ถ้าแพทองธารไปไม่รอด ทางออกสุดท้ายจะเป็นอย่างไร

หนึ่งความคิด
สุรวิชช์ วีรวรรณ

ตอนนี้มีคำถามว่า บ้านเมืองจะถึงทางตันไหม จะยุบสภาหรือไม่ และอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตรจะรอดพ้นการถูกถอดถอนจากศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และใครจะรับข้อเสนอของพรรคประชาชนไหม หรือพรรคภูมิใจไทยจะจับมือกับพรรคประชาชนแล้วดึงเสียงจากฝ่ายรัฐบาลบางส่วนมาสนับสนุนเพื่อให้อนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรีได้ไหม หากแพทองธารเผชิญกับวิบากกรรม

ผมคิดว่าแม้ขณะนี้จะเห็นว่าเสถียรภาพของรัฐบาลกำลังจะมีปัญหาเนื่องจากมีเสียงมากกว่าพรรคฝ่ายค้านไม่กี่เสียง แต่ถ้ากำชับสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลถึงความจำเป็นที่จะเข้าร่วมประชุมสภาเพื่อรักษาองค์ประชุมและรักษาเสียงข้างมากก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องหนักหนาอะไร

แต่ถ้าไล่ไปตามขั้นตอนคิดว่าไม่เกิน 2 เดือน ผลของศาลรัฐธรรมนูญกรณีของแพทองธารน่าจะรู้ผล ศาลท่านให้เวลาแพทองธารชี้แจง 15 วัน หลังจากนั้นคิดว่าไม่เกิน 1 เดือน ศาลน่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา ถ้าถามผมว่า รอดไหม ผมฟันธงว่าไม่รอด คนเป็นนายกรัฐมนตรีไปใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวพูดกับชาติที่กำลังมีปัญหาความขัดแย้งกับชาติตัวเองด้วยท่าทีแบบนั้นไม่น่าจะเป็นวิสัยที่นายกรัฐมนตรีควรจะปฏิบัติ

แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเลยบอกว่าจะรอดก็มีเช่นพนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ที่บอกว่า การที่อุ๊งอิ๊งค์ออกมายอมรับแต่แรกว่าเสียงในคลิปที่ฮุนเซนเจ้าเล่ห์เอามาปล่อยเป็นเสียงของตนเอง ไม่เรียกว่าเป็นความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่เห็นประจักษ์ดอกหรือ เพราะหากจะปฏิเสธไว้ก่อนว่าเป็นการใช้ AI ปลอมเสียงก็ย่อมทำได้

ส่วนข้อกล่าวหาว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมเป็นการร้ายแรง ก็ไม่เห็นว่าการที่อุ๊งอิ๊งค์บอกว่ามทภ.2 เป็นฝ่ายตรงกันข้ามกับตนเอง เข้าข่ายเป็นการผิดมาตรฐานจริยธรรมข้อไหน เพราะทหารไทยส่วนใหญ่ก็อยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับฝ่ายปชต.มาจนถึงทุกวันนี้อยู่แล้ว

ฟังแล้วก็ตลกดีครับ เหมือนกับจะบอกว่า ถ้าเราไปแอบทำอะไรที่ไม่ดีมาก็ยอมรับเสียนั่นแสดงว่าเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต โดยไม่ต้องพิจารณาถึงการกระทำและผลที่เกิดขึ้น ส่วนทหารก็เป็นฝ่ายตรงข้ามกับประชาธิปไตยอยู่แล้ว เพราะฝ่ายที่รัฐประหารยึดอำนาจเสมอมาก็คือทหารนั่นแหละ ดังนั้นแปลว่า แม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลนั้นถูกต้องแล้ว ซึ่งฟังดูเหมือนนิทานเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ

นี่เป็นความเห็นของคนที่เคยเป็นระดับคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เชื่อกันเป็นคณะนิติศาสตร์อันดับต้นๆของประเทศเชียวนะครับ ท่านจะสอนลูกศิษย์อย่างไรถ้านิยามว่ากฎหมายคือระบบของตรรกะและเหตุผลที่มุ่งสร้างความยุติธรรมและระเบียบในสังคม เมื่อเทียบกับเหตุผลที่ท่านยกมา

