เป็นที่ฮือฮาเด่นชัดว่าสหรัฐฯกำลังเข้าใกล้ประเทศโลกที่สามมากขึ้นก็ในการแสดงพลัง (Show Down)การทำร่างงบประมาณฉบับชั่วคราว (Continuing Resolution)อายุ 3เดือน (มกราคมถึงมีนาคมปีหน้า)ซึ่งมีการพลิกผันหกคะเมนตีลังกาด้วยแรงโยกคลอนของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถึง 2 คน...ถูกต้องแล้วว่า...เป็น 2คน...ที่แสดงอำนาจเต็มที่ ขนาดยังไม่ได้มีการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในพิธีสถาปนาในวันที่ 20มกราคมด้วยซ้ำ
เขาทั้งสองคือ...คนแรก...ได้แก่มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกและเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าเจ้าแรกที่สนั่นบันลือโลกยี่ห้อ Teslaนั่นคือ นายอีลอน มัสก์…อายุ 53ปีเต็ม...เจ้าของกิจการยานอวกาศที่รับงานด้านอวกาศจากรัฐบาลสหรัฐฯและเป็นผู้บริจาคเงินหาเสียงเจ้าใหญ่สุดให้แก่นายทรัมป์ถึงเกือบ 300 ล้านเหรียญ (1หมื่นล้านบาท...นักติดตามสถานการณ์บางคนฟันธงว่าเขาบริจาคให้มากกว่า 300ล้านเหรียญด้วยซ้ำ...ไม่นับการแจกเงินคืนละ 1ล้านแก่ผู้จับสลากลงชื่อจะไปลงคะแนนเสียง,ในเกือบ 20วันสุดท้ายก่อนลงคะแนน)
อีกคนก็ไม่ใช่อื่นไกลก็เป็นเศรษฐีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งมีทั้งคอนโดฯ,โรงแรม,สนามกอล์ฟ,ศูนย์บันเทิงครบวงจร (ชื่อทัชมาฮาลที่ได้เจ๊งไปแล้ว)และเคยเป็นปธน.คนที่ 45นั่นคือ...โดนัลด์ ทรัมป์...ผู้เป็น Comeback Kidที่ได้ชัยชนะจะเป็นปธน.คนที่ 47หลังต้องพ่ายแพ้ให้แก่ปธน.ไบเดนในปี 2020 (แต่ทรัมป์ไม่ยอมแพ้และไม่เคยยอมรับความจริงว่าเขาแพ้ราบคาบต่อไบเดน...กลับออกมาโพนทะนาโกหกตลอดเวลาว่าเขาถูกโกงการเลือกตั้งและถูกปล้นคะแนนจากบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์)
การประลองกำลังของ 2หนุ่มใหญ่นี้กับเหล่าสส.,สว.ในสภาล่างทั้งจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเกิดขึ้นในวันพุธที่ 18 ธันวาคม (เพียงแค่ 48ชม.ก่อนเส้นตายที่งบประมาณฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 20ธันวา...ซึ่งเป็นวันประชุมสภาฯวันสุดท้ายก่อนหยุดคริสต์มาสและหมดสมัยประชุมของสภาฯปัจจุบันด้วย...สภาฯใหม่จะเข้ามาต้นมกราคมปีหน้า)
ในวันพุธนี้เอง ท่านประธานสภาฯ ไมค์ จอห์นสันซึ่งเป็นสส.จากรัฐหลุยเซียนา (จากพรรครีพับลิกัน)มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสที่งบชั่วคราวนี้จะผ่านสภาฯ ฉลุย จากความร่วมมือร่วมใจข้ามพรรค (Bi-Partisan)เป็นการทำคลอดก่อนกำหนดเส้นตายถึง 2วันเต็มๆและผ่านด้วยคะแนนท่วมท้นจากทั้งสองพรรคซึ่งเป็นการวัดด้วยว่าเมื่อสภาผู้แทนเปิดสมัยประชุมของสภาฯใหม่ในวันที่ 3มกราคมท่านประธานสภาฯ (House Speaker)คนเดิมนี้ก็จะได้รับคะแนนเลือกกลับเข้ามาเป็นประธานอีกสมัยอย่างแน่นอนเพราะสามารถรวบรวมสส.ให้กลมเกลียวผ่านงบชั่วคราวได้อย่างราบรื่น...
เช้าวันพุธก็มีการเขียนใน Xโดยนายอีลอน มัสก์ ด้วยท่าทีรุนแรงตำหนิสภาผู้แทนที่ผ่านงบชั่วคราวนี้โดยแสดงเหตุผลแกมบังคับว่าใคร (ที่เป็นสส.รีพับลิกัน)ที่ลงคะแนนให้ผ่านจะถูกลงโทษในอีก 2ปีข้างหน้า (ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป)เพราะพวกเขาทำให้เกิดงบประมาณขาดดุลเพิ่มสูงขึ้นกับค่าใช้จ่ายอีลุ่ยฉุยแฉกที่เกินความจำเป็น และทำให้หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ โตขึ้นๆ เป็นลูกโป่งที่กำลังรอวันจะแตก...และอีลอนยังสำทับด้วยว่า ปธน.ทรัมป์ควรเข้ามารับตำแหน่งพร้อมงบประมาณก้อนใหม่ที่ไม่ใช่มีข้อผูกพันจากงบชั่วคราวนี้...หมายถึง...สภาฯควรรอปธน.คนใหม่เข้ามาทำงบก้อนใหม่ซึ่งในช่วงนั้นงบเก่าจะหมดอายุลงในคืนวันศุกร์ที่ 20ธันวาคมนั้น...อีลอนมัสก์บอกว่า ไม่สมควรมีงบชั่วคราวใดๆ ทั้งนั้น...การปล่อยให้เกิด Shut Down (รัฐบาลต้องปิดการดำเนินงานชั่วคราวเพราะไม่มีงบประมาณในการบริหาร) เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้...ดีกว่าทำงบชั่วคราวแล้วสร้างปัญหาให้แก่รัฐบาลใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหารประเทศ...โดยเฉพาะคือการเพิ่มขยายเพดานหนี้สาธารณะที่อีลอนมัสก์ชี้ว่าต้องพยายามตัดลดเพดานหนี้ให้น้อยลงๆๆตามสูตรที่เขาเสนอกับทรัมป์ว่าในช่วง 4ปีที่ทรัมป์จะเข้ามาบริหารประเทศนั้นถ้าอีลอนมัสก์ ได้เข้ามาทำหน้าที่จัดระเบียบการบริหารกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ให้อยู่ในร่องในรอย...ที่จะตัดงบลดไม่จำเป็นออก...เขาเสนอว่า ใน 4 ปีบริหารของทรัมป์ จะสามารถมาตัดงบได้ถึง 2 ล้านล้านเหรียญ...ซึ่งเขาบอกว่าอาจตัดลดได้ภายใน 2ปีเท่านั้นด้วยซ้ำเพื่อทำให้รัฐมีหน่วยงานที่เพรียวลงมาก (เช่นยุบกระทรวงศึกษาฯ,ลดเจ้าหน้าที่ในกระทรวงยุติธรรม,เอฟบีไอ,ลดพนักงานของธนาคารกลางเป็นต้น)
ทันทีที่อีลอนมัสก์ออกมาฉุนเฉียวใน Xของเขาปรากฏว่าไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่าที่ปธน.ทรัมป์ก็เขียนลงในTruth Socialของเขาสนับสนุนความคิดของอีลอน มัสก์ เต็มที่…อย่างหนักแน่นและจริงจัง
ทำเอาท่านประธานสภาผู้แทนไมค์จอห์นสันถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเพราะเดิมทรัมป์ให้ความสนิทสนมกับประธานสภาฯไมค์อย่างเปิดเผยที่ไม่เคยมีปธน.คนใดในอดีตให้ความใกล้ชิดเช่นนี้
