช่วยไว้ทำให้พบว่า เหยื่อจะถูกกระทำอย่างรุนแรงเพื่อบีบบังคับให้ครอบครัวของเหยื่อเร่งส่งเงินมาไถ่ตัว ด้วยการทุบตีเหยื่อจนร้องไห้เสียงดังด้วยความทนทุกข์ทรมาน ผ่านทางโทรศัพท์ให้ครอบครัวเหยื่อได้ยิน หากยังไม่ได้ผล แก๊งนี้ก็จะตัดนิ้วของเหยื่อแล้วส่งไปให้ครอบครัวเหยื่อได้เห็น เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้ส่งค่าไถ่มาเร็วขึ้น

จะเห็นได้ว่า อาชญากรรมข้ามชาติจากจีนมาไทยมีมาหลายสิบปีตั้งแต่ที่จีนมีนโยบายเปิดประเทศแล้ว แต่เมื่อมีการปราบปรามอย่างหนักด้วยความร่วมมือระหว่างทางการไทยกับจีน อาชญากรรมนี้จึงลดลงจนข่าวแก๊งลูกหมูค่อยๆ เงียบหายไป

อนึ่ง คำว่า แก๊งลูกหมู นี้เป็นคำเก่าแก่แต่โบราณ เป็นคำที่ใช้เรียกชาวจีนที่โดยสารเรือเดินทางไปยังต่างแดนเพื่อแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ด้วยในเวลานั้นจีนยังยากจนข้นแค้น ชาวจีนเหล่านี้จะนั่งอยู่ในเรืออย่างแออัดยัดเยียด จนแม้แต่จะเหยียดแข้งขายังแทบทำไม่ได้ สภาพเช่นนี้จึงถูกนำมาเปรียบเปรยกับลูกหมูที่นอนเบียดเสียดกันในคอก จนเป็นที่มาของคำว่า แก๊งลูกหมู หรือ จูไจ่ปัง (猪仔幫) ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาพสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป การก่ออาชญากรรมที่โหดเหี้ยมอำมหิตดังกล่าวก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปแบบไป ช่วงนี้เองที่ธุรกิจอบายมุขอย่างบ่อนกาสิโนได้เกิดขึ้นมาแทนที่นับแต่ทศวรรษ 2000 ไม่นานธุรกิจนี้ก็เฟื่องฟูโดยมีชาวจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่

 จากที่มีการสำรวจพบว่า จนถึง ค.ศ.2020 เล่าก์ไก่ที่เป็นเสมือนเมืองหลวงของโกกั้งนั้นมีบ่อนกาสิโนถึง 30 แห่ง บ่อนเหล่านี้เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงตลอดทั้งปี และมีโรงแรมอีกกว่า 50 แห่ง กับอาคารสูงหลายชั้นที่ถูกสร้างขึ้นตรงชายแดนไทย-พม่า

โดยทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนไปได้โดยใช้ภาษาจีนเป็นหลัก สินค้าที่บริการนักท่องเที่ยวหรือนักพนันก็เป็นสินค้าจีน การซื้อการขายใดๆ ล้วนใช้เงินหยวนของจีน เวลาที่ใช้อ้างอิงก็เป็นเวลาจีน รถยนต์ก็เป็นป้ายทะเบียนจีน ไม่เว้นแม้แต่สัญญาณโทรศัพท์ที่ก็ใช้เครือข่ายของจีน 

ในช่วงที่ธุรกิจบ่อนกาสิโนเฟื่องฟูในแดนโกกั้งนั้นเอง ที่จีนก็ได้เกิดแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ขึ้น และเมื่อทางการจีนตั้งหลักได้แล้วจึงทำการปราบปรามอย่างหนัก ภายใต้กฎหมายที่มีบทลงโทษที่เด็ดขาดรุนแรง โดยโทษที่หนักสุดคือ ประหารชีวิต เมื่อถูกปราบอย่างหนักอาชญากรจีนพวกนี้จึงระเห็จมายังดินแดนโกกั้ง

ข้างโกกั้งที่ทำธุรกิจผิดกฎหมายอย่างการค้ายาเสพติดมาช้านาน การที่จะร่วมมือกับพวกอาชญากรจีนเพื่อตั้งตนเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือสแกมเมอร์ จึงเป็นเรื่องที่โกกั้งสามารถทำได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจอยู่แล้ว ซึ่งว่าที่จริงแล้วยังถือเป็นการต่อยอดอาชญากรรมเดิมของตนด้วยซ้ำไป ในขณะที่ธุรกิจอบายมุขอย่างบ่อนกาสิโนก็มิได้ลดความเฟื่องฟูลงแต่อย่างใด




ถึงตรงนี้จำต้องชี้ให้เห็นถึงนัยสำคัญของความร่วมมือดังกล่าวด้วยว่า ปัจจัยที่เกื้อหนุนให้ความร่วมมือนั้นเกิดขึ้นได้ก็คือ ภาษาจีน

เพราะโกกั้งใช้ภาษาจีนเป็นพื้นเดิมมาหลายร้อยปีแล้ว ข้างพวกอาชญากรจีนก็ไม่คิดผู้ที่จะมาเป็นหุ้นส่วนของตนให้มากความ เพราะโกกั้งคือตัวเลือกที่ดีที่สุด

ส่วนโกกั้งก็ไม่ต้องคิดมากเช่นกัน เพราะด้วยความคุ้นชินกับธุรกิจผิดกฎหมายมานานจึงรับลูกจากพวกอาชญากรจีนได้โดยง่าย ยิ่งวิธีการก่ออาชญากรรมใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือสำคัญด้วยแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกดีด้วยเป็นงานเบา ไม่เหมือนการค้ายาเสพติดที่มีความเสี่ยงชีวิตสูง

 หลังจากที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ได้อุบัติขึ้นในโลกใบนี้แล้ว กล่าวเฉพาะในไทยพบว่า การใช้โทรศัพท์หลอกลวงเหยื่อมีมากถึง 6.4 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 270 จาก ค.ศ.2020 และยังพบการส่งข้อความขนาดสั้นหรือเอสเอ็มเอส (SMS) หลอกลวงเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 57

ในปี ค.ศ.2021 มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) กว่า 1,600 คน มูลค่าความเสียหายสูงกว่า 1,000 ล้านบาท

เฉพาะเดือนมกราคมถึง 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2022 มีผู้เข้าแจ้งความสูงถึง 129 คดี 


กำลังโหลดความคิดเห็น