xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ใต้เงาจีน ภาค 2 (23) ดูหนังเกี่ยวกับเหมาเจ๋อตง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล

ดังที่ผมได้บอกไปแล้วว่า หลังจากที่มีการประสานงานระหว่างฝ่ายจีนกับฝ่ายไทยลงตัวไปแล้วนั้น พวกเราก็ไม่ได้เดินทางไปส่งหญิงจีนหรือไปเยี่ยมหญิงจีนที่ถูกล่อลวงมาค้าประเวณีที่ไทยอีกเลย ถ้าจะมีก็มีด้วยธุระอื่นที่เกี่ยวเนื่องด้วยสตรีและเด็ก ทำให้การติดต่อไปมาหาสู่ของทั้งสองฝ่ายยังคงมีอยู่เป็นระยะ ส่วนผมก็ยังคงไปบ้างในบางครั้งในฐานะล่ามจำเป็น

แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมเคยเล่าไปตั้งแต่ตอนต้นๆ ก็คือ ช่วงปี 1991-1992 (2534-2535) ที่ผมได้ไปด้วยเรื่องหญิงจีนนั้น ผมสังเกตเห็นว่า  โรงหนังหลายโรงในจีนที่ผมได้ผ่านไปมาในเมืองต่างๆ มักจะขึ้นคัทเอาท์หรือโปสเตอร์หนังที่เกี่ยวกับเหมาเจ๋อตง อดีตผู้นำจีนคนแรกในยุคคอมมิวนิสต์กันแทบทุกโรง 

ตอนที่เห็นก็คิดในใจว่า จีนยังคงรักษาความเป็นคอมมิวนิสต์เอาไว้ ถึงแม้ยุคปฏิรูปจะนำพาจีนไปสู่เศรษฐกิจเสรีนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

แต่พอเห็นมากๆ เข้าก็ชักสงสัย จึงได้ถามเจ้าหน้าที่จีนที่ดูแลพวกเราว่า ทำไมจึงมีแต่หนังเกี่ยวกับเหมาแทบทุกเมืองก็ได้รับคำตอบว่า  ทางการจีนกำลังอยู่ในช่วงรณรงค์วาระหนึ่งร้อยปีชาตกาลของเหมาเจ๋อตง ซึ่งจะมีมาถึงในปี 1993 

พอได้ยินเช่นนั้นผมก็ถึงบางอ้อ ทำให้นึกขึ้นได้ว่า เหมาเกิดในปี 1893 พอปี 1993 ก็ครบร้อยปีพอดี และด้วยคุณูปการของเหมา ทางการจีนจึงเตรียมการรณรงค์ในวาระนี้ตั้งแต่เนิ่นๆ จะเรียกว่าตั้งแต่ไก่โห่ก็ว่าได้ การรณรงค์นี้มีด้วยกันหลายด้านจากทุกๆ ฝ่าย และหนังอันเกี่ยวกับชีวิตและงานของเหมาก็เป็นหนึ่งในการรณรงค์นั้น

กล่าวเฉพาะหนังแล้วจะมีอยู่สองกลุ่ม กลุ่มหนึ่ง เป็นหนังที่สร้างมานานและเคยฉายมาแล้ว หนังในกลุ่มนี้จะถูกนำกลับมาฉายใหม่ อีกกลุ่มหนึ่ง เป็นหนังที่สร้างขึ้นในวาระนี้โดยเฉพาะ พูดอีกอย่างก็คือเป็นหนังใหม่ หนังในกลุ่มนี้จะว่าด้วยเรื่องราวและบทบาทของเหมาในแง่มุมและวัยต่างๆ ว่าในแต่ละช่วงวัยของเหมานั้น บทบาทของเหมาดำเนินไปอย่างไรบ้าง

ด้วยเหตุนี้ ถ้าเป็นช่วงวัยหนุ่มอายุ 20 เศษๆ คนที่แสดงเป็นเหมาก็จะหาคนที่อยู่ในวัยหนุ่มมาแสดง ว่ากันเฉพาะวัยนั้นๆ ก็จบไปแล้วหนึ่งเรื่อง เพราะฉะนั้น หนังเกี่ยวกับเหมาจึงสามารถสร้างได้เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะหมดมุกที่จะสร้าง ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ผมยังเห็นซีรี่ส์จีนที่มีเรื่องเกี่ยวกับเหมายังคงถูกสร้างออกมาอยู่เสมอ

