ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ร้อนแรงขึ้นตามลำดับกับกระแสคัดค้านเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโน และพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย คล้ายกับว่ารัฐบาลเพื่อไทยตั้งเรื่องให้ฝ่ายค้านกระซวกในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในแบบแนวร่วมมุมกลับไปเสียอย่างนั้น
แม้ศึกอภิปรายในสภาฯจะไม่ทำให้รัฐบาลเพื่อไทยสั่นสะเทือน แต่การดึงดันจะเอากาสิโนและพนันออนไลน์ มามอมเมาและดูดเงินคนไทยด้วยกันเอง ประชาชนคนไทยคงไม่ปลื้มกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงพรรคภูมิใจไทย ที่ตอนแรกๆ ทำทีคัดค้านไม่เอากาสิโน แต่ไปๆ มาๆ ตอนนี้อ้าแขนยินดีต้อนรับ
แถม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังไป “แพคคู่” กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์ฯ ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย รักษาการกฎหมายคู่กัน จากตอนแรกที่กระทรวงการคลัง ให้อำนาจนายกรัฐมนตรี รักษาการกฎหมายเพียงคนเดียว
“สปิริตการอยู่ร่วมกัน ก็ต้องร่วมกันรับผิดชอบ มีอะไรก็ร่วมกันแบ่งเบาภาระ เพราะนายกฯมีภาระอื่นมากมาย จะรู้เรื่องรายละเอียดกฎหมายแต่ละฉบับได้อย่างไร นี่ถือเป็นบทพิสูจน์ว่าเราทำงานด้วยกันด้วยความห่วงใย ความร่วมมือและการสนับสนุน” นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ในทำนองเอาดีใส่ตัว แต่อีกนัยหนึ่งนี่คือชัยชนะในการต่อรองขอร่วมแบ่งปันน้ำแกงกับพรรคเพื่อไทย
ร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ที่มีการกำหนดเงื่อนไข รายละเอียดเยอะแยะ แต่ประเด็นสำคัญสุดที่เป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในเวลานี้คือ เงื่อนไขการอนุญาตให้เข้าเล่นกาสิโน ผู้ที่จะเข้าเล่นได้ต้องมีคุณสมบัติเช่นใด ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องนี้คณะกรรมการกฤษฎีกา มีความห่วงใยตั้งแต่ร่างแรกที่รัฐบาลส่งมาให้กฤษฎีกาพิจารณาแล้ว
การกำหนดคุณสมบัติผู้เข้าเล่น จะตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการมีเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโนว่า ทำไปเพื่ออะไร ดังที่กฤษฎีกา ตั้งคำถามเอาไว้คราวก่อนว่า จะทำเพื่อแก้ไขปัญหาการเล่นพนันผิดกฎหมาย โดยเอาขึ้นมาบนดินให้ถูกกฎหมายเพื่อให้ควบคุมได้ หรือจะทำเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ สร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ เพราะจะเกี่ยวพันไปถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่จะต้องกำหนดไว้ในร่างกฎหมาย
ย้อนไปเมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2568 คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร เพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ไปปรับปรุงร่างให้เสร็จภายใน 50 วัน โดยร่างที่กฤษฎีกา ปรับปรุงและเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน ตั้งแต่ 15 ก.พ. 2568 ประเด็นหนึ่งที่กฤษฎีกาแก้ไขในร่างคือ การเพิ่มเงื่อนไข 50 ล้านบาท โดยกำหนดว่า คนไทยที่จะเข้าเล่นกาสิโนได้ ต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ต่อเนื่อง 6 เดือน
เงื่อนไขดังกล่าวเปรียบเสมือนการสกรีนผู้เข้าเล่นคล้ายเปิดรับเฉพาะผู้เล่นชาวต่างชาติ และไม่เปิดรับผู้เล่นคนไทย เพราะจำนวนคนไทยที่ผ่านเงื่อนไข 50 ล้านบาท กระทรวงการคลัง แจ้งว่ามีทั้งหมดอยู่เพียงแค่ 10,000 บัญชีเท่านั้น
ประเด็นนี้ ทำให้กระทรวงการคลัง เจ้าของเรื่องไม่แฮปปี้ โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการคลัง ออกมาระบุว่า เงื่อนไขเงินฝาก 50 ล้านบาท ติดต่อกัน 6 เดือน จะกีดกันคนไทยกว่า 70 ล้านคนออกจากระบบ ต้องกลับสู่การพนันผิดกฎหมายเช่นเดิม ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลวางไว้สองมิติ คือ การต้องการแก้ไขการพนันผิดกฎหมาย และสร้างตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ หากมีเงื่อนไข 50 ล้านบาท จะมีผู้ผ่านเงื่อนไขเข้าเล่นได้ไม่มาก และผู้เล่นส่วนใหญ่จะหันไปเล่นพนันใต้ดิน หรือเล่นตามแนวชายแดนเหมือนเดิม
นายจุลพันธ์ ยังระบุในช่วงเช้าของวันที่ 3 มี.ค. 2568 ว่า ร่างกฎหมายที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เสนอกลับมา ได้ปรับเงื่อนไขเบื้องต้น โดยใช้เกณฑ์การชำระภาษีย้อนหลัง 3 ปี แทนเรื่องการกำหนดวงเงินจะทำให้ได้ผู้เล่นเพิ่มขึ้นอยู่ในจุดที่เหมาะสม ในชั้นนี้เงื่อนไขวงเงิน 50 ล้านบาท ไม่มีแล้ว ส่วนเกณฑ์ค่าธรรมเนียมการเข้าเล่น 5,000 บาท ยังคงไว้ แต่พอตกเย็น นายจุลพันธ์ กลับให้สัมภาษณ์ว่า ทางกระทรวงการคลัง จะไม่ตัดเงื่อนไข 50 ล้านออก ในร่างที่จะเสนอกลับไปยังครม.
