xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เลือกตั้งไม่เที่ยงธรรมยุคการเมือง“เทพ-มาร”!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 พลเอก สุจินดา คราประยูร
 “สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”


น่าเสียดายที่การเมืองไทยฉากใหม่ หลังจากนายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ลงจากเวทีการเมือง แม้รัฐบาลนี้จะมีส่วนดี แต่โดยรวมแล้วไม่มีอะไรพัฒนาให้เห็นอนาคตที่สดใส ให้ชาติกับประชาชนส่วนใหญ่ได้กินดีอยู่ดีดังควรเลย..

เหตุการณ์เผด็จการอันป่าเถื่อนของ พล.อ. สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีคนที่ 19 “นายทหาร” ที่ประกาศตนอย่างเปิดเผยว่า “เป็นคนตระบัดสัตย์” ด้วยข้ออ้างที่หลงคิดว่าเสียสละ “ยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ” เพื่อจะได้เป็นทั้งนายกฯ กับรัฐบาล รับใช้ “กลุ่มทหาร รสช.” ทว่า.. รัฐบาล นายกฯ บิ๊กสุ อยู่ในอำนาจได้แค่ 47 วันเท่านั้น!!!

ด้วย “นายกฯ หุ่นเชิด” ของ “กลุ่มทหาร รสช.” ถูก “นายทหาร” ผู้รักชาติรักประชาธิปไตย พล.ต. จำลอง ศรีเมือง นำประชาชนออกมาต่อต้านอำนาจอธรรม สุดท้ายกลไกรัฐบุกจับ “มหาจำลอง” และสั่งทหารในกองทัพไทย ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนที่มีเพียงสองมือเปล่าอย่างโหดเหี้ยมกลางเมืองหลวง จนผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก!

ทว่า..ประชาชนไทยผู้เสียสละกล้าหาญมิได้เกรงกลัว กลับปักหลักต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการ บิ๊กสุ จนการชุมนุมประท้วงแผ่ขยายไปทั่วทุกหนแห่ง ทุกคนมุ่งต่อต้านขับไล่รัฐบาลเผด็จการของ “นายกฯ ตระบัดสัตย์บิ๊กสุ”..

โชคดีที่ความไม่ถูกต้องชอบธรรมนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มิอาจทรงทนเห็นพสกนิกรจำนวนมากของพระองค์ ที่มีแค่สองมือเปล่า ต้องบาดเจ็บล้มตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ นำ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง กับ พล.อ. สุจินดา คราประยูร เข้าเฝ้าเพื่อรับฟังพระราชดำรัส ให้ สองนายพล ได้สำนึกถึงชาติบ้านเมืองและประชาชน สรุปสั้นๆ ดังนี้
 
“ขอให้สองท่าน หันหน้าเข้าหากัน ไม่ใช่เผชิญหน้ากันเพียงแต่ว่าจะต้องเอาชนะ แล้วใครจะชนะ ไม่มีทาง อันตรายทั้งนั้น มีแต่แพ้ คือต่างคนต่างแพ้ แล้วที่แพ้ที่สุดคือประเทศชาติ ประชาชน แล้วจะมีประโยชน์อะไร ที่จะทะนงตัวว่าชนะ เวลาอยู่บนกองสิ่งปรักหักพัง ”
 
หลังการแก้รัฐธรรมนูญให้ “นายกฯ มาจากการเลือกตั้ง” และประเด็นอื่นๆ ตามคำเรียกร้อง มีการเลือกตั้งในวันที่ 13 กันยายน 2535 พรรคประชาธิปัตย์ ที่มี ชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค ได้อาศัยภาพลักษณ์ความเป็นกลุ่ม “พรรคเทพ” ชวน หลีกภัย ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20
 
ย้อนดูการบริหารชาติช่วงเตรียมเลือกตั้งของรัฐบาล อานันท์ ปันยารชุน กลไกรัฐบาล นายกฯ อานันท์ มีหลายเรื่องทั้งลับและเปิดเผย เอียงข้างอย่างน่าเกลียด หนุน “การเมืองกลุ่มพรรคเทพ” และขัดขวาง “การเมืองกลุ่มพรรคมาร”อย่างไร้เหตุผลในหลายเรื่อง ทั้งๆ ที่บางพรรคการเมืองควรจะหาเสียงได้ แต่กลไกรัฐยุคอานันท์ กลับหาเหตุอ้างโน่นอ้างนี่ ไม่อนุญาตหรือกลั่นแกล้งอย่างไม่ชอบธรรม ด้วยอ้างว่าเป็น“พรรคมาร” เช่น..
 