 แต่ที่ผมทึ่งก็คือ แทบทุกเรื่องทุกช่วงวัยของเหมา เขาจะหาตัวแสดงที่หน้าตาเหมือนเหมาอย่างกะแกะมาแสดง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังกำหนดให้ตัวแสดงต้องพูดภาษาจีนสำเนียงท้องถิ่นมณฑลหูหนันที่เป็นบ้านเกิดของเหมาอีกด้วย พูดอีกอย่างคือ ต้องพูดเหน่อแบบคนบ้านนอก ซึ่งตลอดชีวิตของเหมาก็พูดจีนกลางเหน่อโดยตลอด จะมียกเว้นก็แต่ปัจจุบันที่เขาสร้างให้เหมาพูดจีนกลางป๋อ คงเพราะเอาความสะดวกเข้าว่า 

ส่วนเหมาจะพูดเหน่ออย่างไร ผมขอยกเอาคำทักทาย  “สวัสดี” ของคนจีนมาเป็นตัวอย่าง นั่นคือคำว่า  หนี่เหมินเห่า ที่แปลว่า สวัสดีท่านทั้งหลาย คำคำนี้เหมาจะพูดว่า  นี่เมินเฮ่า  เป็นต้น

ผมเคยเอาคำทักทายแบบเหน่อๆ ของเหมาไปกล่าวอำทักทายกับเพื่อนคนจีนที่สนิทกัน ปรากฏว่าเพื่อนขำกลิ้ง ที่ขำก็เพราะเห็นว่าผมเป็นคนไทยแล้วมาออกเสียงเหน่อแบบเหมาได้อย่างไร ผมก็เล่าว่า มีเพื่อนคนจีนอีกคนสอนให้พูด

เมื่อหนังตั้งมาตรฐานไว้สูงเช่นนี้แล้วก็ย่อมหมายความด้วยว่า ตัวแสดงตัวอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นโจวเอินไหล (อดีตนายกรัฐมนตรี) เติ้งเสี่ยวผิง (ผู้นำจีนยุคปฏิรูป) จูเต๋อ (อดีตประธานสภาผู้แทนประชาชนจีน) ฯลฯ ก็ต้องหาคนหน้าเหมือนและต้องฝึกพูดเหน่อตามภาษาถิ่นเดิมของผู้นำคนนั้นๆ ไปด้วย แต่ถ้าผู้นำท่านใดที่พูดจีนกลางไม่เหน่ออยู่แล้ว ตัวแสดงก็จะพูดจีนกลางแบบนั้นไปด้วย ไม่ต้องฝึกให้เหนื่อย
ส่วนเรื่องการหาตัวแสดงหน้าเหมือนนั้น เพื่อนคนจีนบอกผมว่า จีนมีประชากรเป็นพันล้านคนแล้วจะหาคนหน้าเหมือนไม่ได้ก็ให้มันรู้ไป

ความจริงก็คือว่า เขาหาได้จริงๆ และหาได้มากกว่าหนึ่งคน พอได้มาแล้วก็เข้าสู่กระบวนการคัดตัวแสดงให้เหลือหนึ่งคน อย่างคนที่แสดงเป็นเหมานั้นพอได้มาแล้วก็ต้องแต่งหน้าเพิ่มเติมเพื่อให้เหมือนตัวจริงที่สุด จากนั้นก็ให้ฝึกพูดเหน่อแบบเหมา รวมตลอดจนท่าเดิน ท่านั่ง ท่าไขว่ห้าง ท่าสูบและคีบบุหรี่ ท่าจับพู่กันจีน ท่าเขียนหนังสือ ท่าอ่านหนังสือ ฯลฯ
เรียกได้ว่า ละเอียดเป๊ะทุกกระเบียดนิ้ว ว่างั้นเถอะ

