xs
xsm
sm
md
lg

ต้องแข็งกร้าวและภักดีต่อทรัมป์เท่านั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


อีลอน มัสก์
เป็นสองคุณสมบัติที่ปธน.คนที่ 47 ของสหรัฐฯ ได้ตั้ง Bar เอาไว้เพื่อคัดเลือกเหล่าชาวรีพับลิกันที่เก่งและเด่นจะมาร่วมครม. และคณะทำงาน (เช่น เป็นที่ปรึกษา รวมทั้งเหล่าข้าราชการระดับสูงตามกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ รวมทั้งผบ.เหล่าทัพทั้งปวง)

เพราะในสมัยแรกที่เป็นปธน. เขาได้เชิญเหล่าคนเก่งเด่นดังของรีพับลิกันมาร่วมงาน แต่คนเหล่านั้นไม่ยอมทำตามที่ทรัมป์สั่ง และบางคนมีทีท่าดูถูกทรัมป์ที่บุ่มบ่ามมาจากภาคธุรกิจ จนไม่เข้าใจถึงวิถีปฏิบัติทางราชการ และหลายคนแอบนินทาเขาในที่ลับหลัง; ถึงกับมีการรั่วไปถึงสื่อด้วยซ้ำ

ไม่ว่าจะเป็น รมต.ต่างประเทศคนแรกคือ ซีอีโอของบ.น้ำมันยักษ์ของโลก นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ซึ่งถึงกับออกอาการ “กลอกตา” ล้อเลียนทรัมป์ เมื่อทรัมป์ดำเนินการประชุมครม....รวมทั้งนายพล 4 ดาว เจมส์ แมตทิส (หรือแมด ด็อก) ที่เป็นรมต.กลาโหม ที่มองว่าทรัมป์เป็นจอมทัพที่ไม่น่าเชื่อถือ...และ Chief of Staff อย่างนายพลนาวิกโยธิน 4 ดาวที่ลูกชายเป็นทหารตายในสงครามอิรัก ที่ทนทรัมป์ไม่ไหวถึงกับคาบเอามาบอกสื่ออย่างนายบ็อบ วูดเวิร์ด ว่า นายทรัมป์เป็นฟาสซิสต์ที่น่ากลัวมาก...

สมัยที่สองของทรัมป์ที่ได้คะแนนถล่มทลาย ทั้งแบบ Electorate และแบบ Popular ทำให้เขามีการเตรียมตัวก่อนเข้าทำเนียบขาวดีกว่าครั้งก่อน

เขาได้เลือกคุณป้าซูซี่ ไวลส์ ที่อายุถึง 67 ปี รูปร่างใหญ่โตและหน้าตาท่าทางละม้ายกับคุณแม่แมรี่ของทรัมป์ซะด้วย...ชะรอยว่าคุณป้าซูซี่นี้ดูจะมีวิธีที่สามารถกำกับทรัมป์ให้อยู่ในร่องในรอยได้ดีกว่าท่านนายพลจอห์น เคลลี่ ที่ได้ถอดใจลาออกจากตำแหน่งหลังอยู่กับทรัมป์ได้แค่ 1 ปีเท่านั้น

คุณป้าซูซี่ ไวลส์ เป็นผู้หญิงที่เคยทำงานในทำเนียบขาวสมัยของปธน.เรแกน และมีส่วนผลักดัน สส., สว.ผู้ว่าการฯ ของรัฐฟลอริดาจนได้ชัยชนะเลือกตั้งมาหลายคน เธอมีวิธีการพูดตักเตือนทรัมป์แบบแยบยล จนทรัมป์ยอมใจอ่อน...ต่างกับคุณป้าแนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมแครต ที่เป็นประธานสภาผู้แทนฯ ของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้หญิงคนแรก ที่จะปะฉะดะกับทรัมป์จนทรัมป์ตั้งฉายาเรียกเธอว่า Crazy Nancy (หรือยายบ้าแนนซี…เป็นการดูถูกเหยียดหยามผู้หญิงที่มีตำแหน่งใหญ่ถึงประธานสภาผู้แทนฯ ทีเดียว!)

คุณป้าซูซี่ ไวลส์ มีบทบาทสำคัญมากที่ทำให้ทรัมป์ชนะในครั้งนี้ ทั้งๆ ที่ทรัมป์เป็นรองกมลา แฮร์ริส เมื่อเดือนกันยาฯ ตอนที่พรรคเดโมแครตจัดประชุมใหญ่เปิดตัวกมลาลงสมัคร

คุณป้าซูซี่ มีบริษัทล็อบบี้ยิสต์ของเธอเองที่ฟลอริดา และได้ร่วมงานกับทรัมป์ในช่วงนี้ที่ทรัมป์เปิดตัวลงแข่งขันใน Primary เพื่อเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกัน…เธอทำงานอย่างถวายชีวิตด้วยความภักดีต่อทรัมป์อย่างสุดๆ และกล้ากำกับไม่ให้ทรัมป์เล่นหรือพูดนอกบทได้สำเร็จ ด้วยวิธีนุ่มนวลและไม่ฉีกหน้าเขา ทำให้ทรัมป์ตีตื้นขึ้นมาจากคะแนนเป็นรองกมลา จนแซงกมลาอย่างชนิดไม่เห็นฝุ่นทีเดียว...ดังนั้น คุณป้าซูซี่ จึงเป็นชื่อแรกที่ทรัมป์ตั้งให้ดำรงตำแหน่ง Chief of Staff ที่จะเป็นผู้คุมคณะทำงานเลขานุการให้แก่ทรัมป์ที่ทำเนียบขาว และคอยกลั่นกรองผู้ที่จะเข้าพบปธน.ทรัมป์ที่ห้องรูปไข่ รวมทั้งการประสานงานระหว่างปธน.กับสภาฯ หรือทุกๆ คนที่จะมีนัดกับปธน.ใน Function ต่างๆ

ผู้หญิงอายุแค่ 40 ที่จะมาแทนนิกกี้ เฮลีย์ ในตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ ก็เป็น สส.ของรัฐนิวยอร์กที่เป็นรีพับลิกัน เธอเป็นฝ่ายแข็งกร้าวด้านนโยบายสหรัฐฯ ต่อจีน (China Hawk) เช่นเดียวกับทรัมป์ และเธอมั่นคงสนับสนุนภักดีต่อทรัมป์มาตลอด จึงได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งนี้ที่จะเป็นตัวแทนของทรัมป์ที่ยูเอ็น (ในขณะที่มีฝ่ายรีพับลิกันสายกลาง ที่พยายามล็อบบี้ให้ทรัมป์เลือกนิกกี้ เฮลีย์ มาช่วยอีกครั้ง และนิกกี้ก็ได้เปิดทางพร้อมช่วยทรัมป์หาเสียง และได้ขึ้นร่วมปราศรัยสนับสนุนทรัมป์ ในการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเมื่อเดือนกรกฎาคม...แต่ทรัมป์มองว่า นิกกี้ไม่ภักดีต่อเขา เพราะได้วิจารณ์ทรัมป์อย่างสาดเสียเทเสียในช่วงต้น)

ว่าที่รองปธน.เจ.ดี. แวนซ์ ก็เคยวิพากษ์ว่าทรัมป์เป็นเหมือนเผด็จการฮิตเลอร์...แต่ได้กลับตัวทัน แล้วหันมาซบจงรักภักดีต่อทรัมป์อย่างถวายชีวิต โดยบิดไปว่า เขาเปลี่ยนใจมาชื่นชมทรัมป์หลังจากทรัมป์เข้ามาเป็นปธน.สมัยแรก ทำให้เขาชื่นชมทรัมป์ทั้งในเรื่องส่วนบุคคลและเรื่องนโยบาย เขาพูดแก้ต่างให้กับทรัมป์ในแทบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเห็นด้วยกับนโยบายแข็งกร้าวกับแรงงานอพยพที่ฝ่ายปธน.ไบเดน และกมลาใช้นโยบาย “เปิดพรมแดน”...เขาช่วยพูดแทนทรัมป์โดยอธิบายเป็นรูปธรรมถึงนโยบายเนรเทศคนงานอพยพผิดกฎหมาย ว่าจะต้องเนรเทศทันที 1 ล้านคน และทำให้ทรัมป์เป็นที่ถูกใจของผู้ใช้แรงงานทั้งผิวขาว ผิวสีที่แห่มาเทคะแนนให้ทรัมป์

