xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

Pet Tourism สี่ขาพาตะลุยฟีเวอร์ เทรนด์ท่องเที่ยว Pet Lover มาแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - จับเทรนด์ Pet tourism การเดินทางท่องเที่ยวกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรด ตอกย้ำยุคสมัยของ Pet Humanization เลี้ยงแบบสมาชิกในครอบครัว ททท. เด้งรับออกแคมเปญ Amazing Happy Paws Thailand ดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่ Pet-Friendly Community 

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) เปิดเผยบทวิเคราะห์รูปแบบการท่องเที่ยวใหม่ Pet tourism กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มเจ้าของสัตว์เลี้ยง Pet humanization เลี้ยงสัตว์เหมือนสมาชิกใครครอบครัว ซึ่งทำให้เจ้าของอยากพาสัตว์เลี้ยงของตนออกไปท่องเที่ยวเพื่อทำกิจกรรม พร้อมทั้งได้ใช้เวลาและสร้างประสบการณ์พิเศษร่วมกันมากขึ้น จึงส่งผลให้ตลาด Pet tourism กลายเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต

โดยมีปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเทรนด์ Pet tourism ประกอบด้วย 1. กระแส Pet humanization ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงหันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกหรือสมาชิกครอบครัว (Pet parent) มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มคนโสด ส่งผลให้เจ้าของยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อสัตว์เลี้ยงค่อนข้างมาก ทั้งด้านอาหาร ด้านสุขภาพ รวมถึงการพาสัตว์เลี้ยงออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน

2. จำนวนสัตว์เลี้ยงและผู้มีสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจำนวนสัตว์เลี้ยงทั้ง สุนัข แมว และสัตว์อื่น ๆ เช่น นก ปลา เพิ่มขึ้นราว 2.5%CAGR และยังสอดคล้องกับจำนวนครัวเรือนที่มีสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นในอัตราใกล้เคียงกัน อีกทั้ง ในช่วงปี 2025-2028 จำนวนสัตว์เลี้ยงยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องราว 2.6%CAGR

3. จำนวนธุรกิจที่พร้อมให้บริการด้าน Pet tourism เพิ่มมากขึ้น จำนวนบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเติบโต 17%CAGR ในช่วงปี 2015-2023 ทั้งในกลุ่มขายปลีกอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มบริการทางการแพทย์ และกลุ่ม Pet care อีกทั้ง ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารจำนวนมากยังขยายบริการใหม่สำหรับกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะด้วย

และ 4. การสนับสนุนจากภาครัฐ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเทรนด์ Pet tourism จัดทำโครงการ Amazing Happy Paws เพื่อประชาสัมพันธ์และโปรโมท Pet tourism ทั้งแก่ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีสัตว์เลี้ยง ควบคู่ไปกับการสร้างฐานข้อมูลธุรกิจ Pet friendly เพื่อกลุ่ม Pet tourist โดยเฉพาะด้วย ซึ่งส่งผลให้การพาสัตว์เลี้ยงไปท่องเที่ยวได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น

 โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว เปิดเผยรายงานการศึกษาวิจัยเชิงลึก Pet Tourist Insights ระบุว่าปัจจุบันประเทศไทยมีสัตว์เลี้ยงประมาณ 12 ล้านตัว โดยมีแนวโน้มที่เจ้าของจะพาออกท่องเที่ยวด้วยกันประมาณ 7.5 ล้านตัว โดย 62% ของกลุ่มตัวอย่าง Pet Lover จำนวน 800 คน มีความสนใจท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง ซึ่งนับเป็นโอกาสที่น่าสนใจของผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก 

ที่สำคัญยังพบว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางพร้อมสัตว์เลี้ยงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อทริปถึง 20% โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังใช้จ่ายสูง และยินดีจ่ายเพิ่มขึ้น นับเป็นความท้าทายในการผลักดันให้เกิด Pet-Friendly Community ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย

โครงการ Amazing Happy Paws Thailand ภายใต้คอนเซปต์ “สี่ขาพาตะลุย แฮปปี้ยกกำลังสอง Happy Paws, Happy Pals: The Next Episode” เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในมิติการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยง ตอบโจทย์เทรนด์ Pet-Humanization ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ดำเนินแผนงานเชิงรุกรับกระแส Pet tourism สืบเนื่องจากจำนวนประชากรไทยและทั่วโลกที่เลือกครองสถานะโสด รวมทั้งคู่แต่งงานที่เลือกไม่มีบุตร (DINK) เพิ่มสูงขึ้น ทำให้อัตราการกำเนิดบุตรลดลง แต่กลับส่งผลต่อพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เป็นเสมือนลูกหลานสุดที่รัก หรือสมาชิกสำคัญของครอบครัว (Pet-Humanization) ที่มากขึ้น สิ่งที่ตามมาคือเรื่องของการใช้จ่ายของสัตว์เลี้ยงที่มาจากความเต็มใจจ่ายสูงขึ้นตามไปด้วย ผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง และผู้ประกอบการที่เป็น Pet-Friendly มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับเป็นโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในมิติการท่องเที่ยวพร้อมสัตว์เลี้ยงของไทย

นอกจากนี้ ททท. เตรียมความพร้อมไทยสู่ Pet-friendly Destination โดยช่วงกลางปี 2567 ที่ผ่านมา ร่วมกับ บริษัท Pet Travel “Ai Chong You”  จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เจาะกลุ่ม Dog Lover จัดกิจกรรมพาทัวร์ประเทศไทยพร้อมสุนัขตัวโปรด ด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flight) เนื่องจากกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงในสาธารณรัฐประชาชนจีนมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบันคนจีนแต่งงานและไม่นิยมมีบุตรแต่หันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทดแทน

ขณะที่ข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ระบุว่า ชาวจีนจำนวนร้อยละ 70 นิยมเลี้ยงสุนัขเมื่อเทียบกับสัตว์เลี้ยงประเภทอื่น ซึ่งเจ้าของยังให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว มีการพาออกไปทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการออกเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน อีกทั้งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังการซื้อสูง

 โดย Euromonitor คาดการณ์ว่าปี 2569 มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของโลกจะสูงถึง 217,651 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2564-2569 อยู่ที่ร้อยละ 7.2 ต่อปี (CAGR) ขณะที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศไทยจะสูงถึง 66,748 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 8.4 ต่อปี 

ทั้งนี้ SCB EIC ประเมินเกี่ยวกับธุรกิจที่น่าสนใจและมีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist อาทิ ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ธุรกิจโรงแรมและที่พักมีโอกาสจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเข้าพักสำหรับสัตว์เลี้ยง, ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจร้านอาหาร เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตจากกลุ่ม Pet tourist หากสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่นิยมพาสัตว์เลี้ยงมารับประทานอาหาร,

ธุรกิจขนส่งและการบิน ปัจจุบันผู้มีสัตว์เลี้ยงนิยมพาสัตว์เลี้ยงร่วมเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น ทั้งในเส้นทางภายในประเทศและระหว่างประเทศ และธุรกิจ Pet healthcare & Wellness เช่น การบริการ Pet care และ Pet grooming เพื่อเตรียมความพร้อมให้สัตว์ก่อนออกไปเที่ยว หรือการให้บริการด้านเวลเนสแก่สัตว์เลี้ยง เช่น การทำสปา การฉีดวัคซีน และการพาไปออกกำลังกายหรือว่ายน้ำ เป็นต้น

**นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม** อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าธุรกิจสัตว์เลี้ยงและที่เกี่ยวเนื่องเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด ได้รับอิทธิพลจากการยกระดับสัตว์เลี้ยงให้เป็นเพื่อนที่มีความสำคัญในชีวิต เกิด  Petfluencer สัตว์เลี้ยง ที่มีผู้ติดตามผ่านสื่อสังคมออนไลน์จำนวนมาก มีการสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่เจ้าของอย่างเป็นกอบเป็นกำ และแนวโน้มและรูปแบบการเลี้ยงสัตว์ของคนยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนคนในครอบครัว (Pet Humanization) และการเลี้ยงสัตว์แบบ   Petriarchy  หรือเหล่าทาสที่พร้อมจะเปย์เจ้านายแบบไม่จำกัด ทำให้เกิดการลงทุนในสุขภาพและความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงเหมือนคนจริงๆ และการซื้อของเล่น ของใช้ อาหารแบบพรีเมียม

ภาพธุรกิจสัตว์เลี้ยงผลประกอบการภาพรวม 3 ปีย้อนหลัง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ปี 2564 มีรายได้รวม 218,714.93 ล้านบาท กำไร 2,963.03 ล้านบาท ปี 2565 รายได้รวม 244,530.23 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 25,815.30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.81%) กำไร 13,656.17 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10,693.14 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 360.89%) ปี 2566 รายได้รวม 258,702.91 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14,172.68 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 5.80%) กำไร 14,989.64 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1,333.47 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 9.77%)

สุดท้ายการท่องเที่ยวรูปแบบ Pet tourism เป็นผลบวกจากกระแส Pet-Humanization ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างน่าจับตามอง ยิ่งในยุคปัจจุบันเจ้าของให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว ให้ความรัก ให้การดูแลอย่างดี และมีความสุขกับการได้เดินทางท่องเที่ยวพร้อมกับสัตว์เลี้ยง โดยยินดีจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างเต็มใจ

 อย่างไรก็ตาม แม้เทรนด์ Pet tourism แม้เป็นโอกาสทางธุรกิจท่องเที่ยวแต่ก็มีความท้าทายที่ต้องเผชิญเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของการรักษาสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้ารักสัตว์และไม่คุ้นเคยกับสัตว์ 


กำลังโหลดความคิดเห็น