xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

โกกั้ง (16) การเผชิญหน้ากับพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล


การเข้ามาในฐานะสะใภ้ของ  ซีซิเลีย เอ็ง หรือที่มีชื่อจีนว่า  เอ็ง ซอร์ฮอง  (Ng Sor Hong, ไม่ทราบตัวเขียนจีน) ที่มีสัญชาติสิงคโปร์นี้ในเบื้องต้นถือว่าได้ช่วยธุรกิจของโลซิงฮันได้อยู่ไม่น้อย เพราะสิงคโปร์ที่ถือเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น มีส่วนไม่มากก็น้อยในการช่วย “ฟอก” ให้ธุรกิจมืดของเขาให้แลดูขาวสะอาดขึ้น

แต่ในเมื่อสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจโลกจะเอาจริงในการจัดการกับการค้ายาเสพติดของคนกลุ่มนี้ ภูมิหลังของเธอจึงไม่เพียงจะช่วยไม่ได้เท่านั้น หากยังลากให้รัฐบาลสิงคโปร์มีมลทินไปด้วย เมื่อสหรัฐฯ ประกาศว่า สิงคโปร์กลายเป็นแหล่งฟอกเงินของคนกลุ่มนี้ จากนั้นสหรัฐฯ ก็ประกาศคว่ำบาตรธุรกิจของเธอและสตีเว่น ลอว์ ผู้เป็นสามี

 บริษัทที่ถูกคว่ำบาตรได้แก่ Asia World Co.Ltd ของสตีเว่น ลอว์ ตลอดจนอีกสามบริษัทคือ Asia World Port Management Co, Asia World Industries, และ Asia Light Co.

ส่วนบริษัทในสิงคโปร์ของซีซิเลียที่ถูกคว่ำบาตรก็คือ Golden Aaron Pte. Ltd., G.A. Ardmore, G.A. Capital, G.A. Foodstuffs, G.A. Land, G.A. Resort, G.A. Sentosa, G.A. Treasure, G.A. Whitehouse, และ S.H. Ng Trading, Aureum Palace Hotels & Resorts, Myanmar Treasure Resorts โดยสองธุรกิจหลังนี้อยู่ในเครือ Htoo Group เป็นต้น 

ที่สำคัญ สหรัฐฯ ยังสั่งห้ามมิให้บุคคลและบริษัทธุรกิจของสหรัฐฯ ทำธุรกิจใดๆ กับผู้ถูกคว่ำบาตรเหล่านี้ หากผู้ใดละเมิดจะถูกดำเนินคดีให้ได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังได้เปิดเผยอีกว่า บริษัทซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยโลซิงฮันที่ให้การสนับสนุนการปกครองของพม่านั้น ยังได้รับสัมปทานกิจการอีกมากมายจากรัฐบาลพม่าอย่างเช่น การสร้างท่าเรือ, ทางหลวงแผ่นดิน และกิจการสาธารณูปโภคต่างๆ อีกด้วย

จากนั้นกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ก็ตบท้ายมาตรการคว่ำบาตรของตนด้วยการระบุว่า  โลชิงฮันคือ เจ้าพ่อเฮโรอีน (God Father of Heroin) ที่มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งของพม่า  การระบุเช่นนี้มิอาจหลีกเลี่ยงมิให้ชาวโลกตั้งข้อสงสัยไปได้ว่า รัฐบาลพม่าจะไม่รู้ภูมิหลังเช่นนี้ของเขาเชียวหรือไร แน่นอนว่า ข้อสงสัยนี้ย่อมมิอาจห้ามมิให้ชาวโลกคิดต่อไปได้ว่า ถ้าเช่นนั้นแล้วชนชั้นนำในพม่าก็ย่อมได้ประโยชน์จากเจ้าพ่อเฮโรอินผู้นี้ได้เช่นกัน

นอกจากนี้  จอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้นยังได้กล่าวถึงมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้อีกด้วยว่า การคว่ำบาตรของวอชิงตันทำได้ในขอบเขตจำกัด เนื่องจากโดยส่วนใหญ่แล้วพม่ายังทำการค้ากับประเทศอื่นๆ อีกด้วย เช่น จีนและสหภาพยุโรป

ประเทศเหล่านี้มิอาจให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรผ่านระบบธนาคาร และสหรัฐฯ จำต้องกดดันประเทศเหล่านี้เพื่อกระตุ้นให้เกิดระบบประชาธิปไตยในพม่า และว่า  “เราอยากให้เพื่อนบ้านของพม่าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ร่วมด้วยช่วยกันกดดันระบบปกครองของพม่า เพื่อให้ปล่อยนักโทษการเมืองทั้งหมด” 

อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ เมื่อ ค.ศ.2008 ได้ผลในระดับหนึ่ง และในระยะสั้นๆ อีกทั้งยังดูเหมือนว่าสายตาของชาวโลกในขณะนั้นต่างก็เล็งไปที่จีนเสียมากกว่า ด้วยว่าในปีนั้นเป็นปีที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ซึ่งในอีกไม่กี่เดือนก่อนที่กีฬาโลกนี้จะเริ่มขึ้นนั้น ก็ให้เกิดเหตุการณ์ใหญ่ขึ้นในจีนสองเหตุการณ์

