ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การผ่านร่าง พ.ร.บ.ท่าเรือฯ ฉบับใหม่ ถูกจับตาเพื่อรองรับการเดินหน้าลุย “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” ของรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร เต็มสูบ สอดประสานกับวาทะของ “พ่อนายกฯ” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ลั่นวาจาจะเนรมิต “ลาสเวกัส ไทยแลนด์” มาแรงทรงนี้ต้องดูว่ากระแสต้านจะดังพอที่จะดับฝัน “พ่อ-ลูกชินวัตร” หรือไม่
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา อยู่ตรงที่เปิดช่องให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ลงทุนหรือเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัด, จัดตั้งบริษัท, เช่าหรือพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามความจำเป็น
ดังนั้น หากร่างกฎหมาย กทท. ผ่านขั้นตอนของสภาฯ และประกาศใช้ การพัฒนาพื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ หรือ ท่าเรือคลองเตย ให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดย กทท. เป็นผู้ลงทุนหรือเข้าร่วมลงทุนด้วย ก็คงไม่มีปัญหา
นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ก็เคยบอกว่า หากรัฐบาลมีนโยบายพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ก็สามารถดำเนินการได้
ร่างกฎหมาย กทท.ใหม่ นับเป็นการทลายข้อจำกัดเดิมในการใช้พื้นที่ท่าเรือคลองเตย ซึ่งตาม พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 ระบุว่าพื้นที่นี้เวนคืนมาเพื่อดำเนินการและสร้างความเจริญในกิจการท่าเรือ และเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน ซึ่งต้องใช้ประโยชน์เพื่อการดำเนินกิจการท่าเรือและโลจิสติกส์
หมายความว่า พื้นที่ที่เวนคืนมาตาม พ.ร.บ. กทท. 2494 ทำได้เพียงท่าเรือและโลจิสติกส์เท่านั้น หากจะนำพื้นที่ไปพัฒนาทำอย่างอื่นก็ต้องแก้กฎหมายเสียก่อน
อันที่จริง กทท. มีแผนพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ โดยมีการศึกษาจะยกระดับท่าเรือและชุมชนโดยรอบ ผ่านแผนพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) บนพื้นที่ 2,353 ไร่ ลักษณะโครงการเป็นแบบผสมผสาน (Mixed Use) โดยจะพัฒนาที่อยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย เป็นอาคารแนวสูง ดำเนินโครงการเขตปลอดอากร (Bangkok Port Free Zone) เพิ่มพื้นที่กิจกรรมเชิงพาณิชย์ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การประชุม และพื้นที่ขายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) เป็นต้น
โครงการพัฒนาท่าเรืออัจฉริยะของ กทท. จึงดูเหมือนจะรองรับศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีกาสิโนเสียบเข้าไปตามที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ต้องการผลักดันให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุดพอดิบพอดี
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎหมาย กทท. ยังมีการปรับแก้ตำแหน่ง “ผู้อำนวยการ” ให้เป็น “ผู้ว่าการ” และกำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาการตาม พ.ร.บ.นี้ จากเดิมที่คมนาคมรักษาการร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เนื่องจาก กทท.อยู่ใต้สังกัดคมนาคม ส่วนคลังให้กำกับ กทท.ผ่านกลไกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ
นอกจากนั้น ยังแก้ไขขยายวัตถุประสงค์ของ กทท.ให้ดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวกับหรือเกี่ยวเนื่องในการประกอบกิจการท่าเรือเพื่อประโยชน์แก่ กทท. เพื่อรองรับการดำเนินกิจการที่เกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ กทท.ได้