“พรรคชาติพัฒนา” ที่มี พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้า แม้พรรคจะเพิ่งตั้งขึ้นมาหมาดๆ ก็ถูกเหมารวมให้เป็น “พรรคมาร” จึงพลอยโดนกลั่นแกล้งด้วยเล่ห์ร้ายไปด้วย จนเกิดเรื่องไม่ชอบธรรมขึ้นดังนี้..
 
ที่บ้านเรือนไทย พี่โต้งกับผมพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอย่างเอาจริงเอาจัง วางแผนการหาเสียงให้พรรคชาติพัฒนา โดยเบื้องแรกได้คำขวัญที่มุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นไปได้ ในการจะหวนกลับมาสร้างเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอีกครั้ง นั่นคือ “หันหน้าเข้าหากัน เร่งสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทย”

น้าชาติกับแกนนำพรรคชาติพัฒนาต่างเห็นด้วยกับคำขวัญนี้ เพราะทุกคนพร้อมจะทำให้ประชาชนเชื่อตามนโยบายว่า “น้าชาติกับพรรคชาติพัฒนา สามารถทำให้คำขวัญนี้ปรากฎเป็นจริงได้ในอนาคต”
 
หลังการพูดคุยและดื่มกาแฟหมดไปหลายถ้วย.. ก็ได้ข้อสรุปตรงกันว่า ต้อง“สร้างความหวังที่เป็นจริงได้ ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นก่อน”
 
เมื่อพี่โต้งกับผมและกองเลขาฯ ได้พิจารณาความหลากหลายจากชีวิตจริงของอดีตนายกฯ ก็พบว่า ชีวิตที่โดดเด่นของน้าชาติเหมาะสมจะนำมาใช้ นั่นคือ น้าชาติเคยเป็นทูตทหารไทยในญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นคือชาติที่มาลงทุนทางเศรษฐกิจรายใหญ่ของชาติไทย อีกทั้งน้าชาติมีเพื่อนๆ ในญี่ปุ่นเป็นผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ และหลายคนเป็นนักการเมืองใหญ่ ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบันก็เป็นเพื่อนของน้าชาติ!

ข้อสรุปจึงอยู่ตรงที่ต้องให้ พล.อ. ชาติชาย ชุณหะวัณ เดินทางไปญี่ปุ่น ไปพบกับเพื่อนๆ เหล่านั้น เชิญชวนให้เพื่อนชาวญี่ปุ่นมาร่วมมือทางเศรษฐกิจและพร้อมให้การสนับสนุนประเทศไทย เพื่อจะบรรลุเป้าหมายสร้างเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเติบโตยิ่งขึ้นในอนาคต!

พี่โต้งกับผมจึงขอให้น้าชาติเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นโดยเร็ว เพื่อน้าชาติจะได้พบปะกับเพื่อนๆ ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุผลขอให้สนับสนุนทางการเงินสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สอง มุกดาหาร-สะหวันนะเขต
น้าชาติควักเงินส่วนตัวให้พี่โต้งกับผมและคนในกองเลขาฯ เดินทางล่วงหน้าไปเพื่อเตรียมการต่างๆ ให้พร้อม พวกเราได้ไปพักที่โรงแรมอิมพีเรียล กรุงโตเกียว

เมื่อน้าชาติเดินทางมาสมทบ วันรุ่งขึ้นพวกเราก็เดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น เข้าพบหัวหน้าฝ่ายเอเซีย กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น พี่โต้งได้พูดคุยเรื่องเงินสนับสนุนสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สอง แต่หัวหน้าฝ่ายเอเซีย บอกว่า “ญี่ปุ่นให้เงินลาวได้ แต่ให้ไทยไม่ได้ เพราะไทยมิใช่ประเทศด้อยพัฒนาแล้ว!”