เหตุการณ์หนึ่งคือ การประท้วงของชาวทิเบตที่เกิดขึ้นในหลายมณฑลของจีนที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่ การประท้วงนี้เกิดขึ้นราวเดือนมีนาคม โดยชาวทิเบตเรียกร้องให้นานาประเทศทำการคว่ำบาตรกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ การประท้วงทอดเวลายาวนานนับสิบวันก่อนที่จีนจะเข้ามาจัดการได้สำเร็จ

สิ่งที่เป็นผลจากการประท้วงครั้งนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ก็ยังทำให้ชาวโลกเห็นว่า ชาวจีนเป็นที่เกลียดชังของชาวทิเบตอย่างมาก เพราะนานนับสิบปีก่อนหน้านั้น รัฐบาลจีนได้ส่งเสริมให้ชาวจีนไปตั้งรกรากทำมาหากินที่ทิเบต ได้ส่งผลกระทบไปถึงวิถีชีวิตของชาวทิเบตจนนำมาซึ่งความไม่พอใจดังกล่าว

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อเดือนพฤษภาคม แผ่นดินไหวครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายนับแสนคน ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้ได้บั่นทอนทรัพยากรของจีนลงไปไม่น้อย

ผลคือ การประกาศมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้กัน แต่ที่รู้แน่ๆ คือมาตรการดังกล่าวแทบจะไม่ได้ผล โดยเฉพาะในการกดดันให้โกกั้งยุติการผลิตและค้ายาเสพติดอย่างสิ้นเชิง ที่เคยผลิตและค้ากันมาอย่างไรก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างนั้น เพียงแต่ทำให้มันดูลี้ลับมากขึ้น แล้วยกเอาธุรกิจที่ถูกกฎหมายมาทำเพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นว่า ตนได้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกับกระแสโลกาภิวัตน์ในขณะนั้นแล้ว

ที่ควรกล่าวด้วยก็คือว่า แม้การผลิตและค้ายาเสพติดของโกกั้งยังคงดำเนินต่อไป แต่ในเมื่อโกกั้งเองก็ต้องการเปิดตัวต่อชาวโลกว่าตนก็เป็นอารยชนเพื่อให้ชาวโลกยอมรับ โกกั้งก็ได้ประกาศที่จะยุติการผลิตและค้ายาเสพติดเมื่อ ค.ศ.2002 โดยจะลดการผลิตลงไปอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะหมดไป เช่นเดียวกันที่ว้าก็ประกาศเช่นนั้น แต่จนแล้วจนรอดก็ยากที่จะทำให้ชาวโลกเชื่อได้สนิทใจ

 ที่สำคัญ ธุรกิจที่ถูกกฎหมายที่โกกั้งยกขึ้นมาทำนั้นกลับเป็นธุรกิจอบายมุข อย่างสถานบันเทิงที่ให้บริการทางเพศ หรือบ่อนกาสิโน เป็นต้น กล่าวเฉพาะบ่อนกาสิโนแล้ว เวลานั้นลูกค้าแทบทั้งหมดจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยที่ไม่มีใครทำนายได้ว่า ในอีกนับสิบปีต่อมามันจะได้ขยายไปสู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

แต่แล้วสิ่งที่เกินกว่าใครจะคาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อ  ขิ่น ยุนต์  ผู้นำพม่าที่มีส่วนสำคัญในการผลักดันให้โกกั้งเข้าสู่การเจรจาสันติภาพได้ถูกยึดอำนาจ และถูกควบคุมตัวใน ค.ศ.2004 ให้อยู่ในบริเวณบ้านพัก กว่าเขาจะถูกปล่อยตัวเวลาก็ล่วงเข้าสู่ ค.ศ.2011 ไปแล้ว โดยในระหว่างที่เขาถูกควบคุมตัวอยู่นั้น นโยบายของรัฐบาลพม่าก็เปลี่ยนไปสู่การเป็นปฏิปักษ์กับโกกั้งอีกครั้งหนึ่ง

โดยหลังจากรัฐบาลพม่าถูกมาตรการกดดันจากสหรัฐฯ ใน ค.ศ.2008 แล้ว ในปีถัดมาอิสระของโกกั้งก็เกิดปัญหาขึ้น เมื่อโกกั้งปฏิเสธจะแปรกองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยเมียนมาหรือ MNDAA ที่งานศึกษานี้ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ให้เป็นกองกำลังรักษาชายแดน (Border Guard Force: BGF) ซึ่งสำหรับโกกั้งแล้วย่อมคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากพม่ากำลังลดบทบาททางการทหารของตนลง

ซึ่งเป็นเรื่องที่โกกั้งยอมไม่ได้เป็นอันขาด

แน่นอนว่า โกกั้งปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือกับพม่า และได้สร้างความไม่พอใจให้พม่าด้วยในด้านหนึ่งได้เท่ากับว่า โกกั้งกำลังกระด้างกระเดื่องต่อรัฐบาลพม่า การเผชิญหน้าระหว่างกองกำลังพม่ากับกองกำลังโกกั้งจึงเกิดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ.2009 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 พม่าได้ยกกำลังเข้ากดดันโกกั้งจนเกิดการปะทะกันขึ้น การปะทะในครั้งนั้นส่งผลให้ชาวโกกั้งราว 30,000 คนต้องอพยพเข้าไปในดินแดนจีน 


กำลังโหลดความคิดเห็น