xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปลดล็อก “Soft Power สุราชุมชน” สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่น(แน่ใจนะ)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  15 มกราคม 2568 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ “ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ...” ด้วยมติเอกฉันท์ 414 เสียง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง “หมุดหมายสำคัญ” ในการ “ปลดล็อกสุราชุมชน” ที่หลายฝ่ายคาดหวังว่า จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ยกระดับภูมิปัญญาไทยสุราพื้นบ้าน สร้างเศรษฐกิจฐานรากและผลักดันสู่ Soft Power 

สาระสำคัญของการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ คือการเพิ่มเติมความในมาตรา 153 เพื่อกำหนดกรอบในการออกกฎกระทรวง เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้เปิดกว้างมากขึ้น ภายใต้ 2 ประเด็นหลัก คือ

1.ต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือ ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าได้ โดยไม่ใช้หลักเกณฑ์ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร

2. ต้องสนับสนุนการใช้สินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตหรือนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตสุราทุกประเภท

ทั้งนี้ การแก้ไขร่างกฎหมายในประเด็นการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุรา หรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง มีข้อกำหนดให้ต้องออกกฎกระทรวง ภายใต้เงื่อนไข คือ ต้องมีมาตรฐานการผลิต สนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตร หรือผู้ประกอบการรายย่อยสามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้า โดยหลักเกณฑ์ที่กำหนดต้องไม่เลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็น

นอกจากนั้น ยังดำรงในหลักการเดิมว่า การผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง ไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใด ยังคงต้องมีการขออนุญาต เพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับทราบและสามารถควบคุมผลกระทบจากการลักลอบผลิตอย่างผิดกฎหมายได้ ซึ่งไม่ใช่ “สุราเสรี”  ที่เปิดให้ทุกคน ผลิตสุราโดยขาดการควบคุม ซึ่งแตกต่างจากร่าง  “สุราก้าวหน้า”  ของพรรคประชาชน ที่สภาผู้แทนราษฎรเคยมีมติ “ไม่รับหลักการในวาระ 1”  เพราะมีหลักการที่จะให้การขออนุญาตผลิตสุราต้องทำเมื่อผลิตเพื่อการค้าเท่านั้น

 นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... เปิดเผยว่าการแก้ไขกฎหมายสุราชุมชนในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งประกาศไว้ โดยจะสร้างประโยชน์ต่อเนื่อง 4 เรื่องคือ

1. ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบการรายใหญ่ และส่งเสริมการประกอบอาชีพของผู้ประกอบการรายย่อย ให้ประชาชนที่อยากประกอบอาชีพอย่างถูกต้อง มีช่องทางได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย

2. ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในประเทศ ให้เกษตรกรมีโอกาสใหม่ในการสร้างได้รายได้เพิ่มขึ้น

3. เพิ่มการจัดเก็บรายได้ทางภาษีแก่ภาครัฐ จากการนำสินค้าที่ผลิตแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าสู่ระบบ และโอกาสจากการต่อยอดผลิตภัณฑ์สุราเป็นสินค้าส่งออกมากขึ้น

และ 4. ส่งเสริมให้วัฒนธรรมสุราชุมชน เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ ที่จะสร้างการรับรู้และยอมรับของชาวต่างชาติ ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมอาหารต่อไป

 “สุราชุมชนเป็นสิ่งที่จะเปิดโอกาส เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้พี่น้องประชาชน ได้สร้างธุรกิจของตนเอง เพราะหากมองถึงกฎหมาย ยังพบว่า มีข้อจำกัดเยอะมาก ที่มาจำกัดเรื่องของความครีเอทีฟ ในขณะที่ตลาดเครื่องดื่มของไทย Soft drink น้ำแร่ น้ำหวาน มีการส่งออกมากกว่าปีละ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐสามารถเก็บภาษีได้ถึง 185,000 ล้านบาทต่อปี ถือได้ว่าธุรกิจเรื่องน้ำเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตอีกมากมาย ถ้าเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สร้างสรรค์มีความครีเอทีฟ ออกมา” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานแถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลและมอบหมายนโยบาย “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” เกี่ยวกับเรื่องสุราชุมชน  

นับเป็นการปลดล็อกสุราชุมชนให้สามารถขออนุญาตผลิตสุราได้ทุกประเภท จากเดิมกฎหมายควบคุมชุมชนและกลุ่มเกษตรกรผลิตได้เพียงสุรากลั่นหรือเหล้าขาว รวมถึงสาโท สุราแช่ เท่านั้น รวมทั้งเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้สุราชุมชน เพราะเดิมทีกฎหมายให้สุราชุมชนเป็นเพียงกลุ่มที่ผลิตเฉพาะสุรากลั่นหรือสุราขาว หรือที่เรียกกันว่าเหล้าขาว ถือเป็นการผลิตในวงแคบ ซึ่งไม่สามารถปรับปรุงดัดแปลงเติมแต่งรสชาติใหม่ๆ เป็นสุราประเภทต่างๆ ให้ทันกับยุคและกลุ่มผู้บริโภคได้