การผ่านร่าง พ.ร.บ.ท่าเรือฯ ฉบับใหม่ ถือเป็นสเตปต่อเนื่องจากมติครม.เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2568 ที่อนุมัติผ่านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) พ.ศ. .... ทำให้เห็นพื้นที่เป้าหมายของรัฐบาลในการเดินหน้าโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็ซ์ ชัดเจนขึ้น
ไม่เพียงแต่พื้นที่ท่าเรือกรุงเทพ ของ กทท. เท่านั้น ยังมีพื้นที่ “เมืองการบินอู่ตะเภา” ดำเนินการโดย บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด หรือ UTA อีกแห่งหนึ่งที่เล็งกันว่าอยู่ในเป้าหมาย ซึ่ง UTA มีแผนพัฒนาพื้นที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม ดิวตี้ฟรี สนามแข่งรถ ฯลฯ ยังขาดก็เพียงแต่กาสิโนถูกกฎหมาย ซึ่งหากรัฐบาลเปิดไฟเขียว UTA ก็พร้อมจัด เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาเช่าพื้นที่และลงทุนกาสิโน
ส่วนรูปร่างหน้าตาของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือ ศูนย์รวมความบันเทิงครบวงจร ฟังจากปากของ “พ่อนายกฯ” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.นครพนม เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2568 นั้น ฟุ้งใหญ่โตว่าจะทำให้ไทยเป็น “ลาสเวกัส” กันเลยทีเดียว
ภายใน “ลาสเวกัส ไทยแลนด์” จะมีโรงแรม 1,000 ห้อง มีคอนเสิร์ต สนามกีฬา หอประชุม สวนน้ำ ฯลฯ และจะมีพื้นที่ไม่ถึง 10% เป็นกาสิโน เหมือนสิงคโปร์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว และมีการจ้างงาน 20,000 คน เงินเดือนไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท
แถมยังบอกว่าสอบถามประชาชนมาแล้ว “คนค้านน้อยมาก” คนที่ไม่เห็นด้วยก็มีอยู่แล้วแต่ไม่มาก
“พ่อนายกฯ” ยังย้ำด้วยว่าเรื่องนี้ “ไม่ต้องทำประชามติ”
ส่วนไทม์ไลน์นั้น นายทักษิณบอกว่า พยายามทำให้กฎหมายพร้อมภายในปีนี้ และต้นปีหน้าก็อาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อดูการวางกติกาและรายละเอียด การให้ใบอนุญาตจะต้องประกวดราคากันอย่างเปิดเผย ใครสนใจก็มาแข่งขันกัน มาเสนอจะสร้างอะไรที่ประโยชน์กับการท่องเที่ยว จะให้ค่าตอบแทนรัฐอย่างไร
ไม่เพียงแต่กาสิโนถูกกฎหมาย นายทักษิณ ยังกล่าวถึงเรื่องพนันออนไลน์ด้วยว่า วันหนึ่ง ๆ มีคนเล่นพนันออนไลน์อย่างน้อย 2.5 ล้านคน จึงจะเอาขึ้นมาบนดิน ให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้ ห้ามคนเล่นอายุต่ำกว่า 20 ปี ส่วนคนที่เล่นถ้าติดหนักก็เอาไปบำบัด
หากสำรวจความสนใจของกลุ่มทุนกาสิโนผ่านหน้าสื่อ พบว่าขณะนี้มีบริษัทกาสิโนระดับโลก 6 รายที่สนใจเข้ามาลงทุน อาทิ Las Vegas Sands, Wynn Resorts, Caesars Entertainment, MGM China Holdings Limited, Hard Rock Café และ Melco Resorts & Entertainment
อย่างไรก็ดี มิใช่เรื่องง่ายที่ประเทศไทยจะตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างสูงยิ่งมาแล้วหลายรัฐบาล คราวนี้ก็เช่นกัน กระแสไม่เอากาสิโนยังคงกระหึ่ม แม้รัฐบาลจะทำเป็นไม่ได้ยินก็ตาม
นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ และประธานอนุกรรมการด้านการเงินและการธนาคาร สภาผู้บริโภค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่าเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คือ ศูนย์อาชญากรรมครบวงจร ซึ่งจากรายงานของยูเอ็น : “การขยายตัวของการพนันออนไลน์และการแทรกซึมเข้าไปดำเนินการของขบวนการอาชญากรรม” ของสำนักงานด้านยาเสพติดและอาชญากรรม – UNODC ประเมินว่า ตลาดการพนันออนไลน์จะเติบโตมียอดเงิน 2 แสน 5 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2030 หรือประมาณ 7 ล้านล้านบาท โดยเอเชียแปซิฟิก มีส่วนแบ่งมากที่สุดร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับการเติบโตในปี 2022-2026
