xs
xsm
sm
md
lg

ฟังให้ชัดๆ-เขาไม่ใช่ฮีโร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


จอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย
เป็นคำประกาศกร้าวของท่านผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย จอช ชาปิโร...ผู้ว่าการฯ ที่มีคะแนนนิยมสูงมากในพรรคเดโมแครต และอาจเป็นผู้สมัครปธน.ในอีก 4 ปีข้างหน้าในนามพรรคเดโมแครต...

เขาประกาศทันทีที่ตำรวจของเพนซิลเวเนียสามารถรวบตัวผู้ต้องสงสัยที่ใช้ปืนเก็บเสียงสังหารซีอีโอของบริษัทประกันสุขภาพใหญ่สุดของสหรัฐฯ ในรุ่งสางของวันพุธที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ข้างๆ โรงแรมฮิลตัน (ที่ตั้งอยู่ที่มิตรทาวน์ของแมนฮัตตัน) ใจกลางมหานครนิวยอร์ก

ผู้ที่ถูกสังหารอย่างเลือดเย็นนี้เป็นซีอีโอวัยกลางคนอายุ 50 ปีคือ นายไบรอัน ทอมป์สัน เขากำลังเดินเพื่อเข้าไปประชุมกลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในบริษัทประกันใหญ่แห่งนี้ โดยเดินอยู่คนเดียว ไม่มีหน่วยคุ้มกันสักคนเดียว

รายละเอียดการหลบหนีของมือสังหาร ก็อย่างที่ทั่วโลกได้รับทราบพร้อมๆ กับความระทึกใจของเหตุการณ์นี้คือ เขาได้เตรียมการหลบหนีอย่างรอบคอบและละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่ใช้รถจักรยานไฟฟ้าหลบเข้าเซ็นทรัล พาร์ค เพื่อไปทิ้งกระเป๋าเป้ แล้วเดินออกจากพาร์คมาขึ้นแท็กซี่ เพื่อไปยังสถานีรถโดยสารเดินทางออกจากนิวยอร์ก

ทางตำรวจได้กลั่นกรองจากภาพในซีซีทีวีที่มีติดตั้งอยู่เป็นหมื่นๆ กล้องทั่วนิวยอร์ก ถึงกับต้องใช้ความพยายามอย่างหนักใจ เพราะมือปืนดูมีความรู้อย่างดี...

ตำรวจมีภาพหน้าตาของคนร้าย ที่ได้ยอมเปิดหน้ากากอนามัยตามคำขอร้องของเจ้าหน้าที่ hostel ที่คนร้ายเข้าพักใน 10 วันก่อนลงมือปฏิบัติการสังหาร

คนร้ายหลบอยู่ในรัฐเพนซิลเวเนียถึง 4 วันเต็มๆ จนเช้าวันอาทิตย์ที่ 8 ธ.ค. ขณะที่คนร้ายกำลังนั่งทานอาหารเช้าที่ร้านแมคโดนัลด์ โดยยังคงสวมหน้ากากอนามัยอยู่ ก็มีลูกค้าคนหนึ่งสังเกตเห็นคนร้ายมีลักษณะเหมือนภาพประกาศจับที่มีเผยแพร่อยู่ในสื่อทุกๆ ชนิดก่อนหน้านี้ ลูกค้าคนนี้ได้ไปบอกพนักงานของร้าน ซึ่งต่อมาได้รีบแจ้งไปยังตำรวจให้รีบมาจับตัว

ท่านผู้ว่าฯ จอช ชาปิโร ได้ย้ำว่า คนร้ายคนนี้ไม่ใช่ฮีโร่ แต่ฮีโร่คือพนักงานของร้านแมคโดนัลด์ ที่ใจกล้ามากและรีบแจ้งตำรวจอย่างรวดเร็ว ทำให้จับคนร้ายได้