ถ้าประธานไมค์ไม่ยอมเปลี่ยนร่างงบตามคำชี้แนะของทรัมป์และมัสก์เขาก็เสี่ยงจะสูญเสียเก้าอี้ประธานสภาฯในวันที่ 3มกราคมนี้
ประธานสภาฯไมค์จอห์นสันลงทุนโทรศัพท์ไปหาอีลอนมัสก์ซึ่งไม่ใช่ทั้งสส.หรือมีตำแหน่งใดๆทางการเมืองขณะนี้ (ขณะที่ไมค์จอห์นสันอยู่ลำดับที่ 3ที่จะขึ้นเป็นปธน.ของสหรัฐฯได้...ถ้าปธน.และรองปธน.ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ปธน.ได้)และออกมาสารภาพกับประชาชนว่าเขาได้อธิบายอยู่นานถึงรายละเอียดของงบต่างๆให้อีลอนมัสก์ได้เข้าใจกันดีขึ้น
แต่ในที่สุดประธานไมค์จอห์นสัน ก็ยอมให้มีร่างงบฉบับที่สองที่ตามใจมัสก์แล้วนำไปลงคะแนนในวันพฤหัสฯ (1วันก่อนหมดกำหนดเส้นตายของงบประมาณ)...ร่างที่ 2นี้ถูกตีตกเพราะทั้งสส.รีพับลิกันและสส.เดโมแครตไม่ยอมให้ผ่าน...ซึ่งจะไม่ขยับเพดานหนีและโยกเปลี่ยนงบวุ่นวายมาก
จนในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายตามกำหนดเส้นตายที่งบชั่วคราวต้องผ่านสภาฯประธานไมค์ก็ยอมต้องมีร่างที่ 3ซึ่งตัดค่าให้จ่ายในเอกสารออกไปถึงพันกว่าหน้าส่วนหนึ่งเป็นงบของเดโมแครตเพื่อไปโปะเป็นงบช่วยเหลือภัยพิบัติในรัฐทางตอนใต้ที่เป็นรัฐของรีพับลิกัน
หลังจากยื่นหมูยื่นแมวกันสำเร็จเป็นร่างที่ 3ที่ตามใจทรัมป์;และอีลอนมัสก์รวมทั้งสส.ทั้งสองพรรคพอสมน้ำสมเนื้อก็เลยผ่านออกมาในนาทีสุดท้ายก่อนเที่ยงคืน...โดยยังมีการขยายเพดานหนี้, และงบชั่วคราวจะใช้ไปได้ตลอด ไตรมาสแรกของปีหน้า...ก่อนที่ทรัมป์จะทำงบปีก่อนหน้า...ก่อนที่ทรัมป์จะทำงบประจำปีก้อนใหม่เข้ามาที่จะไม่ขยายเพดานหนี้อย่างแน่นอน
สส.เดโมแครตออกมาเขียนจดหมายเปิดผนึกว่า อีลอน มัสก์ คือ ปธน.ซ้อนของทรัมป์ที่มีอิทธิพลต่อนโยบายการบริหารของทรัมป์ และยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในธุรกิจของอีลอน มัสก์ทั้งเรื่องกฎระเบียบต่างๆที่จะใช้กับรถไฟฟ้าของเขาและยานอวกาศที่เขาเป็นคู่สัญญาของรัฐ
ทำเอาทรัมป์ต้องรีบออกมาชี้แจงแถลงว่า อีลอน มัสก์ ไม่ใช่ปธน. และไม่มีทางเป็นปธน. เพราะเขาไม่ได้เกิดในแผ่นดินสหรัฐฯตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ...เขาจึงเป็นแค่ที่ปรึกษาของทรัมป์เท่านั้น
ระหว่างปธน.ซ้อนที่สหรัฐฯกับนายกฯซ้อนที่ไทยประชาชนของทั้งสองประเทศคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดไม่ให้ชาติของตนต้องเสียประโยชน์จากการมีความซ้ำซ้อนกันเช่นนี้