ที่น่ากังวลคือ การเติบโตของอุตสาหกรรมการพนันออนไลน์นอกชายฝั่งทะเลในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำโขงมีความเสี่ยงสูง เพราะขอบเขตอำนาจศาลและกฎหมายไปไม่ถึง เจ้าหน้าที่คอร์รัปชั่น การบังคับใช้กฎหมายหย่อนยาน กระบวนการยุติธรรมไม่น่าเชื่อถือ โดยบริษัททัวร์การพนันของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าและเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติคือผู้ผลักดันหลักของแนวโน้มนี้
แพลตฟอร์มการพนันออนไลน์ ของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ได้จัดตั้งบริษัททัวร์การพนัน โรงแรม บริษัทสวนสนุก บริษัทจัดประชุมระหว่างประเทศ หรือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาบังหน้า และทำหน้าที่ฟอกเงิน ชำระบัญชีระหว่างบริษัทกับลูกค้าด้วย โดยยูเอ็นตั้งข้อสังเกตว่า มีการซ่อนเร้น ปลอมแปลง หลีกเลี่ยง เอาผลกำไรออกไปให้ดูเสมือนถูกต้องตามกฎหมายอย่างมหาศาล
ขณะเดียวกัน บ่อนการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายจำนวนมากในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แตกสาขาทำธุรกิจผิดกฎหมายหลากหลาย เช่น การฉ้อโกง คอลล์เซนเตอร์ การค้ามนุษย์ ซึ่งมีหลักฐานแน่ชัดว่าขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ ได้แทรกซึมเข้าไปดำเนินการในบ่อนและในเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ Entertainment Complex ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ
ทางด้านคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งติดตามประเด็นการแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และแนวทางดำเนินการเอนเตอร์เทนเมนต์คอนเพล็กซ์ ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2568
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. แถลงผลประชุมว่าการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อให้มีการขออนุญาตเปิดพนันออนไลน์ได้ ควรต้องมาพร้อมกับการควบคุมและป้องกัน รวมทั้งต้องจับกุมกวาดล้างเว็บเถื่อนหรือการพนันผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ส่วนร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรนั้น เนื้อหากฎหมายยังไม่ชัดเจน ต้องรอรายละเอียดอีกครั้ง
ประเด็นที่กมธ.สอบถามและกังวลคือ จะมั่นใจอย่างไรว่าเมื่อมีพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย และมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว ปัญหาการพนันต่าง ๆ ในประเทศจะลดลงไปด้วย ทุกหน่วยงานที่มาตอบเหมือนกันหมดว่า ไม่คิดว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องการพนันในปัจจุบันได้ ต้องไปบังคับใช้กฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงประเด็นที่พรรคประชาชนตั้งคำถาม แม้ว่าจะไม่ติดใจกับการพยายามเอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อกำกับดูแลให้ได้มาตรฐานมากขึ้น แต่เราต้องดูรายละเอียดข้อเสนอของรัฐบาลในรอบนี้ ไม่ว่าจะเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และกาสิโน ได้คุ้มเสียหรือไม่ รายละเอียดบางประการต้องศึกษาเพิ่มเติม เช่น รายได้เข้ารัฐ การจัดสรรรายได้ให้พื้นที่ที่เป็นที่ตั้งกาสิโน
ส่วนข้อเสียที่เราต้องทำงานเชิงรุก คือ การป้องกันผลกระทบจากการพนัน ไม่ว่าจะเป็นเกณฑ์กำหนดว่าใครจะมีสิทธิเข้าใช้บริการบ้าง รวมถึงการป้องกันการฟอกเงิน และข้อกังวลในความโปร่งใส ทั้งเกณฑ์การประมูลที่จะทำให้อย่างไรให้เกิดความโปร่งใส เป็นการแข่งขันที่มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่มีความกังวลเรื่องประโยชน์ทับซ้อน
ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ตั้งคำถามถึงความพยายามผลักดันตั้งบ่อนกาสิโนอย่างเอาจริงเอาจังของนายทักษิณ ชินวัตร และรัฐบาลว่ามีผลประโยชน์อะไรซับซ้อนอยู่หรือไม่ เพราะถ้าหากเรียงลำดับความสำคัญนโยบายของรัฐบาล การสร้างคาสิโนไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน และไม่ใช่นโยบายเรือธงที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ดังนั้น จึงทำให้มีการตั้งคำถามและข้อสงสัยขึ้นมาทันทีว่าทำไมนโยบายที่พรรคเพื่อไทย ประกาศหาเสียง รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ทำ เช่น การลดค่าไฟฟ้า ค่าแก๊ส ค่าน้ำมัน การขึ้นค่าแรง ก็ยังไม่ได้ทำ การแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กับคนไทยทุกคน คนละ 10,000 บาท ก็ไม่ตรงปก นโยบายปราบยาเสพติด และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ยังล้มเหลว แต่นโยบายเปิดบ่อนคาสิโน ไม่เคยพูดบนเวทีหาเสียงเลย กลับเร่งรัด ต้องการทำให้เสร็จในรัฐบาลชุดนี้ เป็นการผลักดันแบบลุกลี้ลุกลนอย่างผิดสังเกตมากที่สุด อะไรคือแรงบันดาลใจ มีอะไรซ่อนเร้นอยู่ในบ่อนคาสิโนมากกว่าที่คิด???
ศ.ดร.วิชา มหาคุณ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรดุษฎี คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วิเคราะห์ว่า เจตนารมณ์ของการออกกฎหมายไม่ชัดเจน เหมือนนำตัวโครงการกาสิโนไปซ่อนไว้ แทนที่ว่าจะไปแก้ไขพ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2547 หรือภาษากฎหมาย เรียกว่า “กระบวนการอำพราง” การให้สัมปทาน เป็นเจตนารมณ์ชัดเจนว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นแน่นอน แต่ที่ผลกระทบมากกว่านั้นคือบ่อนพนัน หรือ กาสิโน คือ สถานที่ฟอกเงินอย่างดีที่สุด ซึ่งจะทำลายกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อย่างชนิดที่เรียกว่า “กู่ไม่กลับ”
รายงานของสื่อต่างชาติ Nikkei Asia อ้างบทวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) ซึ่งประเมินว่าไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการพนันใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากมาเก๊า และ ลาสเวกัส เนื่องจากมีคนไทยชอบเล่นการพนัน โครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวที่ดี และรัฐบาลกำลังหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
ซิตี้กรุ๊ป ยังเผยรายละเอียดและอัตราการจัดเก็บภาษี ว่ารัฐบาลไทยเสนอเก็บภาษีการพนัน 17% ซึ่งต่ำสุดในเอเชีย ขณะที่ มาเก๊ามีอัตราภาษี 40% ญี่ปุ่น มีอัตราภาษี 30% ส่วนสิงคโป อยู่ที่ 18% และ 22% ขึ้นกับรายได้ของผู้ดำเนินการ และรายได้จากนักเล่นการพนันระดับ VIP อัตราภาษี 8% และ 12% ขึ้นกับจำนวนนักการพนัน
ส่วนคาดการณ์รายได้จากการพนันของไทย ซิตี้กรุ๊ป คาดว่าอาจจะถึง 9.1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2031 มากกว่าสิงคโปร์ที่ 8.3 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้สมมติฐานว่าไทยจะต้องเปิดอย่างเต็มที่ รวม 5 แห่ง โดยอยู่ในกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง และอีก 3 แห่งในหัวเมืองใหญ่ คือ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่
รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กำลังปักหมุดให้เมืองไทยท่วมท้นไปด้วยการพนันออนไลน์ และกาสิโนถูกกฎหมายทั่วบ้านทั่วเมือง เปิดประตูนรกให้ประชาชนคนไทยมีโอกาสง่ายที่จะกลายเป็น “ผีพนัน” ส่วนนักการเมือง นักลงทุน และเจ้าหน้าที่รัฐ ก็สบช่องกอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตุง