ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ไม่มีปัญหาหรือซุกปัญหาไว้ใต้พรมต่อไปกันแน่ กรณีชาวอิสราเอลที่เข้ามาท่องเที่ยวและอยู่อาศัยใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน แล้วเกิดปัญหากับคนในพื้นที่ มีปัญหาสารพัดสารพัน จนกระทั่งมีการติดป้ายข้อความ “No Israel here!” ไม่ต้อนรับชาวอิสราเอล
“ตรวจสอบแล้วไม่จริง”
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ตอบแบบตัดบทเมื่อถูกตั้งคำถามเรื่องชาวอิสราเอลเข้ามาอยู่ในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ที่กำลังเป็นดรามาในโลกโซเซียลเวลานี้ ทั้งที่สภาพจริงมีชาวยิวเข้ามาลงหลักปักฐานสร้างบ้านสร้างชุมชน สร้างโบสถ์ ตั้งนอมินีทำธุรกิจ และเวลานี้สมาคมยิว Chabad ที่แผ่อิทธิพลทั่วโลก ยังออกประกาศเชิญชวนชาวยิวย้ายมาตั้งถิ่นฐานที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ด้วยว่ามีความสงบสุขและสวยงามกว่าอิสราเอลอีกด้วย
ทั้งนี้ หากจะแยกแยะประเด็นที่เป็นปัญหาหลักในความขัดแย้งระหว่าง “ชาวปาย” กับ “ชาวยิว” อันดับแรกสุด คือพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวยิวที่ออกแนวกร่าง ไม่สนใจกฎระเบียบ ถัดมาคือ การตั้งนอมินีทำธุรกิจ แย่งงาน แย่งลูกค้า ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ และสุดท้ายที่เป็นดรามาในเวลานี้คือ กระแสชาวยิวอพยพมา “ยึดปาย” ซึ่งออกจะเกินจริงไปไม่น้อย
แฉพฤติกรรมสุดระอา สุดเหนียว ไร้คุณภาพ
พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลที่เป็นปัญหาจนเป็นที่เอือมระอา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งของ สภ.ปาย สะท้อนภาพ อาทิ ไม่เคารพกฎหมาย ขนบธรรมเนียม และวัฒนธรรม ไม่เคารพสิทธิของผู้อื่น ไม่มีมารยาทในการใช้ชีวิตร่วมกับผู้คนในสังคม ไม่สนใจผลกระทบต่อคนรอบข้าง ไม่เคารพสถานที่และเจ้าของพื้นที่ รวมทั้งก่อปัญหามากมาย เช่น เมาเละเทะ ทำลายข้าวของผู้อื่น ทะเลาะวิวาท ลักขโมย บุกรุกสถานที่ อุบัติเหตุบนท้องถนน ฯลฯ
หากอธิบายให้เห็นภาพ เช่น ขับขี่รถจักรยานยนต์ (เช่า) ด้วยความเร็ว รวมกลุ่มกันหลายคัน ฝ่าไฟแดง ขับชิดซ้ายปาดเลี้ยวขวากะทันหัน ไม่เปิดไฟเลี้ยว อยากจอดกลางถนน กลางแยก กีดขวางทางจราจรก็จอด เกิดเฉี่ยวชน เพิ่มคดีให้ตำรวจ เพิ่มงานให้หมอ พยาบาล หากทำรถจักรยานยนต์ (เช่า) เสียหาย ไม่ยอมชดใช้ค่าเสียหาย
แต่งกายไม่เหมาะสม ไม่เคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น เดินถนนไม่ใส่เสื้อ ผู้หญิงใส่แค่บิกินี่หรือชุดฟิตเนส ร่อนทั่วเมือง ตักเตือนไปก็ไม่ใส่ใจ อ้างว่าอากาศร้อนเกินทน
นอกจากนั้น ยังสูบบุหรี่ สูบกัญชาในทุก ๆ ที่ ในร้านอาหาร วัด สถานพยาบาล บนทางถนนสาธารณะที่มีผู้คนพลุกพล่าน หรือแม้แต่ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่สนใจป้ายห้ามสูบ ไม่ใส่ใจว่ารอบข้างจะมีเด็ก ผู้สูงวัย หรือผู้ป่วย แต่อย่างใด
