xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“เนต้าไทย” ผิดปกติขั้นสุด กรรมการ “คนจีน” หายเรียบ ยอดขาย 4 เดือนลดฮวบ 37.3%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  ออกอาการ “ผิดปกติขั้นสุด” เสียแล้ว สำหรับ “บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด” เมื่อ “น.ส.สรินยา ศรีไทย” พนักงานตำแหน่ง Sale Operation Specialist ของบริษัท ได้เข้าแจ้งความโดยสน.ทองหล่อ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์อันไม่ธรรมดา 

ความ “ผิดปกติขั้นสุด” ที่ว่านั้น ก็คือการที่ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) เหลือกรรมการเพียงแค่  “คนเดียว” ซึ่งก็คือ นางสาวสรินยาผู้แจ้งความ ขณะที่กรรมการคนอื่นๆ ซึ่งเป็น  “คนจีน” ถอนชื่อออกจากบริษัทไปเป็นที่เรียบร้อย

“ผู้แจ้งเป็นพนักงานของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ในตำแหน่ง Sale Operation Specialist ต่อมาได้มีข้อตกลงให้ น.ส.สรินยา ศรีไทย ผู้แจ้ง เป็นกรรมการของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัดโดยผู้แจ้งได้ตกลงว่า ต้องมีกรรมการของบริษัทฯ จำนวน 2 คน แต่ต่อมาผู้แจ้งได้ตรวจสอบพบว่าหนังสือรับรองการจัดตั้งบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ปรากฏว่า มีชื่อ น.ส.สรินยา ศรีไทย (ผู้แจ้ง) เป็นกรรมการของบริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัดแต่เพียงผู้เดียว ผู้แจ้งจึงได้มาแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและเพื่อจะได้นำไปดำเนินการใน ส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป” เนื้อหาในใบแจ้งความของ สน.ทองหล่อระบุ

ทั้งนี้ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 232 ล้านบาท โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ NETA AUTO HK INVESTMENT LIMITED ซึ่งเป็นบริษัทจากฮ่องกง

จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ที่ผ่านมา บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด มีกรรมการเป็นชาวจีนมาตลอด แต่ก็ได้มีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการเช่นกั้น โดยการปรับครั้งแรกเกิดขั้นในเดือนกรกฎาคม ปี 2565 โดยมี “นายเปา จ้วงเฟย และนายหวัง เฉิงเจีย” เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการใหม่ ขณะที่  “นายฝาง หยุนโจว”  ได้ออกจากตำแหน่ง จากนั้นในปี 2566 บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม จาก 110 ล้านบาท เป็น 210 ล้านบาท

วันที่ 28 สิงหาคม 2566 บริษัทได้แจ้งเปลี่ยนประเภทธุรกิจและวัตถุประสงค์จากเดิมที่เป็นการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับการขายรถยนต์ มาเป็น “การขายยานยนต์ใหม่ชนิดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ รถตู้ และรถขนาดเล็กที่คล้ายกัน” 

ต่อมาในปี 2567 บริษัทมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการอีกครั้งในเดือนเมษายน โดย  “นายชู กังจื้อ”  เข้ามาดำรงตำแหน่ง แทนที่นายเปา จ้วงเฟย ที่ออกจากตำแหน่ง พร้อมๆ กับเพิ่มทุนจดทะเบียนอีกครั้งจาก 210 ล้านบาท เป็น 232 ล้านบาท
จากนั้นในปี 2568 บริษัทยังคงมีการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม   “นายซูน เปาหลง”  ได้เข้ามาแทนที่นายชู กังจื้อ และล่าสุดในเดือนพฤษภาคม  “นางสาวสรินยา ศรีไทย”  ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งกรรมการ แทนที่นายซูน เปาหลง ที่ออกจากตำแหน่ง

นาย ซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด อดีตกรรมการชาวจีนที่ลาออกจนเหลือกรรมคนเดียวคือ นางสาวสรินยา ศรีไทย

ศูนย์กระจายอะไหล่ (Spare Parts Distribution Center) แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ อยู่บนถนนเพชรเกษม
นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบ  “โครงสร้างผู้ถือหุ้น”   ในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ก็แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมโยงกับกลุ่มบริษัทจีนอย่างชัดเจน โดยมีผู้ถือหุ้นหลักคือ  NETA AUTO HK INVESTMENT LIMITED  สัญชาติฮ่องกง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยถือหุ้นร้อยละ 100.00 จำนวน 23,199,998 หุ้น ซึ่งแสดงให้เห็นการควบคุมบริษัทแบบเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ยังมีผู้ถือหุ้นรองอีก 2 ราย ได้แก่  HOZON AUTO MSS CO., LTD. และ ZHONGLIAN TIANXIA TONGXIANG NEW ENERGY VEHICLE SERVICES CO., LTD.  ซึ่งทั้งคู่เป็นบริษัทสัญชาติจีน แต่ละรายถือหุ้นเพียง 1 หุ้นเท่านั้น

