xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ตะวันแดง” สาดแสง “แดนมังกร”(ตอนสาม)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 สี จิ้นผิง
“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย” 

ความคิดและคำคมของ“สี จิ้นผิง” เป็นเรื่องที่ชาวโลก กับ “ผู้มีอำนาจที่ดี” (มิใช่ร้ายนะโว้ย!) อยากให้ “ทำ” และ “ตรวจสอบ” อย่างจริงจัง เนื่องด้วยนโยบายต่างประเทศ “สี จิ้นผิง” ดีต่อสังคมโลก..

“สันติภาพเปรียบเสมือนแสงแดดและอากาศ ความสำนึกในสัจธรรมของสันติภาพ ยืนหยัดทัศนะสันติภาพ มุ่งสู่หนทางการพัฒนาสันติภาพ”
“สันติภาพ” นั้น..ต้องเริ่มจากการ “เคารพกันและกัน-ช่วยกัน-ไม่เอาเปรียบกัน ฯลฯ” จริงไหม?
“สีฯ” พูดถึงเรื่องนี้ว่า “ไม่ว่าประเทศใหญ่หรือเล็ก เข้มแข็งหรืออ่อนแอ ร่ำรวยหรือยากจน ก็ควรต้องเป็นผู้ที่ส่งเสริมและพิทักษ์สันติภาพ ไม่ควรด้านหนึ่งสร้างเวที แล้วด้านหนึ่งรื้อเวที แต่ควรร่วมกันเสริมสร้างเวที เพื่อให้ละครที่ดีได้แสดงต่อไป”
ทว่า..วันนี้ “ละครโลก” มีแต่ “นักแสดงจอมโกหก” สังคมโลกจึงมีแต่ “คนพูดอย่าง-ทำอีกอย่าง”
“สีฯ” ชี้ให้เห็นว่า “จักรวาลนี้มีโลกเพียงใบเดียว มนุษยชาติเรามีบ้านร่วมกันเพียงหลังเดียว ต้องร่วมกันสร้างจิตสำนึกชุมชน ชะตาร่วมกันของมนุษยชาติ”
“ผู้นำจีน” คิดเช่นนั้น แต่ “ผู้นำชาติ” ที่เป็น “ทุนนิยมสามานย์” มิได้คิดเช่นนั้นเลยนี่หว่า..จริงไหม?

แถม “สีฯ” ยังมอง “โลกสวย” ว่า ต้อง “ทำขนมเค้กก้อนใหญ่ แบ่งปันกันอย่างยุติธรรม เพื่อให้เกิดโอกาสที่เท่าเทียมกัน”
“สี จิ้นผิง” คิดอย่างนั้นจริงรึเปล่า? แล้ว “ผู้นำมหาอำนาจโลกชาติอื่นๆ” คิดเหมือน “สีฯ” อ๊ะป่าว?
“สี จิ้นผิง” ย้ำต่อ.. ทั้งๆ ที่โลกจริงยากจะเป็นดั่ง “สีฯ จินตนาการ”..

“มหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ไพศาล มีที่ว่างเพียงพอสำหรับประเทศใหญ่อย่างจีนและอเมริกา ประเทศจีนและอเมริกา ควรปฏิบัติต่อกันด้วยจิตใจที่กว้างขวาง”
แต่! “ผู้นำมะกัน” ทั้งเก่าและใหม่อย่าง “ไบเดน” กับ “ทรัมป์” กลับร้องเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” เพราะยังมอง “มังกรจีน” เป็น “ศัตรูหมายเลขหนึ่ง”
“อินทรีมะกัน” ยังคงเดินหน้า “ปิดล้อมจีน” แทบทุกด้าน! “สันติภาพโลกจึงง่อนแง่น” ศานติสุขจึงไม่มีวันเกิดขึ้นจริง? แม้ “สีฯ” จะพูดย้ำแล้วย้ำอีกจนคอแห้งว่า...

“คำพูดและการกระทำเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้ปฏิบัติการที่เป็นจริง คำสัญญานับพัน ไม่สำคัญเท่าการปฏิบัติ ที่ผลเป็นจริงเพียงครั้งเดียว เราควรให้ประเทศกลุ่ม G20 เป็นขบวนการปฏิบัติการ ไม่ใช่เป็นเพียงห้องสนทนา”
“ประชาคมโลก” ต้องการ “สันติภาพ” ต้องการ “การทำจริง” มิใช่มีแต่ “คำพูด” ที่ทำให้ “สังคมโลกมีอันตราย”

“สี จิ้นผิง” ยังทำตัวเป็น “หมอ” โดยได้ปราศรัยในที่ประชุม “สุดยอดผู้นำกลุ่ม G20” เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2558 ว่า

“ค้นหาสาเหตุของโรค ใช้ยาให้ตรงกับโรค การเป็นเวทีหลักของความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศกลุ่ม G20 ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน มีทิศทางที่แน่นอน และแสดงบทบาทของความเป็นผู้นำ”

“สีฯ” รู้ดีว่า “ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง” เพราะแม้ “ชาติจีน” จะ “OK สันติภาพ” แต่ “อินทรีมะกัน” กับ “ชาติยุโรป” ยังตะโกนเสียงเดียวกันว่า “NO สันติภาพ!”

เพราะถ้ามี “สันติภาพ” มะกันกับชาติตะวันตกก็ “ขายอาวุธไม่ได้” เรื่อง “สันติภาพ” นั้น “มะกันกับชาติตะวันตก” จึงตอบตรงกันว่า “NO WAY โว้ย!!!”

ปี พ.ศ.2556 “สีฯ” เกิดไอเดียสร้าง“แถบหลักเส้นทางสายไหมใหม่” เป้าหมายหลักคือ ขนส่ง “คน” กับ “สินค้าจีน” ไปสู่ “โลก”
จีนเรียกโครงการ “ขบวนขนส่ง” นี้ว่า “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” โดย “สีฯ” ได้ปราศรัย ณ รายการ “เวทีเศรษฐกิจโลก” ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2560 ว่า
“ประเทศจีนเคยวิตกกังวล ต่อปัญหาเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์เช่นกัน และมีความไม่สบายใจในการเข้าร่วมขบวนการการค้าสากล แต่พวกเราเชื่อว่า ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจในประเทศจีนต้องการขยายตัว ก็ต้องกล้าที่จะแหวกว่ายในทะเลมหาสมุทรของตลาดโลก ถ้าหากไม่กล้าฟันฝ่าพายุฝน ก็อาจต้องจมน้ำดับสูญไปท่ามกลางมหาสมุทร ดังนั้น ประเทศจีนจึงก้าวสู่ตลาดโลกอย่างกล้าหาญ ในกระบวนการเช่นนี้ เราเคยสำลักน้ำ เราเคยเจอกับวังน้ำวน เคยเจอกับพายุคลื่น แต่เราก็ได้รับการฝึกฝนท่ามกลางการแหวกว่ายอยู่กลางทะเล นี่คือการกำหนดยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง”
และด้วย “ผู้นำจีน” ห่วง “ปัญหาของโลก”สี จิ้นผิง” จึงกล่าวในการประชุมสุดยอด“เพื่อการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ” ในวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2558 ว่า

“เหลียวมองดูโลกโดยรอบ สันติภาพและการพัฒนา ยังเป็นหัวข้อหลักในยุคสมัยนี้ หากจะแก้ไขปัญหาที่มีลักษณะท้าทายของสถานการณ์ให้ได้ดีนั้น รวมทั้งวิกฤตผู้อพยพที่เกิดขึ้นในยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ ทางออกพื้นฐานที่สุดก็คือ แสวงหาสันติภาพและทำการพัฒนาที่เป็นจริง การเผชิญหน้ากับการท้าทายและอุปสรรคนานัปการ เราต้องยึดกุมกุญแจแห่งการพัฒนาดอกนี้ไว้ให้มั่น มีเพียงการพัฒนาเท่านั้น จึงจะขจัดปัญหารากเหง้าของความขัดแย้งและการปะทะ มีเพียงการพัฒนาเท่านั้น จึงเป็นหลักประกันอำนาจของประชาชนโดยพื้นฐาน มีเพียงการพัฒนาเท่านั้น จึงจะทำให้ประชาชนได้รับความพึงพอใจต่อความใฝ่ฝันที่ดีงามในชีวิต”

“สีฯ” จึงนำยุทธศาสตร์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีนมาปฏิบัติในวันนี้ แม้ “สีฯ” จะขยายความอย่างตรงไปตรงมา ในพิธีเปิดงาน “สัมมนายุทธศาสตร์จีนอเมริกา” และการ “เสวนาทางเศรษฐกิจ” ครั้งที่ 6 รวมทั้งการแลกเปลี่ยน “ทางวัฒนธรรมระดับสูงจีนอเมริกา” ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2557 ว่า...

“ฟ้ากว้างให้นกบิน ทะเลกว้างให้ปลาว่าย ฉัน(สีฯ)เชื่อว่า มหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล มีที่ว่างเพียงพอสำหรับประเทศใหญ่อย่างจีนและอเมริกา ระหว่างจีนและอเมริกาควรจะเน้นหนักการเจรจา เพื่อความเชื่อถือต่อกัน ขจัดความระแวงสงสัย ส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อเป็นหลักประกันความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอเมริกา และสร้างสรรค์เส้นทางความสัมพันธ์แบบใหม่ของประเทศมหาอำนาจ”

“สีฯ” ยังขยายความต่อว่า..

“ประเทศจีนพยายามเชื่อมต่อ ระหว่างสองฝั่งของมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อผลประโยชน์ทางการร่วมมือ มหาสมุทรมีพื้นที่กว้างขวาง เพราะไร้สิ่งกีดขวางทางธรรมชาติ และมนุษย์เราก็ไม่ควรสร้างสิ่งกีดขวางใดๆขึ้นมา เราควรจะส่งเสริมความเป็นผู้นำ และการประสานงานของเอเปค ส่งเสริมความอะลุ่มอล่วย รักษาความร่วมมือแบบ Win-Win”

โดย “สีฯ” ยืนยันทัศนคติของตัวเองอย่างหนักแน่นว่า..
“ประเทศจีนจะยืนหยัดยุทธศาสตร์ Win-Win ต่อไป อาศัยโอกาสในการพัฒนาของตนเอง แบ่งปันให้กับทุกประเทศในโลกนี้ ยินดีต้อนรับทุกประเทศ ร่วมเดินทางในขบวนรถแล่นตามลมขบวนนี้ของประเทศจีน”

โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” นั้น เดินหน้าทั้ง “ทางราง-ทางเรือ-ทางอากาศ” โดย “สีฯ” อ้างยึดถือหลักการร่วมหารือ ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมแบ่งปัน ไม่ใช่การปิดกั้น แต่เป็นการปลดปล่อยและอะลุ่มอล่วย ไม่ใช่การบรรเลงเพลงเดี่ยวของประเทศจีน แต่เป็นการร้องเพลงหมู่ร่วมกันของนานาประเทศ ตามเส้นทางสายนี้...
“สีฯ” ยังได้ประกาศก้องว่า “ประชาชนจีนไม่หลงในอธรรมและไม่กลัวอธรรม ไม่แส่หาเรื่องและไม่กลัวมีเรื่อง ยืนหยัดเดินบนถนนทางการพัฒนาที่สันติ และปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ นี่คือความเป็นเอกภาพของวิภาษวิธี”
และ..นี่คือ “จุดยืน” ที่แข็งกร้าวของ “สีฯ” หรือของ “จีน” นั่นเอง!
แล้ว “ผู้นำมะกัน” และ “ชาติตะวันตก” ตกใจกลัว “สีฯ” ไหม?
แม้จะรู้ว่า วันนี้ “มังกรจีน” แข็งแกร่งขึ้นแทบทุกด้าน เศรษฐกิจจีนดีวันดีคืน จะขึ้นเป็น “ชาติอันดับหนึ่งของโลก” แทน “มะกัน” แล้ว แถมเทคโนโลยีหลายมิติ “จีน” ก็ล้ำหน้าเหนือ “ชาติตะวันตก” ไปเรียบร้อย “การทหารจีน” พัฒนาล้ำหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทางด้าน “การเมือง” ชาติต่างๆ ก็หันมาชื่นชม “จีน” มากขึ้นเรื่อยๆ

กระนั้นก็ตาม..“ชาติตรงข้ามจีน” ยัง “คิด” และ “เชื่อ” ว่า “จีน” กำลัง “ขยายอิทธิพล” กับชาติต่างๆ ที่เคยอยู่ภายใต้การ “ครอบงำ” ของ “มะกันกับชาติตะวันตก” นี่หว่า.. แถม “มังกรจีน” ไปจับมือเป็นหนึ่งเดียวกับ “หมีขาวรัสเซีย” เสียอีก! “จีน” จึงยังเป็น “ศัตรูหมายเลขหนึ่ง” ของ “ชาติตะวันตก”!

“สี จิ้นผิง” คงอยากจะเตือนว่า “เป่าไฟในตะเกียงของผู้อื่นดับลง อาจจะเผาไหม้หนวดเคราของตนเอง”..ระวังนะว้อย!!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น