การใช้บริการที่พัก จะกุเรื่องห้องพักไม่สะอาด ไม่สะดวกสบาย มีสัตว์ มีแมลงบ้าง สรุปขอเงินคืน ขอลดราคา ขอเปลี่ยนห้องแต่ต้องฟรี ไม่งั้นจะรีวิวให้เสียหาย ทำทรัพย์สินของที่พักสกปรก เสียหาย แต่ไม่ยอมชดใช้ อ้างว่ามันพังอยู่แล้ว
ส่วนการใช้บริการร้านอาหารเป็นกลุ่ม เช่น ไปกัน 5-6 คน แต่สั่งอาหารแค่จานเดียว กินเสร็จยังนั่งแช่นาน ทำให้ทางร้านขาดโอกาสสร้างรายได้ เสียโอกาสจะรับลูกค้ารายใหม่ คิดง่าย ๆ โดยทั่วไปมา 5 คน สั่ง 5 จาน อย่างน้อยร้านต้องได้ 300 บาท ต่อเวลาประมาณ 30 นาที แต่เมื่อ 5 คน สั่ง 1 จาน ร้านขายได้ 60 บาท แถมเสียเวลารับลูกค้าใหม่ไปเป็นชั่วโมง อีกเรื่องที่เกิดเป็นประจำก็คือ อิ่มฟรี กินเสร็จ (แอบ)ลุกหนีออกจากร้านไปเลย
ผับ บาร์ ร้านไหนมีโต๊ะสนุ้กเกอร์ โต๊ะพูล โต๊ะปิงปอง ก็ยกพวกแห่กันเข้าไปเป็น 10 คน จองเล่นหน้าตาเฉย ไม่สั่งอะไรเลยก็มี บางทีสั่งเครื่องดื่มขวดเดียว คนอื่นหมดสิทธิ์เล่น ถ้าจะเล่นก็ต่อคิวยาว ๆ ไป
ยังมียกพวกกันเข้าไปใช้บริการในโรงแรม เข้าไปใช้สระ ใช้เครื่องออกกำลังกาย สูบบุหรี่ สูบกัญชา พกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากภายนอกไปดื่ม ปาร์ตี้ฉ่ำๆ ส่งเสียงดัง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่ใช่ลูกค้าของโรงแรม ไม่เว้นแม้แต่สวนในบริเวณบ้านของชาวบ้านท้องถิ่น
เมื่อ ดื่ม กิน ปาร์ตี้ เมาเละ แล้วก็เยี่ยว ขี้เรี่ยราดตามข้างทาง ตามท้องถนนไปเรื่อย ไม่เว้นแม้แต่หน้าบ้านคน ไปจนถึงทำลายทรัพย์สิน สิ่งของตามทางเรื่อยไป เมามาก ๆ ก็ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับทุกชนชาติ รวมทั้งพวกเดียวกัน
ยังมีการลักขโมย แม้แต่สิ่งของเล็กน้อยไปจนถึงของมีค่า แค่ขนมห่อ โค้กกระป๋อง ก็ยังเอา ในสวนสาธารณะถ้าได้อยู่รวมกลุ่มกันก็ทั้งสูบกัญชา ดื่มแอลกอฮอล์ พูดคุยเสียงดัง ไร้ความเกรงใจผู้คนรอบข้างและทิ้งขยะไว้ให้ดูต่างหน้า ฯลฯ สาธยายไม่หมด
พวกที่ก่อปัญหาส่วนใหญ่คือ พวกที่มาในสไตล์นักท่องเที่ยว ที่มาแล้วก็ไป ส่วนมากเป็นวัยรุ่นปลดทหาร มีเงินจากรัฐบาลอิสราเอลให้มา ก็ตรงดิ่งมาไทยตามรีวิวพวกรุ่นพี่ ๆ ที่เคยมาก่อน ก็เที่ยวไปเรื่อยทั่วไทย และหมุดสุดท้ายก็มาปาย เมืองอากาศดี ค่าครองชีพต่ำ ความเป็นวัยรุ่นจึงคึกคะนอง ว่ากล่าวตักเตือนก็ไม่ฟัง ไม่สน
พฤติกรรมต่าง ๆ กล่าวมานั้น คือเรื่องจริงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ปาย ได้ไประงับเหตุมาจริง บางเหตุไประงับเหตุ บางเหตุได้จับกุมดำเนินคดี
นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เพจ “หมอบ่น AggressiveDoctor” ยังแชร์เรื่องของหมอประจำโรงพยาบาล อ.ปาย ที่เล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ จากคนไข้ชาวอิสราเอลที่เข้ามารักษาแล้วด่าทอบุคลากรทางการแพทย์ ทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาล และทุกครั้งที่ประสบอุบัติเหตุบนท้องถนนมักจะไม่มีใบขับขี่
ตามภาพและแคปชั่น “เพลียกับพวก ห..นี่ #เมืองปายไม่น่าอยู่แล้ว” มีข้อความที่หมอบอกเล่า ว่า อำเภอปาย จังหวัดชายแดนที่มีฝรั่งอิสราเอลมาอาศัยอยู่เยอะมาก ทุกวันที่ได้ตรวจจะเจอปัญหาซ้ำ ๆ อาทิ ชี้หน้าด่าหมอ, โชว์นิ้วกลางใส่หมอ, สูบบุหรี่ในโรงพยาบาล, ไม่จ่ายเงิน, ทุบประตูอีอาร์... เคยส่งเรื่องไปยังอำเภอ แต่ได้รับแจ้งกลับมาว่าอย่าทำลายการท่องเที่ยว เหนื่อยมาก ๆ กับการคุยกับคนไข้อิสราเอล รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ... สุดท้ายคงไม่พ้นได้ลาออก
หลังกลายเป็นเรื่องโด่งดัง ชาวอิสราเอลที่เข้าไปประพฤติผิดในโรงพยาบาลปาย ก็ถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายและถูกเนรเทศออกไป
นอกจากนี้ ทางเพจได้เผยคลิปภาพเหตุการณ์ที่ชาวอิสราเอล 2 คน หญิงและชาย สูบกัญชาภายในพื้นที่ของโรงพยาบาล และถูกเจ้าหน้าที่ตักเตือนอีกด้วย
ตั้งนอมินีทำธุรกิจ แย่งงาน แย่งอาชีพ
ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเก่าแก่ของอำเภอปาย ต่างให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าตั้งแต่นักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้ามาในพื้นที่ นับวันยิ่งก่อปัญหาให้กับคนในพื้นที่หรือผู้ประกอบการรายเดิมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการกินการอยู่ ท่องเที่ยว ชาวยิวจะไปไหนมาไหนแบบไม่สนใจใคร แค่เช่าจักรยานยนต์คันเดียวก็ไปได้ทั่วแบบไม่ต้องมีไกด์นำเที่ยว กลายเป็นกลุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้กับผู้ประกอบการและผู้คนในพื้นที่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะหลัง ชาวยิวเริ่มเข้ามาแย่งงานคนในท้องถิ่น ทั้งจับกลุ่มนำเที่ยวเอง ลักลอบทำงานในสถานบันเทิง เล่นดนตรี และให้คนไทยเป็นนอมินีกว้านซื้อรีสอร์ท หรือที่ดินที่มีประกาศขาย แล้วลงทุนและทำตลาดเองทั้งหมด เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบก็ไม่พบความผิด เพราะใช้นอมินีบังหน้า ขณะที่คนในพื้นที่ต่างทราบกันดี
มีรายงานว่า ชาวยิวเปิดธุรกิจหลายอย่างเพื่อรองรับสังคมขยายของชาวยิว เช่น ร้านอาหาร รีสอร์ท ร้านตัดผม ฯลฯ สารพัดอาชีพสงวนของชาวไทย โดยชาวยิวลงทะเบียนใน อ.ปาย มีประมาณ 31,735 คน เข้า ๆ ออก ๆ แต่ตั้งถิ่นฐานอยู่ยาวประมาณ 3,000 คน
ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ใน อ.ปาย เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ผกก.สภ.ปาย และที่ว่าการอำเภอปาย ขอให้มีการตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดกรณีชาวต่างชาติลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ต่อมาเมื่อกลางเดือน ก.พ. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีฝรั่งทั้งยิว-ไอริช-บราซิล จำนวน 4 คน ที่เล่นดนตรีในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน ต.เวียงใต้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
กรณีการตั้งนอมินีถือครองที่ดินและทำธุรกิจในหัวเมืองเมืองท่องเที่ยวหลักของไทยของชาวต่างชาติ นับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานมนาน นับตั้งแต่เมืองพัทยา เรื่อยไปจนถึงภูเก็ต เชียงใหม่ แทบจะเรียกได้ว่าเมืองไทยเป็นสวรรค์ของต่างชาติ โดยชาวต่างชาติจะแต่งงานกับคนไทย เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นนอมินี หรือตัวแทนบังหน้าชาวต่างชาติที่เป็นผู้ลงทุนตัวจริงและขนเงินกลับประเทศ
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยถึงแผนการตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินีในปี 2568 ว่า กรมมีเป้าหมายตรวจสอบนิติบุคคลจำนวน 26,830 ราย ซึ่งจะเน้นในธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง โดยพุ่งเป้าในทุกจังหวัดที่ได้รับการร้องเรียนจากภาคธุรกิจหรือมีข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันไม่ให้คนต่างด้าวมาแอบอ้างใช้คนไทยเป็นนอมินี และทำธุรกิจที่สงวนไว้ให้กับคนไทย
ผวาผุดดินแดนพันธสัญญา “ปายเลสไตน์ แม่ฮ่องสอน”
สำหรับประเด็นที่ชาวปายกังขาและโลกโซเซียลขยายความกันไปใหญ่โตในเวลานี้คือ การตั้ง ชาบัด หรือ โบสถ์ยิว บริเวณ ถ.รังสิยานนท์ ซอย 2 หมู่ 4 ต.เวียงใต้ อ.ปาย ด้านหลัง สภ.ปาย รั้วสูง 3 เมตร ภายในมีอาคารสิ่งก่อสร้าง 2 หลัง ประกอบด้วย บ้านสองชั้นแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ ดัดแปลงและต่อเติมเป็นพื้นที่ สำหรับทำกิจกรรมและประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และบ้านปูนชั้นเดียวสำหรับทำกิจกรรม โดยบริเวณลานตรงกลางยังมีเต็นท์ผ้าใบสีขาวแบบปิดทึบขนาดใหญ่สำหรับจัดเลี้ยง
เดิมมีการใช้ Chabad เป็นสถานที่พบปะทำกิจกรรมทางศาสนาของชาวอิสราเอลในพื้นที่ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลาประมาณ 19.00-22.00 น. ซึ่งปกติจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 80-150 คน แต่ถ้ามีเทศกาลหรือห้วงที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก อาจมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 400-700 คน แต่ห้วงที่เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งอิสราเอล-ฮามาส ได้หยุดการจัดกิจกรรมไป กระทั่งสถานการณ์คลี่คลายลงจึงกลับมาจัดอีกครั้ง โดยมีการจ้าง รปภ.และขอกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบด้วย
การตั้ง Chabad และเว็บไซต์ของสมาคมยิว Chabad เชิญชวนชาวอิสราเอลเข้ามาอาศัยที่อ.ปาย ทำให้เกิดกระแสว่ามีชาวยิวทะลักเข้ามาเป็นจำนวนมาก ขณะที่มีรายงานว่า ชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ประจำที่ อ.ปาย มีประมาณ 10 ครอบครัว ส่วนใหญ่อยู่อาศัยกระจายตัวไม่ห่างจากชาบัดเฮาส์ โดยมีครอบครัว “ราไบ” (ผู้ดำเนินพิธีกรรมทางศาสนายิว) เป็นผู้นำชุมชน
ภาพที่ชาวบ้านพบเห็นว่ามีตำรวจเข้าไปทำหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อย เป็นการทำตามหน้าที่ที่ทางสถานทูตอิสราเอล ร้องขอมาอย่างเป็นทางการ ในเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้กับพลเมืองชาวยิว
ชาวยิวทะลักเข้ามายังปายเป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหน มีคำตอบจาก นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ว่าประชากรของ อ.ปาย มีประมาณ 38,000 คน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวสหราชอาณาจักร เข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง รองลงไปเป็นอิสราเอล เข้ามาเดือนละ 2,000 – 3,000 คน เป็นการเข้ามาแล้วกลับไป
ตำรวจท่องเที่ยวแม่ฮ่องสอน ให้ข้อมูลกรณีปรากฏข่าวทางโซเชียล เรื่องชาวอิสราเอล เดินทางเข้ามาในพื้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จำนวนมาก เพื่อตั้งถิ่นฐานและลงหลักปักฐานเป็นดินแดนพันธะสัญญา รวมถึงตั้ง Chabad รวมกลุ่ม สร้างความเดือดร้อนกับประชาชน และแย่งอาชีพคนไทย ฯลฯ นั้น ว่า ยอดนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล ที่แจ้งเข้าพัก 30,000 คน เป็นยอดสะสมทั้งปี
ส่วนชาบัด หรือโบสถ์ยิว ใน อ.ปาย ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธี ในวันศุกร์และเสาร์ เนื้อที่ประมาณ 2 งาน และใช้เป็นที่รับประทานอาหาร ความจุประมาณ 200 คน โดยโบสถ์ยิว มีจำนวน 7 แห่ง เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย พัทยา พะงัน ที่ใหญ่สุดอยู่ใน กทม.
อย่างไรก็ดี กระแสข่าวที่ครึกโครม ทำให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบ
“สถานการณ์ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด ...ไม่มีหรอกที่จะมามีอิทธิพลได้ ดูอย่างที่ภูเก็ต ช่วงต่างชาติที่พยายามจะมามีอิทธิพล พวกนี้แค่รู้จักเจ้าที่บ้านเมือง เขาคิดว่าตัวเองใหญ่ไปซะแล้ว ก็ต้องจัดการให้หมด ต้องทำมาหากินด้วยความสุจริต...” นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) สั่งการเข้มให้เร่งตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ ส่วนที่ อ.ปาย ผบ.ตร.สั่งให้ตรวจสอบและรายงานผลภายใน 7 วัน
พันเอกหญิงนุชระวี แจ่มจำรัส รอง โฆษก กอ.รมน. กล่าวถึงการตรวจสอบชาบัดว่ามีการขออนุญาตการก่อสร้างถูกต้อง เป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวอิสราเอล เริ่มตั้งแต่เช้าวันศุกร์ไปจนถึงค่ำของวันเสาร์ มีการสวดมนต์ รับประทานอาหาร ซึ่งในการสวดมนต์จะมีการเล่นกีตาร์คลอไปด้วย ไม่ได้เป็นแหล่งมั่วสุมหรือจัดปาร์ตี้ตามที่มีการกล่าวถึง
ส่วนประเด็นในการตั้งดินแดนพันธะสัญญาในการตั้งถิ่นฐานใน อ.ปาย ส่วนงานความมั่นคงได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่มีสิ่งบอกเหตุ เพราะนักท่องเที่ยวอยู่กระจัดกระจายและไม่ได้มีตัวเลขที่สูงมากอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่ว่าจะอย่างไร เรื่องนี้ ต้องตรวจสอบให้ถ้วนถี่ มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยให้ท้ายหรือไม่ การบังคับใช้กฎหมายจริงจังมากน้อยแค่ไหน อย่าปล่อยให้ยิวกร่างทำภาพลักษณ์เมืองปายเสียหายไปมากกว่านี้