 ด้วยเหตุที่ผู้ถือหุ้นล้วนแล้วแต่เป็นชาวจีน แต่กลับมี “กรรมการบริษัท” เป็น “คนไทย” แถมยังมีเพียง 1 เดียว จึงนับเป็นความผิดปกติในการดำเนินธุรกิจที่ไม่อาจมองข้ามได้ และก็ไม่แปลกใจว่า ทำไมนางสาวสรินยาถึงจำต้องแจ้งความเอาไว้ เพราะหวั่นเกรงว่า จะมีปัญหาเกิดในอนาคต 

กระนั้นก็ดี ต้องบอกว่า ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับเนต้า แม้ก่อนหน้านี้ นาย ซูน เปาหลง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นอดีตกรรมการชาวจีนได้พยายามออกมาชี้แจงโดยยืนยันว่า ทางบริษัทไม่ได้ล้มละลาย และยังคงมีแผนการในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยต่อ ผ่านมาตรการเชิงบวกต่าง ๆ เช่น การปรับโครงสร้างองค์กร การลงนามในข้อตกลงแลกหนี้เป็นทุนกับซัพพลายเออร์ การร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับลูกค้ารายสำคัญ และการส่งเสริมการจัดหาเงินทุนใหม่อย่างแข็งขัน

นอกจากนั้น ยังเตรียมเปิด  “New Spare Parts Distribution Center” หรือศูนย์กระจายอะไหล่แห่งใหม่  ที่สามารถรองรับการจัดเก็บอะไหล่มากกว่า 120,000 ชิ้น และพร้อมให้บริการตั้งแต่กลางพฤษภาคม เป็นต้นไป โดยได้มีการแต่งตั้ง Hong Kong Solar Technology Co., Ltd. เป็นพันธมิตรหลักในการจัดหาอะไหล่ป้อนให้กับประเทศไทย

ทั้งนี้ ศูนย์กระจายอะไหล่ (Spare Parts Distribution Center) แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ อยู่บนถนนเพชรเกษม ด้วยพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการจัดเก็บ และกระจายอะไหล่รถยนต์ไฟฟ้า NETA ไปยังผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในกลางเดือนพฤษภาคม 2568 โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง ** “บริษัท นครชัยศรี ออโตโมบิล จำกัด”   เป็นผู้ดูแลการบริหารจัดการศูนย์แห่งนี้อย่างเป็นทางการ

จากนั้นทางเนต้าฯ ก็ให้ปล่อยภาพอะไหล่จากจีนที่ลำเลียงเข้าสู่ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ อันแสดงให้เห็นว่า พร้อมจะให้ลูกค้าตรียมนำรถเข้าซ่อมได้แล้ว

แต่สถานการณ์จริงกลับดำเนินไปในทิศทางตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นบริษัทแม่ที่ประเทศจีน ซึ่งมีคำยืนยันว่า มีความพยายามที่จะปกปิดปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด หรือการทยอยปิดสาขาในต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่ธุรกิจดำเนินไปอย่างลุ่มๆ ดอนๆ

ข้อมูลล่าสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 ระบุว่า ยอดขายรถเนต้าในจีนตกต่ำอย่างหนัก โดยลดลงมากกว่า 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้เนต้าแทบไม่เหลือที่ยืนในตลาดที่กำลังแข่งขันดุเดือด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผู้เล่นรายใหญ่เช่น BYD, Aion, Tesla และหน้าใหม่มาแรงอย่าง Xiaomi Auto

ที่ต้องขีดเส้นใต้ก็คือ ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าตัวแทนจำหน่ายกว่า 20 ราย จากเครือข่ายกว่า 300 แห่ง ได้รวมตัวประท้วงหน้าประตูโรงงาน การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ลงของเนต้าซึ่งเคยเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งด้านรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

 รวมทั้งมีรายงานด้วยว่า Hozon Auto บริษัทแม่ของ NETA ที่ประเทศจีน มีการค้างจ่าย Supplier หลักถึง 134 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านหยวน (ราว 9,400 ล้านบาท) และทางด้าน Shanghai Yuxing Advertising มีการยื่นคำร้องต่อศาล Intermediate People’s Court of Jiaxing City ลงวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 โดยขอให้ศาลพิจารณาว่า บริษัทลูกหนี้ (Hozon Auto) เข้าข่ายที่จะเข้าสู่กระบวนกา ล้มละลายหรือไม่ หรือไม่อาจมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ชัดเจนได้ 

ขณะที่ใน  สิงคโปร์  สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บริษัท “เนต้า”ได้ “ปิดโชว์รูม” แห่งแรกและแห่งเดียวลงอย่างเงียบๆ ในเวลาเพียงไม่ถึง 3 เดือน หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 2 รุ่นคือ NETA X และ NETA AYA ในงานสิงคโปร์ มอเตอร์ โชว์ 2025

รายงานระบุว่า เนต้าได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้า 52 คันในช่วงเปิดตัว อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการการขนส่งทางบกของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีรถยนต์ของเนต้าที่จดทะเบียนแล้วเพียง 4 คันเท่านั้น