 นายประสิทธิ์ สำนักเหยา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่...) พ.ศ. ... สภาผู้แทนราษฎร และผู้ประกอบการสุราชุมชนแบรนด์ดัง จ.ตรัง ยอดข้าวสุราทิพย์ กล่าวว่าการปลดล็อกในครั้งนี้ถือเป็นข้อดี คือ เป็นการเริ่มเปิดไอเดียความคิดที่สร้างสรรค์ให้คนรุ่นใหม่ได้นำเสนอ ทั้งรสชาติ รูปแบบ ยกตัวอย่างในต่างประเทศ กลุ่มเกษตรกร ชาวบ้าน สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มาจากพืชผลการเกษตรของชุมชนเหล่านั้นได้ เช่น เราไปเที่ยวญี่ปุ่น เขามีสินค้าเกษตรกร เช่น บ๊วย ลูกพลัม ก็เอามาทำเหล้าบ๊วย รวมถึงสร้างสรรค์ดัดแปลงทั้งเป็นสุราดีกรีสูง ดีกรีต่ำ หลากหลายรสชาติ แต่ละเมืองก็จะมีผลิตภัณฑ์ประจำเมือง เช่น เมืองซับโปโร ก็มีเหล้าบ๊วยซับโปโร สาเกซับโปโร จนกลายเป็นของฝากที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องซื้อหามา

ส่วนประเทศจีนก็จะมีสุราเหมาไถ่อันเลื่องชื่อ ใครไปเมืองจีนก็ต้องซื้อกลับมา มีข้อมูลว่าในบรรดาเครื่องดื่มของโลก ที่ขายดีที่สุดคือน้ำอัดลมแบรนด์ดังคือ โคคาโคล่า ส่วนที่รองลงมาคือสุราเหมาไถ่ ที่คนทั่วโลกนิยมซื้อหามาเป็นของฝาก โดยสนนราคาเทียบกับเงินไทยถึงขวดละ 7-8 พันบาทกันเลยทีเดียว หากปลดล็อกในส่วนนี้ได้ สุราชุมชนไทยจะมีการยกระดับพัฒนา ทั้งเชิงความคิดสร้างสรรค์ และการแข่งชันกันพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ยอมรับเพื่อสร้างโอกาสในการขาย

การที่ประเทศไทยได้ปลดแอกสุราพื้นบ้านเป็นก้าวแรกเป็นนิมิตหมายที่ดี เป็นการเปิดกว้างให้มีการแข่งขัน มีการพัฒนาคุณภาพ การทำสุรามันคือศิลปะ เป็นศาสตร์แห่งภูมิปัญญา

“สุราชุมชน จะสร้างมูลค่ากระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศ ตั้งแต่รากหญ้าชุมชน เกษตรกรเจ้าของวัตถุดิบ กลุ่มผู้ผลิตสุราชุมชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพราะชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงไฮซีซันนี้ ต่างก็ถามหาสุราไทย เบียร์ไทย เบียร์คราฟท์ เพราะเขาอยากมาลิ้มลอง เช่น กระบี่ ภูเก็ต สุราชุมชนขายดีมาก ฝรั่งจะถามหาตลอด การปลดล็อกตรงนี้ให้ทุกคนได้แข่งขัน ร่วมกันพัฒนาคุณภาพ”

 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กรุงเทพ พรรคประชาชน เปิดเผยว่าการต่อสู้เรื่องกฎหมายใบอนุญาตจะผ่านไปแล้ว แต่ต้องจับตาในกฎกระทรวงและในประเด็นอื่นๆ เช่นเรื่อง ภาษี และการผูกขาดบรรจุภัณฑ์ ที่ยังต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ต่อไป ซึ่งอำนาจเหล่านี้เป็นอำนาจของรัฐบาลที่ทำได้ผ่านกฎกระทรวง

ขณะที่ เพจเฟซบุ๊ก พรรคประชาชนแสดงความเห็นภายหลังสภาผู้แทนราษฎร ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือ ร่าง พ.ร.บ. สุราชุมชน ในการพิจารณาวาระที่ 3 โดยระบุสาระสำคัญความว่า

“15 ม.ค. เป็นอีกวันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์วงการสุราไทย เมื่อร่างแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิต หรือร่าง พ.ร.บ. ‘สุราชุมชน’ ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 3 ของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่ ‘สุราก้าวหน้า’ ของพรรคประชาชนที่ผลันดันมาตั้งแต่สมัยอนาคตใหม่-ก้าวไกล ‘สุราชุมชน’ จะไม่ได้ตอบโจทย์การทลายทุนผูกขาดและการเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กตัวน้อยได้เติบโตในวงการสุราอย่างที่ควรจะเป็นอย่างครบถ้วน แต่อย่างน้อยที่สุดนี่คือก้าวแรกของการเปิดตลาดวงการสุราสู่คนตัวเล็กตัวน้อยได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น การเดินทางของ 'สุราชุมชน' มาถึงจุดหมาย แต่การเดินทางของ 'สุราก้าวหน้า' ยังต้องไปต่อ เพื่อให้การปลดล็อกเหล้าเบียร์ไทย ปลดล็อกศักยภาพผู้ประกอบการไทย ทลายทุนผูกขาด เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในอนาคต”

อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบเกี่ยวกับการผลิตสุราชุมชน เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนให้เติบโต ผ่านการลดข้อจำกัดด้านการผลิตและการจัดจำหน่ายสุราพื้นบ้านอย่างถูกกฎหมาย การผลักดันผลิตภัณฑ์สุราพื้นบ้านสู่ Soft Power เป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจท้องถิ่น


กำลังโหลดความคิดเห็น