ทั้งนี้ เพราะหลังจากการยิงสังหารนายไบรอัน ทอมป์สัน จนเสียชีวิตทันที ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนเป็นหลายแสนได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยเฉพาะผ่าน X (เดิมคือทวิตเตอร์) มีการแสดงความดีใจอย่างออกนอกหน้า ทั้งๆ ที่เป็นการฆ่าคนอย่างอุกอาจกลางมหานครนิวยอร์ก และผู้ตายก็มีลูกยังเล็กอยู่สองคน กับครอบครัวที่อบอุ่น

ความรู้สึกที่หลั่งไหลออกมาผ่านโซเชียลมีเดียมีจำนวนมากที่สมน้ำหน้ากับผู้บริหารระดับสูงของบริษัทประกันสุขภาพเจ้าใหญ่ของสหรัฐฯ แห่งนี้ ที่ได้สร้างกำไรมหาศาลแก่บริษัทประกัน โดยมีรายได้ของพนักงานสูงลิบลิ่ว รวมทั้งราคาหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่นิวยอร์ก ก็ทะยานสูงลิบ ซึ่งส่วนหนึ่งจะกลับมาเป็นผลตอบแทนในรูปของรายได้ของพนักงานของบริษัททุกๆ คน

แต่สำหรับลูกค้าของบริษัทประกัน ซึ่งต้องจ่ายค่าประกันในราคาที่สูง ปรากฏว่า เมื่อตัวเองมีปัญหาสุขภาพ และต้องเข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนก่อนที่โรคร้ายจะพัฒนาเลวร้ายลงไปอีก...อนิจจา...ทั้งแพทย์ผู้ทำการรักษา และผู้เอาประกันเองกลับต้องเผชิญกับปัญหาที่ไม่น่าเชื่อ...เช่นต้องรอเวลานานมากก่อนได้รับอนุมัติจากบริษัทประกัน ซึ่งถ้าเป็นกรณีต้องรีบรับการผ่าตัด ทำให้คนไข้ตัดสินใจให้หมอผ่าตัดก่อน แล้วค่อยมาขอเงินชดเชยจากบริษัทประกันทีหลัง

ผู้ป่วยที่ทำประกันบางรายถึงกับหมดเนื้อหมดตัว เพราะที่จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปล่วงหน้า แต่กลับพบกับความล่าช้าในการจ่ายชดเชย หรือบางทีไม่ยอมจ่าย โดยงัดเอาสัญญาที่บ่งบอกว่า ต้องได้รับอนุมัติจากบริษัทประกันก่อนผ่าตัด เป็นต้น

นี่รวมถึงการได้รับยาในการรักษา ที่บางทีบริษัทประกันก็ไม่ยอมจ่ายให้ใช้ยาแพงๆ สำหรับผู้ป่วยด้วย

จนมีหนังสือที่ออกมาเมื่อปี 2010 (14 ปีที่แล้ว) ชื่อ Delay, Deny, Defend ซึ่งเขียนโดย ศ.Jay M. Feinman แห่งมหาวิทยาลัย Rutgers (ศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย) ที่พูดถึงกลวิธีปฏิเสธการเรียกร้องค่าสินไหมจากผู้เอาประกัน (สุขภาพ) โดยยุทธวิธีหรือเล่ห์กล 3 D’S คือ ถ่วงเวลา, ปฏิเสธไม่จ่าย หรือใช้วิธีอธิบายอย่างปกป้อง (โกหก)... ทั้งนี้ก็เพื่อลดต้นทุนทุกชนิดของบริษัทประกันเพื่อกำไรมหาศาล และตัวเลขกำไรนี้ก็ทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ทะยานขึ้นสูง...นำมาซึ่งรายได้ผลตอบแทนของทั้งผู้บริหารและพนักงานของบริษัทประกันโดยทั่วหน้ากัน

กำไรมหาศาลบนน้ำตาและชีวิตของผู้เอาประกัน ซึ่งได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการในสภาฯ ซึ่งได้ทำการสอบสวนเรื่องนี้เมื่อต้นปีนี้เอง จนมีการประท้วงที่หน้าสภาฯ แสดงละครเป็นผู้เอาประกันนอนท่าคนตายจากการปฏิเสธการจ่ายชดเชยค่าสินไหม