เมื่อถามว่า ถ้าอุ๊งอิ๊งค์ไม่รอดแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ ผมเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องจับมือกันต่อไป เพื่อดันแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ขึ้นมา ซึ่งเชื่อว่าในฐานะพรรคใหญ่พรรคเพื่อไทยจะดันนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตคนสุดท้ายขึ้นมา ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมาบอกแล้วว่าพร้อม ผมไม่เชื่อนะว่า ทักษิณจะปล่อยให้แคนดิเดตจากพรรคร่วมคนอื่นที่อยู่ฝั่งเดียวกับตอนนี้ขึ้นมา

แล้วฝั่งพรรคฝ่ายค้านจะดัน อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นแข่งได้ไหม ก็ตอบตอบว่า แข่งได้นะ แต่จะมีเสียงสนับสนุนพอไหม ผมมองว่าไม่พอ เพราะเชื่อว่า ฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องจับมือกันเหนียวแน่น แม้ว่าพรรคประชาชนจะยกมือให้อนุทินก็ไม่พอ หรือถ้าอนุทินสามารถดึงเสียงจากฝั่งพรรคร่วมรัฐบาลมาได้บางส่วนและบวกด้วยเสียงพรรคประชาชนแล้วโหวตชนะ แต่ถ้าพรรคประชาชนไม่เข้าร่วมรัฐบาล รัฐบาลก็ไม่มีเสถียรภาพ และจะตกอยู่ใต้ความกดดันของพรรคประชาชน ดังนั้นสมการนี้ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ นอกจากอนุทินคิดแค่ว่าจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีซึ่งโง่มาก

ส่วนข้อเสนอของพรรคประชาชนที่ออกแถลงการณ์ข้อหนึ่งว่า พรรคประชาชนยืนยันเหมือนที่เคยยืนยันมาโดยตลอด ว่าเราจะทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นเพียงรัฐบาลชั่วคราวที่มีภารกิจในการเดินหน้าสู่การยุบสภา โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี

นี่เป็นเงื่อนไขที่ตลกมาก เหมือนกับพรรคประชาชนมองว่าการเมืองถึงทางตันแล้ว และข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นทางออกที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เหมือนกับพยายามจะบอกว่า ตอนนี้เกมอยู่ในมือของพรรคประชาชนซึ่งไม่ใช่ เพราะพรรคร่วมรัฐบาลยังมีไพ่ในมือให้เล่นอีกหลายใบ ไม่มีใครไปรับข้อเสนอของพรรคประชาชนแน่ ไม่ว่าฝั่งภูมิใจไทยหรือพรรคร่วมรัฐบาลในปัจจุบัน

แต่ถามว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากให้ยุบสภาตอนนี้ เพราะกลัวว่า พรรคประชาชนจะชนะเลือกตั้งนั้นใช่หรือไม่ คำตอบก็คือ ใช่ แต่ส่วนตัวผมไม่เชื่อว่า พรรคประชาชนจะชนะอย่างถล่มทลายถึงกับตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพราะถึงแม้ว่าพรรคประชาชนชนะเลือกตั้งเป็น
อันดับ1เหมือนครั้งที่แล้ว แต่ไม่ได้เสียงข้างมากพรรคเดียวก็จะไม่ได้เป็นรัฐบาลเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่านี่เป็นดีลที่ทักษิณถืออยู่ และพรรคประชาชนก็เป็นอันตรายต่อระบอบและอุดมการณ์ของรัฐ




เว้นเสียแต่ว่า ประชาชนทั้งประเทศหรือคนส่วนใหญ่ของประเทศเห็นพ้องกันว่า ถึงเวลาที่ต้องถ่ายเลือดใหม่ทางการเมือง แล้วเทคะแนนให้พรรคประชาชนชนะอย่างท่วมท้น ซึ่งจะต้องพร้อมยอมรับผลที่ตามมาว่า พรรคประชาชนจะนำพาประเทศไปทางไหน เป้าหมายที่พวกเขาจะทำประเทศไทยให้ไม่เหมือนเดิมนั้นเป็นอย่างไร ข้อเสนอเรียกร้องที่ท้าทายและการทลายเพดานเพื่อเรียกร้องให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะเกิดขึ้นไหม รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 ที่กระทบต่อรูปแบบของรัฐและสถานะของสถาบันกษัตริย์จะถูกแก้ไขไหม