อีกหลายๆ ตำแหน่งที่เขาทยอยประกาศออกมา จะเป็นชาวรีพับลิกันที่หัวแข็งกร้าวไม่ประนีประนอม ไม่ใช่รีพับลิกันที่อยู่กลางๆ (moderate) โดยจะต้องเป็น China Hawk หรือกร้าวกับอิหร่าน และพร้อมค้าขายร่วมมือกันเฉพาะมิตรของอเมริกา; ที่สำคัญคือ ต้องภักดี 100% ต่อทรัมป์เท่านั้น ห้ามหน้าไหว้หลังหลอก

ว่าที่ รมต.ต่างประเทศของทรัมป์คือ สว.หน้ามนเชื้อสายคิวบา ที่เคยวิพากษ์ทรัมป์อย่างสาดเสียเมื่อแข่งกันโต้วิสัยทัศน์เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาคือ สว.มาร์โก รูบิโอ แห่งรัฐฟลอริดา ซึ่งบนเวทีโต้วิสัยทัศน์ครั้งนั้น มาร์โก กล่าวหาว่าทรัมป์เป็น Con man คือนักหลอกลวง ต้มตุ๋น ไม่น่าเชื่อถือใดๆ แต่พอทรัมป์ชนะเลือกตั้งเป็นปธน.คนที่ 45…มาร์โกรีบเข้าไปซบกับทรัมป์ทันที และเห็นด้วยเต็ม 100 กับนโยบายกีดกันปิดล้อมจีนทุกมิติ รวมทั้งเป็น Iran Hawk ด้วยเหมือนทรัมป์ และมีส่วนช่วยทรัมป์หาเสียงในหมู่ชาวละตินฮิสแปนิกจนชนะและสามารถดึงคนกลุ่มน้อยนี้ออกมาจากพรรคเดโมแครตได้มากทีเดียว

วิธีสร้างความปรองดองในชาติของฝ่ายเดโมแครต อาจใช้วิธีดึงคนรีพับลิกันที่เป็นสายกลางและเด่นดังมาร่วม ครม.อย่างที่ปธน.บิล คลินตัน, ปธน.โอบามา ได้ตั้งคนของรีพับลิกันเป็นรมต.กลาโหม เป็นต้น และซึ่งกมลา แฮร์ริส ก็ได้ประกาศจะมีรมต.ที่เป็นคนของพรรครีพับลิกัน

แต่สำหรับทรัมป์ ความจงรักภักดีต่อตัวเขาจะสำคัญที่สุด เพื่อทำตามนโยบายที่เขาได้สัญญาเอาไว้

อีลอน มัสก์ เป็นอีกคนที่จะเข้าร่วมงานกับทรัมป์ อาจเป็นรมต.หรือเป็นประธานคณะกรรมการเพิ่มประสิทธิภาพแห่งชาติ เพราะเขาได้พิสูจน์ถึงการร่วมหัวจมท้ายมอบความภักดีให้แก่ทรัมป์อย่างสุดๆ บริจาคให้ทรัมป์หาเสียงอย่างต่ำกว่า 200 ล้านเหรียญ และมีความกร้าวในนโยบายที่ทรัมป์หาเสียงอย่างชนิดเป็นปี่เป็นขลุ่ยทีเดียว

ทรัมป์มีลิสต์ของคนที่เขาจะแก้แค้นมากมาย ขณะเดียวกัน ก็มีรายชื่อที่เขาจะตอบแทนบุญคุณแก่คนที่จงรักภักดีต่อเขา และมีนโยบายแข็งกร้าวเช่นเดียวกับเขา

ช่างเหมือนกับคนป่วยที่ชั้น 14 ยังกะฝาแฝดกัน!!


กำลังโหลดความคิดเห็น