หรือในไทยเอง ในปี 2565 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการดำเนินงาน บริษัทสามารถสร้างรายได้รวม 1,466 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 80.7 ล้านบาท พร้อมกับมีสินทรัพย์รวม 1,801 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นก็ประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง

รายงานงบการเงินล่าสุด ณ สิ้นปี 2566 บริษัทมีกำไร (ขาดทุน) สะสมติดลบ 1,882 ล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นลบ 1,672 ล้านบาท

ส่วน 11 เดือนแรกของปี 2567 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่น ได้แก่ Neta V, Neta VII และ Neta X มีจำนวน 6,534 คัน หรือลดลง 45.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ยอดขาย 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.68) ทำได้ 1,067 คัน ลดลง 37.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ที่สำคัญคือมีรายงานว่า โรงงานบางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี นิคมอุตสาหกรรมบางชัน จ.กรุงเทพ ที่รับหน้าที่ประกอบรถยนต์ไฟฟ้ให้กับทางเนต้า กำลังเตรียมปลดพนักงาน 400 คน ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะสอดคล้องกับยอดขายของ บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ลดลง

และแน่นอนว่า การปลดพนักงานครั้งนี้เป็นสัญญาณชัดเจนของการปรับลดการผลิตเนื่องจากความต้องการซื้อที่ลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่มั่นใจในแบรนด์เนต้า

ขณะที่บรรดา  “ดีลเลอร์”  หรือผู้แทนจำหน่ายของเนต้า เองก็ส่งผ่านข้อมูลออกมาในทำนองว่า ที่ผ่านมา บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด จ่าย intensive ดีลเลอร์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แทนเงินสด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาสภาพคล่องที่ส่งผลกระทบต่อเครือข่ายการจำหน่าย

ที่หนักไปกว่านั้นคือ มีรายงานด้วยว่า “สำนักงานใหญ่ของเนต้า” ที่ตั้งอยู่ ณตึก RSU Tower สุขุมวิท จะหมดสัญญาเช่าในเดือนมิถุนายน 2568 นี้ และยังไม่ได้รับการต่อสัญญาแต่อย่างใด

และสุดท้ายก็คือ การที่นางสาวสรินยา กรรมการชาวไทยที่เหลือเพียง 1 เดียวตัดสินใจเข้าแจ้งความด้วยผิดไปจากสิ่งที่เคยตกลงกันไว้ โดยเกรงว่าจะเกิดปัญหากับตนเองในอนาคต

อย่างไรก็ตาม หลังจากปล่อยให้สถานการณ์อึมครึมพักใหญ่ เนต้าไทยฯ ก็ได้ออกแถลงการณ์ถึง “ความผิดปกติขั้นสุด” ในทุกประเด็น

เริ่มจากกรณีที่เหลือกรรมการชาวไทยเพียงคนเดียว เป็นเพราะบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการใหม่ โดยมีผู้แทนจากสำนักงานใหญ่ในประเทศจีนเข้าร่วมเป็นกรรมการใน บริษัท NETA Thailand โดยคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน 2568

ภาพบรรยากาศบางส่วนขณะดำเนินการลำเลียงอะไหล่รถยนต์ NETA เข้าสู่ศูนย์กระจายอะไหล่แห่งใหม่ของ NETA ประเทศไทย (NETA Spare Parts Distribution Center) ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม โดยทางเนต้านแจ้งว่าจะมีการทยอยนำเข้าอะไหล่เพิ่มเติม ทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดส่งไปยังศูนย์บริการทั่วประเทศ


 ด้านผู้บริหารชาวจีนคือ  “นายซูน เปาหลง”  ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการ NETA Thailand ได้รับมอบหมายให้ดูแลการดำเนินธุรกิจในตลาดไทยเป็นหลัก ปัจจุบันได้รับมอบหมายบทบาทใหม่ในการดูตลาด Southeast Asia ซึ่งครอบคลุมหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ส่วนเรื่อง  “นางสาวสรินยา ศรีไทย”  บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการถอดชื่อออกจากหนังสือรับรอง บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จำกัด

สำหรับสำนักงานที่ตึก RSU Tower สุขุมวิทนั้น บริษัทฯ ได้ดำเนินการต่อสัญญาเช่าพื้นที่สำนักงานกับอาคาร RSU Tower ตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา

แถลงการณ์ระบุด้วยว่า เนต้ายังคงเดินหน้าดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และพร้อมพัฒนาในเรื่องบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าชาวไทยได้รับประสบการณ์ที่ดีจากเนต้า

ทั้งนี้ แม้จะมีคำยืนยันหนักแน่น แต่เมื่อเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “เนต้า” แล้วต้องบอกว่า น่าเป็นห่วงแทนคนที่ตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าของค่ายนี้ไปใช้จริงๆ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงปัญหาความไม่โปร่งใสในโครงสร้างบริหาร และความไม่มั่นคงของธุรกิจที่ “ผิดปกติขั้นสุด” ไม่เช่นนั้น กรรมการบริษัทที่เหลือเพียง 1 เดียวคงไม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น