ที่สำคัญคือ พวกเขาจะสามารถบริหารประเทศในสภาวะแบบนี้ได้ไหม ทั้งที่ส่วนใหญ่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน จะต่างกับอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานแล้วก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีไหม แล้วถึงวันนั้นประเทศไทยจะประสบชะตากรรมอย่างไร

ความจริงก็มีคนไม่น้อยนะครับว่า วิธีรับมือกับพรรคประชาชนที่ดีที่สุดคือ ให้พวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เพราะเราจะได้รู้ว่าพวกเขามีความรู้ความสามารถและสติปัญญาที่จะนำพาประเทศในสภาวะทางภูมิรัฐศาสตร์และสภาวะทางเศรษฐกิจในโลกปัจจุบันไหม แต่ถ้าไม่ปล่อยให้พวกเขาเข้ามาบริหารประเทศคนจำนวนไม่น้อยก็ยังคงฝากความหวังไว้กับพรรคนี้ ว่าเป็นพรรคการเมืองที่ดีที่ควรจะให้เข้ามาบริหารประเทศ แต่ก็มีคนบอกว่า จะคุ้มกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นไหม บางคนตอบว่าก็ต้องลองดูก่อนไม่ลองไม่รู้

ขณะที่มีคนบอกว่า อุ๊งอิ๊งค์เป็นนายกรัฐมนตรีก็มีคนที่มีประสบการณ์หลายคนเข้ามาประคับประคอง แต่หากพรรคประชาชนเป็นรัฐบาลพรรคเดียวเราก็อาจมีคนแบบอุ๊งอิ๊งค์เป็นทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเต็มไปหมด แล้ววันนั้นประเทศจะเป็นอย่างไร คนของพรรคประชาชนหลายคนมีความรู้ มีการศึกษาแต่พวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์อะไรจากการทำงานมาก่อนเลย แม้ว่าจะมีความมุ่งมั่นมีความคิดและมีหลักการในทางทฤษฎีจากที่ร่ำเรียนมาก็ตาม

แต่ถามว่ารัฐบาลชุดนี้มีความหวังหรือไม่ก็ไม่มีความหวังเช่นกัน เราเห็นแล้วว่า การแต่งตั้งรัฐมนตรีไม่ได้คำนึงถึงความรู้ความสามารถ ไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อจะกอบกู้คะแนนเสียงของรัฐบาล โดยเอาคนเก่งที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแต่เป็นโควต้าแบบครอบครัวเอาลูกมาเป็นแทนพ่อ เอาหลานมามาเป็น ใครมีส.ส.ในมือก็ได้เก้าอี้รัฐมนตรีไป รัฐมนตรีบางคนไม่รู้เก่งมาจากไหนสมัยเดียว2ปีได้นั่งรัฐมนตรีมา3กระทรวงแล้ว ก็แสดงว่าทักษิณไม่ได้ตั้งรัฐมนตรีเพื่อเรียกคะแนนนิยมคืนมา แต่ขอเพียงให้อำนาจยังอยู่ในมือ และเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นอย่างไรก็ค่อยไปว่ากัน

ถ้าถามว่าตอนนี้ใครถึงทางตันก็ต้องตอบว่า ประชาชนนั่นแหละ เพราะยังมองไม่ออกเลยว่าจะมีใครที่มีความรู้ความสามารถขึ้นมาบริหารประเทศชาติในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เพื่อนำพาประเทศไทยให้อยู่รอด มองไปทางไหนก็ไม่มีความหวัง จะฝากอนาคตไว้ในมือทักษิณหรือฝากอนาคตไว้กับคนรุ่นใหม่หรือมีทางเลือกใหม่ที่ดีกว่านี้ไหม ใครก็ได้ช่วยชี้ทางออกที

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan