xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เบื้องลึก “บิ๊กโจ๊ก” เกาะกระแส “แตงโม” ไม่ใช่แค่ “หิวแสง” แต่หวังต่อรองเคลียร์คดี?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ถึงกับต้องร้องโอ้โหกันเลยทีเดียวสำหรับการที่ “บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล” อยู่ๆ ก็มาร่วมผสมโรงในคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์” อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หลังก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏว่าให้ความสนใจแต่ประการใด

“ผมเป็นตำรวจคนแรกที่รู้ว่าแตงโมตกน้ำ เพราะผู้จัดการดาราคนดัง(เอ-ศุภชัย) โทรมาบอกภรรยา ซึ่งส่วนตัวไม่เชื่อว่าแตงโมเสียชีวิตจากการปัสสาวะท้ายเรือ และเชื่อว่าถูกทำให้เสียชีวิต เพราะมีพิรุธหลายอย่าง เช่น ยังไม่รู้เลยว่า เสียชีวิตที่จุดไหน ไม่เชื่อว่าแผลเกิดขึ้นจากใบพัดท้ายเรือ คดีนี้รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้นถึงกับเอ่ยปากว่า เฮ้ย โจ๊ก คดีนี้มันทะแม่ง ๆ อย่าไปยุ่งดีกว่า”พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ว่าไว้บางช่วงบางตอนในการไปออกสื่อ

แต่ความจริงก็ต้องบอกว่า ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะมองแล้วเป้าหมายมีแค่ 2 ปัจจัย

ปัจจัยแรก สังคมมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า “หิวแสง” ซึ่งก็ได้ผลเพราะแสงฉายเจิดจ้าไปที่ “บิ๊กโจ๊ก” ทันทีเลยว่า ทำไมถึงเพิ่งมาพูดในเวลานี้ ทั้งๆ ที่ก็รับรู้ถึงความผิดปกติมาตั้งแต่ต้นในขณะที่ตัวเองมีอำนาจอยู่ในตำแหน่ง “ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ”

ต่างจากตอนนี้ที่กล้าออกมาชี้จุดพิรุธต่างๆ ออกมาเป็นฉากๆ ซึ่งถ้าจะว่าไปก็เป็นข้อพิรุธที่ตรงกับ “ทีมงานภาคประชาชน” ซึ่งนำโดย “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เป๊ะ

และปัจจัยที่สองก็คือ มีเป้าประสงค์เพื่อต้องการดิสเครดิต “บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประหนึ่งว่า สตช.ภายใต้การนำทัพของ “บิ๊กต่าย” ไม่ได้สนใจในคดีของแตงโมที่กำลังแสวงหาความจริงกันในขณะนี้ โดยมีผลพวงมาจากการที่ “บิ๊กต่าย” มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง “บิ๊กโจ๊ก” ซึ่งขณะนี้กำลังรอขั้นตอนตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนที่จะมีบทสรุปที่ชัดเจนออกมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

นอกจากนี้ ยังอาจจะมีความเกี่ยวพันกับ “ข้อมูลบางประการ” ที่ทำให้ “บิ๊กโจ๊ก” ตาเป็นประกาย เพราะบังเกิดความหวังว่า จะสามารถใช้เป็นเครื่องมือต่อรองในคดีความของตัวเองได้ หรือไม่ อย่างไร

ดังที่เขาให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า “คดีนี้รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้นถึงกับเอ่ยปากว่า คดีนี้มันทะแม่ง ๆ อย่าไปยุ่งดีกว่า”

และ “ข้อมูลบางประการ” ที่ว่านี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการที่อยู่ๆ “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ตัดสินใจ “กลับลำ” โดยเดินหน้าเป็นหัวหน้าเป็น “หัวหอก” เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ โดยอ้างว่าได้รับ “ข้อมูลใหม่” ว่า ถูกสกัดไม่ให้เป็น ผบ.ตร. สวนทางจากก่อนหน้านี้ที่เปิดหน้าท้ารบกับ “บิ๊กโจ๊ก” อย่างดุเดือดเลือดพล่าน จนสังคมเกิดความสงสัยว่า “อิหยังวะ”

“ระบบกระบวนการการทำงานของตำรวจในบ้านเรามีแต่สีเทา ไม่มีทำงานเพื่อประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ. นี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผมจะคืนความเป็นธรรมให้กับบิ๊กโจ๊ก ด้วยการไปร้อง และนำความจริงที่ตนได้เข้าใจ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ผิดมา เนื่องจากว่าตนได้ฟังข้อความเพียงด้านเดียว จึงจะต้องไปคืนความเป็นธรรมให้กับบิ๊กโจ๊ก และนำความจริงที่ตนได้รับข้อมูลมาอีกด้านหนึ่ง เพื่อเอามาชนกับบิ๊กโจ๊ก จึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วมีขบวนการกลั่นแกล้ง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เป็นขบวนการในการสกัดกั้นไม่ให้เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และก็ไม่ให้เติบโตในตำแหน่งหน้าที่ราชการ โดยเฉพาะมีการดูแลกรรมการที่ตัดสินคดีบิ๊กโจ๊ก ด้วยความสนิทสนมกับตำรวจชุดที่มีการล้มบิ๊กโจ๊ก

“ผมเองก็ต้องขอโทษในสิ่งที่ผมเข้าใจผิดบิ๊กโจ๊กตลอดมา ดังนั้นผมจะคืนความเป็นธรรมให้กับบิ๊กโจ๊ก จากการถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นานา โดยจะนำหลักฐานไปยื่นต่อ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งผมได้มีการติดต่อประสานหลายครั้งแล้ว แต่ไม่รับโทรศัพท์ ดังนั้นวันจันทร์นี้ ผมจะไปยื่นที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ผมเป็นพยานปากสำคัญที่จะคืนความเป็นธรรมให้กับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล”อัจริยะชี้แจงเหตุผลเอาไว้ในวันที่กลับลำไปช่วยเหลือบิ๊กโจ๊ก

เป็นเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่า คนอย่างนายอัจฉริยะที่คลุกคลีและรู้เส้นสนกลในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาอย่างยาวนานจะเพิ่งจะถึง “บางอ้อ” เอาตอนนี้

ดังนั้น สังคมจึงไม่ปักใจเชื่อสิ่งที่นายอัจฉริยะอธิบาย พร้อมทั้งแสวงหาคำตอบว่า อะไรคือเหตุผลที่แท้จริงกันแน่ และทำไมนายอัจฉริยะถึงแปรพักตร์จาก “นายเก่า” ซึ่งเป็น “อดีตบิ๊กตำรวจ” ที่ยืนอยู่ตรงกันข้ามกับ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” และหันไปสยบยอมต่อ “นายใหม่” ได้

เหตุผลที่เป็นไปได้มากที่สุดก็คือเรื่อง “คดีความ” ส่วนอีกเหตุผลคงพอจะคาดเดากันได้ว่ามาจากอะไร

ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่า “อัจฉริยะ” นั้น มีคดีความกับ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” มาก่อนหน้านี้ และเมื่อสืบสวนทวนความถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการไปช่วย “บิ๊กโจ๊ก” คงไม่มีอะไรไปมากกว่าต้องการยุติคดีความร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกใจอะไร เพราะเคยมีพฤติกรรมกลับไปกลับมาทำนองนี้กับ “พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์” ให้เห็นบ่อยครั้ง

นอกจากนั้น หากยังจำกันในช่วงที่จะเกิดเรื่องเกิดราวกับ “ทนายตั้ม-ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ในคดีฉ้อโกง “พี่อ้อย-น.ส.จตุพร อุบลเลิศ” ไม่นานนัก ก็เคยปรากฏภาพนายอัจฉริยะไปจับมือสยบความขัดแย้งกับทนายตั้มมาแล้ว

วิญญูชนทั่วไปรับรู้ดีว่า “ทนายตั้ม” นั้นมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จะเรียกว่าเป็น “เด็กในบ้านบิ๊กโจ๊ก” เลยก็คงจะไม่เกินเลยไปจากความเป็นจริง ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจอะไรถ้านายอัจฉริยะจะหันกลับไปช่วย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์

ส่วน “ข้อมูลบางประการ” เกี่ยวกับเบื้องหลังการเสียชีวิตของแตงโม ที่ว่าไว้ข้างต้น ความจริงถ้าใครที่ติดตามการเคลื่อนไหวของนายอัจฉริยะมาอย่างต่อเนื่องก็จะพบว่า นายอัจฉริยะเคยเคลียร์เรื่องดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่งว่า “ผู้ใหญ่คนที่ว่าไม่เกี่ยวข้องประการใด”

ดังนั้น ถ้าสุดท้ายแล้วจะมีการเปิดข้อมูลดังกล่าวออกมาจากปาก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์มากไปกว่าที่ปรากฏอยู่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินจากการคาดหมายแต่ประการใด

นอกจากนี้ การกลับลำไปยืนเคียงข้าง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ของนายอัจฉริยะยังมีคำถามถึง “ทีมบ้านพระอาทิตย์” ว่า ไปคืนดีกับ “บิ๊กโจ๊ก” แล้วหรืออย่างไร เพราะก่อนหน้านี้ “บิ๊กโจ๊ก” ได้ถอนฟ้องคดีความต่างๆ กับ “สนธิ ลิ้มทองกุล” ไปเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน

ในเรื่องนี้ “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต” หัวหอกคนสำคัญในการรื้อคดีแตงโม อธิบายเอาไว้ว่า 1.บ้านพระอาทิตย์ ไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับการเคลื่อนไหวคดีแตงโมของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ที่เพิ่งจะออกมาเคลื่อนไหวคดีแตงโมในเวลานี้ นอกจากนั้นการตรวจสอบพฤติการณ์และคดีความต่างๆของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ของสื่อในเครือบ้านพระอาทิตย์ยังคงเป็นปกติเหมือนเดิมทุกประการ

2.พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบัน ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับปัญหาใดๆในคดีแตงโมในอดีต และได้พ้นอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้ว อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ในขณะที่อีกด้านหนึ่งก็อยู่ระหว่างการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อเอื้อประโยชน์ผู้ใดหรือไม่ และมีการกระทำความผิดตามบัญชีแนบท้ายความผิดคดีพิเศษหรือไม่

แต่เนื่องจากในปัจจุบันสังคมและประชาชนจำนวนมากมีความไม่เชื่อมั่นต่อการดำเนินการสืบสวนสอบสวนในคดีนี้ จึงขอเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแสดงความจริงใจเป็นเจ้าภาพด้วยตัวเองเพื่อตั้งคณะกรรมการในการศึกษาแสวงหาความจริง ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงรวบรวมความเห็นของทุกภาคส่วนของประชาชนและผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปฏิรูปหรือแก้ไขเพื่อปรับปรุงการสืบสวน สอบสวนให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นและมีความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พัฒนาและก้าวหน้าขึ้นต่อไป

...ดังนั้น ถึงตรงนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า หลัง “บิ๊กโจ๊ก” การละคร EP1 และ EP2 คือการปล่อยข่าวว่า ป.ป.ช.จะตัดจบคดีเว็บพนันออนไลน์มินนี่โดยไม่โยงใยมาถึงตนเอง และการปล่อยคลิปการพบปะกันระหว่าง “นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา” ประธานรัฐสภา และ “นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข” ประธาน ป.ป.ช.ที่ “แห้วไปแล้ว” กระทั่งมาถึง EP3 คือการมาจับ “คดีแตงโม” ซึ่งหวังผลไปที่ “ข้อมูลบางการ” อันเกี่ยวข้องกับ “ผู้ใหญ่” จะทำให้อะไรๆ ที่เขาหวังไว้บรรลุผลหรือไม่

โดยเฉพาะ “เรื่องร้อน” ที่ใกล้จะมีบทสรุปในเร็ววันนี้ นั่นคือ “ผลสอบของคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงบิ๊กโจ๊กกับพวกรวม 5 คนที่พัวพันเว็บพนันออนไลน์” ที่ “บิ๊กหวาน” พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เป็นประธาน ซึ่งมีบทสรุปออกมาแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ด้วยผลสามารถออกมาได้ 3 แนวทางคือ

หนึ่ง - หากไม่ผิดวินัย การทำงานของคณะกรรมการสอบฯ ก็จบ “บิ๊ก โจ๊ก” พร้อมพวกสามารถกลับเข้ารับราชการได้

สอง - หากผิดวินัยร้ายแรง จะถูกลงโทษอาทิ กักยาม ภาคทัณณ์ สามารถกลับเข้ารับราชการได้

และสาม - หากผิดวินัยร้ายแรง โทษถึงปลดออกหรือไล่ออก

ทว่า มีการคาดหมายกันล่วงหน้าว่า หวยจะออกแค่ 2 หน้าคือ “ปลดออก” กับ “ไล่ออก” เท่านั้น ในขณะที่ “บิ๊กโจ๊ก” สามารถอุทธรณ์คำสั่ง ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้ หาก ก.พ.ค.ตร.ยืนตามคณะกรรมการวินัย “บิ๊กโจ๊ก” ยังสามารถใช้สิทธิ์ฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป ซึ่งหากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุดก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจ

“บิ๊กโจ๊กการละคร EP3” ไม่อาจกระพริบตาได้เลยจริงๆ.


กำลังโหลดความคิดเห็น