ทั้งนี้ ร่างที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ส่งมายังสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) นั้น ปรากฏว่ายังมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้เล่นกาสิโนว่าต้องมีเงินฝากในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งปรากฏอยู่ในมาตรา 65
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวว่า ร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีเรื่องการกำหนดเงินในบัญชีขั้นต่ำ 50 ล้านบาท ของผู้ที่จะเข้าเล่น หากร่างนี้เข้ามาที่ประชุม ครม. แล้วพอไปตัดออกก็จะแย้งต่อกฤษฎีกา จึงอาจจะให้มีการศึกษาอีกครั้งหนึ่ง ให้สภาฯ รับหลักการแล้วตั้งคณะกรรมาธิการ แล้วแปรญัตติกันไป เป็นกฎหมายของสภาในที่สุด
ส่วนร่างกฎหมายดังกล่าวจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ในวันที่ 11 มี.ค. 2568 หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และร่าง พ.ร.บ.การพนันออนไลน์ รอเข้าครม.อยู่
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ชวนสังคมจับตาการกลับไปกลับมาของ “เงื่อนไข 50 ล้านบาท” ของรัฐบาล ว่าในที่สุดแล้ว ครม.จะตัดหรือไม่ตัดออกจากร่าง ครม.เห็นชอบ และส่งมาที่สภาผู้แทนราษฎร หากยังคงเงื่อนไขดังกล่าวไว้ ก็เท่ากับว่าข้ออ้างของรัฐบาลที่ว่ากาสิโนมีไว้เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป และเมื่อเหตุผลนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไป แล้วรัฐบาลจะยังเดินหน้าต่อเรื่องกาสิโน เพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ?
หากรัฐบาลอ้างว่า กาสิโนมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ตัวเลขในรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ใช้ในการคาดการณ์รายได้จากกาสิโน (หน้า 78-79) อยู่บนสมมุติฐานว่ารายได้จากผู้เล่นคนไทย จะสูงถึง 77% ของรายได้จากผู้เล่นทั้งหมด
เวลานี้ สังคมจึงตั้งคำถามว่า แท้ที่จริงแล้วกาสิโนที่รัฐบาลกำลังผลักดันสุดลิ่มทิ่มประตู เพื่อดูดเงินคนไทยด้วยกันเองใช่หรือไม่
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ แสดงความเป็นห่วงในเรื่องที่รัฐบาลจะเอาให้ได้เรื่องกาสิโน ซึ่งกฤษฎีการ่างให้คนไทยที่จะเข้ากาสิโนได้ต้องมีเงินฝากประจำ 50 ล้านบาท ถึงจะเข้าบ่อนได้ ข่าวว่าคลังจะเสนอลดให้เหลือจ่ายภาษีย้อนหลัง 3 ปี ก็จะสามารถเข้าบ่อนได้ถามว่าคนที่เสียภาษีสม่ำเสมอคือมนุษย์เงินเดือน เราจะเอากันอย่างนี้หรือ ผีพนันเต็มบ้านเต็มเมือง ไหนว่าจะดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไหงเลี้ยวมาดึงคนไทยให้เข้าบ่อน หาก ครม.อนุมัติตามนี้ รัฐบาลอาจล้มได้
ทางด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ท้าทายรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า ถ้านำบ่อนกาสิโนและการพนันออนไลน์เข้า ครม.วันไหน จะแลกหมัดไล่รัฐบาลวันนั้น และจะได้วัดใจกันว่า ถึงที่สุดแล้วคนไทยคิดอย่างไรกับบ่อนกาสิโน อีกทั้งย้ำว่า บ่อนกาสิโนจะเป็นจุดเริ่มของจุดแตกหักในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง เจ้าของ ผู้ครอบครอง รัฐบาล ครม. หรือนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย
นายจตุพร เห็นว่า ถ้าตั้งบ่อนกาสิโนและพนันออนไลน์ในไทย เท่ากับทำให้ไทยเป็น “ชเวก๊กโกสอง” กลายเป็นแหล่งฟอกเงินระดับโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวจะแห่มาเที่ยวไทยหรือไม่ เพราะนักท่องเที่ยวมาไทยเพื่อมาชมและสัมผัสธรรมชาติสวยงาม วัฒนธรรม สังคม ซึ่งไม่ได้มาเล่นพนันและเข้าบ่อนกาสิโน
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของม็อบต้านกาสิโน นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้นัดหารือใหญ่วันที่ 9 มี.ค. 2568 ร่วมกับเครือข่าย ทั้ง คปท. ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม อดีตแนวร่วมพันธมิตร แนวร่วม กปปส. นักวิชาการ นักธุรกิจ อดีตนายทหาร พร้อมหารือ หยุดวิกฤตประเทศไทย เตรียมรองเท้าผ้าใบ ขยับใหญ่ร่วมกันในการต่อต้านกาสิโน
นายพิชิตชี้ว่า กาสิโนจะเกิดหรือรัฐบาลจะดับ ถึงขนาดต้องปรับลดเงื่อนไขเพื่อต้อนคนไทยให้ติดการพนัน มาถึงจุดแตกหักกับรัฐบาล Gen Y วอด แล้ว วัดใจกัน แลกกันคนละหมัด เราจะปล่อยให้กาสิโนเกิดหรือเราจะคุมกำเนิด โดย คปท. บุกกระทรวงคลัง เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2568 ทวงคำตอบให้ประชาชนจากนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ความเคลื่อนไหวก่อนหน้า เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2568 คปท. พร้อมด้วย ศปปส. และกลุ่มเครือข่ายกองทัพธรรม นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล และ นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดีร่วม ชุมนุมเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาลให้รัฐบาล หยุดการเดินหน้าเรื่องการพนันออนไลน์ และบ่อนกาสิโน เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ โดยนำมวลชนเดินเท้าเข้ายื่น 112,498 รายชื่อ เพื่อหยุดกาสิโนและพนันออนไลน์ ต่อ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ผ่านนายสมคิด เชื้อคง เลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
ขณะที่กระแสสังคมพุ่งเป้าไปที่เรื่องกาสิโนเป็นหลัก เรื่องใหญ่ที่อาจเป็นเป้าจริงของรัฐบาลนั่นคือ เรื่อง การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ล่าสุด นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้กฎหมายระดับรองเพื่อให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมายว่า เรื่องของพนันออนไลน์มี 2 ส่วน คือ 1.อยู่กับร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นสัดส่วนกาสิโน 10% และ 2.ความเห็นของกระทรวงดีอี ในการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ ที่จะมีการทำกฎหมายระดับรอง
ทั้งนี้ หลังจากที่กระทรวงมหาดไทย ได้เสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.การพนันเข้าสู่ที่ประชุม ครม.แล้ว ตอนนี้กระทรวงดีอี กำลังประชุมทำความเห็น ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะออกเป็นพระราชกฤษฎีกา หรือประกาศกฎกระทรวง ต้องฟังความเห็นประชาชนและข้อกฎหมายประกอบ และต้องส่งให้ทางคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาให้ความเห็น
ท่าทีของรัฐบาลทั้งเรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์พ่วงกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย เห็นชัดเจนว่าเอาแน่ ๆ แต่เรื่องนี้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ต้องออกแรงฝ่าอีกหลายด่าน ทั้งแรงต้านในสภาฯ ที่ฝ่ายค้านพร้อมลุยทุกเมื่อ ไม่นับความขัดแย้งคุกรุ่นในพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงแรงต้านจากภาคประชาชนที่ไม่เห็นด้วย โดยขึ้นม็อบหน้าทำเนียบรัฐบาล และพร้อมปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ
ทั้งหลายทั้งปวงล้วนแล้วเป็นเงื่อนไขที่ทำให้กาสิโนและการพนันออนไลน์ มีโอกาสไปไม่ถึงฝั่ง แต่ถ้าหากดันทุรังเอาจนได้ไม่แคร์สังคม ก็ต้องดูว่าคะแนนนิยมของเพื่อไทยและภูมิใจไทย จะลดน้อยถอยลงหรือไม่