 อย่างคนที่แสดงเป็นเหมานั้นมีชื่อว่า กู่เยี่ว์ย (古月, ไม่ทราบปีเกิด เสียชีวิตเมื่อปี 2005) พอได้แสดงเรื่องนี้ก็แจ้งเกิดทันที หลังจากนั้นก็มีงานอีเว้นท์หลายงานเชิญไปโชว์ตัวยังเมืองต่างๆ ในประเทศจีน การโชว์แต่ละครั้งเขาจะพูดและทำท่าทางแบบเหมาดังที่เขาแสดงในหนัง ซึ่งสร้างความฮือฮาให้คนดูอย่างมาก ว่ากันว่า การโชว์ตัวแต่ละงานใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที แต่กลับได้ค่าตัวที่สูงจนรวยขึ้นมา 
จนกู่เยี่ว์ยก็ถูกวิจารณ์ในเชิงเปรียบเทียบว่า ประธานเหมาตัวจริงยังไม่รวยเท่าเขา ส่วนตัวเขาที่แสดงเป็นเหมาตัวปลอมกลับรวยเอาๆ โดยอาศัยบุคลิกท่าทางของเหมาในแบบผู้นำชนชั้นกรรมาชีพ แต่กลับมีฐานะกลายเป็นชนชั้นกระฎุมพีไป ซึ่งเป็นชนชั้นที่เป็นปฏิปักษ์กับระบอบคอมมิวนิสต์ในยุคเหมาอีกต่างหาก
ผมไม่รู้ว่า เรื่องราวของกู่เยี่ว์ยจบลงยังไง รู้แต่เพียงว่า พอกระแสการโชว์ตัวของเขาซาลงไปแล้วเรื่องของเขาก็หายเงียบไป
ส่วนผมซึ่งชอบดูหนังเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็สบช่องเมื่อได้ดูหนังเกี่ยวกับเหมาจนได้ ผมได้ดูที่สิบสองปันนาในปลายปี 1992 (2535) แล้วในวันรุ่งขึ้นรถที่ผมนั่งก็ไปชนเข้ากับรถบรรทุกจนกล้องวีดีโอพังไปด้วย แต่ตอนที่ได้ดูนั้นผมได้เอากล้องวิดีโอเข้าไปในโรงหนังด้วย

ระหว่างที่ดูผมเปิดกล้องวิดีโอโดยตลอด พอมีฉากเหมาปรากฏขึ้น ผมก็บันทึกภาพลงในกล้องโดยคิดเพียงว่าจะนำกลับไปเปิดให้พรรคพวกที่เมืองไทยได้ดู ว่าจีนนี่เขาเก่งที่สามารถหาคนหน้าเหมือนเหมามาแสดงหนังจนได้ ตอนนั้นผมยังไม่ได้ประสีประสาเรื่องลิขสิทธิ์ทางปัญญาอะไรกับเขา

จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ ผู้จัดการโรงหนังก็เรียกผมไปคุยพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ ผมก็อธิบายให้เขาฟังว่า ผมเป็นคนไทยที่มาปฏิบัติงานที่จีนโดยเป็นแขกของทาง ตม.จีนแล้วว่า ที่ถ่ายไปก็เพราะทึ่งที่ตัวละครหน้าเหมือนเหมา ที่สำคัญ ผมไม่ได้ถ่ายทั้งเรื่อง จะถ่ายเฉพาะตอนที่เหมาปรากฏตัวเท่านั้น

ตอนที่ฟังผมพูดภาษาจีนนั้น ผู้จัดการโรงหนังคงรู้แล้วว่าผมไม่ใช่คนจีน และขอดูพาสปอร์ตของผมเพื่อให้แน่ใจ พอผมยื่นให้ดูเขาก็เข้าใจ เสียงที่ดุดันก็เบาลง และขอให้ผมอย่าได้ถ่ายอีก ไม่งั้นเขาเองก็จะมีความผิดไปด้วย ผมก็ทำตามแต่โดยดี ซึ่งว่าที่จริงแล้วภาพที่ผมถ่ายไปก็พอที่จะเอาไปอวดแล้ว ดีที่เขาไม่ได้ให้ผมลบภาพไปด้วย

อีกนานนับปีต่อมาผมจึงรู้ว่า หนังที่ผมได้ดูนั้นมีด้วยกันสามภาค แต่ละภาคยาวราวสามชั่วโมงบวก-ลบ และสร้างโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพื่อเฉลิมฉลองวาระร้อยปีชาตกาลเหมาเจ๋อตงโดยตรง ลงว่าพรรคลงทุนสร้างเองแล้ว ที่จะให้ด้อยคุณภาพนั้นเป็นอันตัดทิ้งไปได้ ไม่งั้นเสียฟอร์มพรรคแน่

 หนังเรื่องนี้คือ ต้าเจี๋ว์ยจั้น (大決戰, Decisive Engagement) แปลว่า สงครามชี้ขาด 


กำลังโหลดความคิดเห็น