โชคดีที่ในที่ประชุมมี บุตรบุญธรรม ของ นายตาบูชิ ประธานบริษัทโนมูระ สถาบันการเงินใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ซึ่งนายตาบูชิเป็นเพื่อนกับน้าชาติ ร่วมอยู่ในการประชุมด้วย เขาพูดกับพี่โต้งและพวกเราว่า..

นายชวน หลีกภัย

นายอานันท์ ปันยารชุน

 พลเอก ชาติชาย ชุณหวัณ
 “ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้ให้น้าชาติไปพบกับนายกฯ ญี่ปุ่นที่ทำเนียบ แล้วนายกฯ ญี่ปุ่นจะสนับสนุนทางการเงินสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สองให้น้าชาติกับลาวเอง”

บุตรบุญธรรมประธานบริษัทโนมูระ ย้ำกับพวกเราว่า “พรุ่งนี้เช้าน้าชาติต้องไปพบกับนายกฯ ญี่ปุ่นที่ทำเนียบฯ นะครับ” เขาพูดย้ำซ้ำอีกก่อนลาจาก

เข้าวันรุ่งขึ้น น้าชาติและพี่โต้งได้เดินทางไปพบกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ทำเนียบฯ หลังจากนั้นพี่โต้งก็เล่าให้พวกเราฟังสั้นๆ ว่า “ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เป็นไปตามที่ลูกบุญธรรมประธานฯ ตาบูชิบอก” นั่นคือ..

“นายกฯ ญี่ปุ่นรับปากพร้อมจะสนับสนุนทางด้านการเงินให้แก่ชาติไทย ในโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง ไทย-ลาวแห่งที่สอง”

เกี่ยวกับการสนับสนุนฯ ของญี่ปุ่นต่อไทยครั้งนี้ พี่โต้ง ผม และคณะกองเลขาฯ ได้วางแผนให้มีการถ่ายทอดสดข่าวการให้ความร่วมมือนี้ ผ่านสื่อมวลชนทั้งญี่ปุ่นและไทย เพื่อประชาชนทั้งสองประเทศและชาวโลกรับรู้โดยพร้อมเพรียงกัน แผนการนี้มีการประสานงานล่วงหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทว่า.. เมื่อเดินหน้าไปตามแผนนี้ ในวินาทีสุดท้ายขณะที่น้าชาติได้พบปะพูดคุยกับนายกฯ ญี่ปุ่น “กลไก”ของรัฐบาลอานันท์ กลับไม่อนุญาตให้ถ่ายทอดสดไปประเทศไทยเอาดื้อๆ โดยอ้างว่า “จะสร้างความไม่เป็นธรรม เพราะทำให้พรรคน้าชาติจะได้เปรียบเหนือพรรคการเมืองอื่น”

แต่ “ข่าวลึกไม่ลับ” บอกว่า น้าชาติถูกเตะตัดขากระทันหัน เพราะน้าชาติเคยเป็นหัวหน้าพรรคชาติไทย จึงถูกเหมารวมให้เป็น “กลุ่มพรรคมาร” ทั้งที่พรรคใหม่อย่างพรรคชาติพัฒนาไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย!...

งานและเงินสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่สอง “คนญี่ปุ่น” ช่วยทำให้สำเร็จราบรื่นตามแผนของพี่โต้งและกองเลขาฯ น้าชาติ! แต่การ “ถ่ายทอดสดไปไทย” ไม่สำเร็จ เพราะถูก “คนไทย” ขัดขวาง!

“พรรคชาติพัฒนา”โชคร้าย! ที่การเมืองไทยช่วงเลือกตั้งครั้งนั้น ดันมีกระแสจอมปลอม “พรรคเทพ-พรรคมาร”ครับ!!


กำลังโหลดความคิดเห็น