ด้านผู้ต้องสงสัยเป็นมือปืนสังหารในครั้งนี้ ปรากฏว่าเป็นชายหนุ่มอายุ 26 ปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่และดีเด่นของโลกคือ U. Penn ทั้งปริญญาตรีและโทด้านคอมพิวเตอร์ มีผลงานจัดตั้งกลุ่มพัฒนาเกมในขณะเป็นนักศึกษา...และก่อนเข้ามหาวิทยาลัยไอวีลีกนี้ เขาเรียนระดับประถมและมัธยมจาก prep school ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนที่ราคาแพงหูฉี่ที่รัฐบ้านเกิดของเขาที่แมรีแลนด์...โดยมีผลการเรียนดีเลิศ ถึงขนาดได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ในวันรับประกาศนียบัตรจบมัธยมปลาย

ชื่อของเขาคือ Luigi Mangione เป็นชื่อแบบอิตาเลียน เพราะเขามาจากครอบครัวที่มั่งคั่งมากตระกูลเชื้อสายอิตาเลียนที่รัฐแมรีแลนด์ ปู่ของเขาเป็นเจ้าของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าใหญ่แห่งรัฐนี้ (พอๆ กับทรัมป์ที่นิวยอร์ก) และตระกูลของเขา ได้เข้าซื้อกิจการ country club ใหญ่ของรัฐแมรีแลนด์ถึง 2 แห่ง และเป็นเจ้าของกิจการดูแลผู้สูงอายุจำนวนหลายสาขาทั่วรัฐแมรีแลนด์…ญาติคนหนึ่งของลูอีจีเป็น สส.(พรรครีพับลิกัน) ประจำสภาฯ ของรัฐแมรีแลนด์

ผู้ว่าฯ จอช ชาปิโร ได้กล่าว (ทำทางหาเสียงล่วงหน้าไว้สำหรับอีก 4 ปีข้างหน้า) ว่า ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันจะต้องไม่ใช้ลูกปืนในการตัดสิน แต่จะต้องหาทางออกร่วมกัน ซึ่งในฐานะผู้ว่าการรัฐ เขาก็กำลังพยายามจัดการเรื่องนี้อยู่

หลักฐานที่มัดแน่นสำหรับมือสังหารนี้คือ ในวันที่เขาถูกจับที่ร้านแมคโดนัลด์ เขายังมีทั้งปืนและเครื่องเก็บเสียง (silencer) อยู่ในเป้ที่เขาพกอยู่ พร้อมใบขับขี่ปลอมที่เขาใช้เป็น ID Card เพื่อแสดงตนในการเข้าพักที่ hostel ที่นิวยอร์กนั้น เขาก็ยังเก็บไว้ในเป้ในขณะที่ถูกจับ พร้อม ID ปลอมอีกหลายใบ

ปลอกกระสุนหลายนัดที่มือปืนใช้สังหารนายไบรอัน ปรากฏมีคำว่า Delay, Deny และ Depose เขียนด้วยหมึกถาวรกำกับอยู่ ซึ่งตรงกับกลยุทธ์ที่บริษัทประกันใช้เบี้ยวกับการจ่ายสินไหมแก่ผู้เอาประกัน จนสร้างความมั่งคั่งให้แก่บริษัท

ราคาหุ้นของบริษัทประกันสุขภาพยักษ์ของสหรัฐฯ ร่วงลงกว่า 6% หลังการลอบสังหารและมีทีท่าว่าจะร่วงลงต่อไป เพราะคดีนี้สร้างความอึกทึกครึกโครมมาก จนน่าจะนำสู่การเปลี่ยนแปลง จากความกดดันของสังคม เพื่อให้เหล่ากองทุนยักษ์ๆ ที่ลงทุนในบริษัทประกันกดดัน ให้บริษัทประกันต้องพยายามไม่ใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนด้วยราคาจ่ายเป็นชีวิตของผู้เอาประกัน…ซึ่งในปัจจุบันถึงขนาดใช้ AI ในการปฏิเสธการจ่ายอย่างเลือดเย็นและไร้ความปรานีใดๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น