ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปัจจุบันจำนวนประชากรหมาและแมวจรจัดไม่สามารถระบุได้แน่ชัด มีเพียงข้อมูลเก่าอ้างอิงจากกรมปศุสัตว์ ปี 2562 ระบุว่ามีหมาแมวจรจัดเหล่านี้จะอยู่ที่ 3.6 ล้านตัว ขณะที่ ปี 2559 บอกว่า จำนวนหมาแลแมวจรจัดอยู่ที่ 1.2 ล้านตัว หากเทียบจากสถิติจะเห็นว่าจำนวนหมาแมวจรจัดมีแนวโน้มสูงขึ้น
การเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์จรจัดเป็นปัญหาสังคมที่ต้องจับตา เพราะสร้างปัญหาทางด้านสาธารณสุขกระทบต่อสุขอนามัยภายในเมือง การแพร่เชื้อติดต่อจากสัตว์จรสู่สัตว์เลี้ยงหรือสู่มนุษย์ รวมทั้ง สัตว์จรจัดอาจก่อเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญ ประการสำคัญสะท้อนปัญหาในแง่สวัสดิภาพสัตว์ของไทย
ล่าสุด ที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) มีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติ เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. …เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการเสนอร่างดังกล่าวให้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยจะมีผลบังคับใช้วันถัดไปหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 360 วัน
สำหรับสาระสำคัญ ประกอบด้วย เรื่องการควบคุมการเลี้ยงสุนัขและแมว โดยให้ กทม. เป็นเขตห้ามเลี้ยงสุนัขและแมวเกินจำนวนที่กำหนด เช่น พื้นที่คอนโด-อาคารชุดหรือห้องเช่า 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว (หากเกิน เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว), ที่ดิน ไม่เกิน 20 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว, ที่ดิน 20-50 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว, ที่ดิน 50-100 ตร.วา เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว, ที่ดิน 100 ตร.วา ขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว
เรื่องใบรับรองการจดทะเบียนสัตว์เลี้ยง เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปทำเครื่องหมายระบุตัวอย่างถาวรจากสัตวแพทย์ โดยการฝังไมโครชิปตามมาตรฐานที่ กทม.กำหนด พร้อมนำใบรับรองไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขสำนักอนามัยหรือสำนักงาน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการกำหนดสุนัขควบคุมพิเศษ ประกอบด้วย พิตบูลเทอร์เรีย บูลเทอร์เรีย สเตฟอร์ดเชอร์บูลเทอร์เรีย รอตไวเลอร์ ฟิลาบราซิเลียโร รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 ซม. ตลอดเวลา
นายนภาพล จีระกุล สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า จะมีการใช้ข้อบังคับให้สุนัขและแมวต้องมีการฝังไมโครชิป เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลรับผิดชอบ ซึ่งจะแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงสำนักอนามัยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน หน่วยงานจะนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขของ กทม.ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ ส่วนกรณีที่ต้องการเลี้ยงเป็นคู่เพื่อผสมพันธุ์สัตว์หรือประกอบธุรกิจนั้น สามารถขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข
“เมื่อข้อบัญญัติฯ นี้ได้ประกาศใช้ จะสามารถแก้ไขปัญหาสัตว์เลี้ยง สัตว์จรจัด สัตว์ดุร้ายที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญในกรุงเทพมหานครได้ เพื่อทำให้กรุงเทพมหานครมีความปลอดภัยกับประชาชน” นายนภาพล กล่าว
หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หมวดที่ 8 ข้อ 34 และจะมีการใช้ข้อบังคับให้สุนัขและแมวต้องมีการฝังไมโครชิป เพื่อให้ทราบเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องดูแลรับผิดชอบอีกด้วย ซึ่งจะลดและแก้ปัญหาสัตว์เลี้ยงสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น รวมถึงสำนักอนามัยมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์จรจัดในแต่ละพื้นที่เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัด และในส่วนของสุนัขที่มีความดุร้ายสร้างความเดือดร้อน หน่วยงานของกรุงเทพมหานครจะนำไปไว้ที่ศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขกรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตประเวศ ส่วนกรณีที่ต้องการเลี้ยงเป็นคู่เพื่อผสมพันธุ์สัตว์หรือประกอบธุรกิจนั้น สามารถขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์หมาแมวจรจัดปัญหาเรื้อรังในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ รองผู้อำนวยการสำนักอนามัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักอนามัย เปิดเผยว่าข้อสังเกตพบประชาชนทิ้งสุนัขในที่สาธารณะมากขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโรคพิษสุนัขบ้า
ทั้งนี้ สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ ปัจจุบันไม่พบผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้ามาเป็นเวลา 8 ปีแล้ว โดยพบผู้เสียชีวิตรายสุดท้าย เมื่อ 7 ก.ย. 2559 ที่เขตบางนา ส่วนข้อมูลในสัตว์ปี 2563 และปี 2564 ไม่พบสุนัขบ้า ปี 2565 พบ 2 ตัว ปี 2566 พบ 15 ตัว และปี 2567พบ 1 ตัว เมื่อ 5 มี.ค. 2567 ที่เขตหนองจอก ซึ่งพื้นที่พบโรคเป็นเขตรอยต่อกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังและควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า
อย่างไรก็ตาม กทม. มีนโยบายแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยการขึ้นทะเบียนสัตว์เลี้ยงตลอดช่วงชีวิต และการแก้ไขปัญหาสัตว์จรผ่านการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยมีแนวทางการแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดซึ่งเป็นสัตว์พาหะนำโรคพิษสุนัขบ้า โดยร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษาภาคเอกชน และมูลนิธิองค์กรต่างๆ เกี่ยวกับสัตว์ บริหารจัดการแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ดังนี้
1.ป้องกันการทอดทิ้งสัตว์มีเจ้าของ โดยขับเคลื่อนการจดทะเบียนสุนัขมีเจ้าของเลี้ยงในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่องการควบคุมการเลี้ยง หรือปล่อยสุนัข พ.ศ. 2548 ซึ่งนอกจากจะสามารถติดตามหาเจ้าของเมื่อสุนัขพลัดหลงแล้ว ยังช่วยป้องกันการทิ้งสุนัข รวมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจ ในการเลี้ยงสัตว์ที่ถูกต้องเหมาะสม “คิดก่อนเลี้ยง เลี้ยงด้วยความรู้ ดูแลด้วยความรักและรับผิดชอบ และเลี้ยงดู ตลอดจนสิ้นอายุขัย”
2. ควบคุมการเพิ่มจำนวนเละแก้ไขปัญหาจากสัตว์จรจัด โดยการออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเชิงรุกใน 50 เขต ให้บริการที่คลินิกสัตวแพทย์กทม. 8 แห่ง ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2567 ผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว 64,669 ตัว ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 209,085 ตัว และแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสุนัขและแมว ขับเคลื่อนการสร้างสัตว์ชุมชนเพื่อให้เกิดความมีส่วนร่วมของคนและสัตว์ในการอยู่ร่วมกันในชุมชน โดยดำเนินการผ่าตัดทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรค และปล่อยกลับคืนพื้นที่เดิมโดยไม่เพิ่มจำนวนเมื่อเวลาผ่านไปจำนวนจะลดลงจากการเสียชีวิตตามอายุขัย ตามแนวทาง TNVR (Trap-Neuter-Vaccinate-Return) ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาสัตว์จรจัดตามหลักสวัสดิภาพสัตว์อย่างยั่งยืน
และ 3.การดูแลสัตว์จรจัดที่เข้ามาในศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัข กทม.ให้เป็นตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ และหาผู้อุปการะให้แก่สัตว์จรจัดแทนการซื้อหาสัตว์ใหม่มาเลี้ยง (Adopt not Shop) โดยร่วมกับเครือข่ายมูลนิธิ สมาคม และชมรมต่างๆ ทำกิจกรรมหาผู้อุปการะสุนัขและแมวจรจัดจากศูนย์ควบคุมสุนัข กทม. ในแคมเปญ “OOH4Paws” ผ่านสื่อโฆษณา เพื่อเพิ่มโอกาสในการหาบ้านใหม่ให้กับสุนัขและแมวจรจัด
นอกจากนี้ สนอ. ยังจัดหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ผ่าตัดทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเชิงรุกทุกวันทำการและวันหยุดราชการ ประชาชนสามารถติดตามแผนการออกหน่วยฯ ได้ที่เฟซบุ๊ก “กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข สำนักอนามัย” และสำนักงานเขตพื้นที่ รวมทั้งลงพื้นที่ร่วมกับชุมชนนำสุนัขและแมวจรจัดเข้ารับการผ่าตัดทำหมัน ฉีดวัคซีนป้องกันโรคฯ และทำสัญลักษณ์ ก่อนปล่อยกลับคืนพื้นที่เดิม เพื่ออยู่ร่วมกับชุมชน พร้อมประชาสัมพันธ์พบเห็นสัตว์จรจัดสงสัย หรือสัมผัส โรคพิษสุนัขบ้า สามารถติดต่อที่ โทร. 02-2487417 หรือสายด่วน กทม. 1555 กรณีสุนัขและแมวจรจัดกัดทำร้ายคนมีพฤติกรรมดุร้าย มีความเสี่ยงไม่ปลอดภัยหรือก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญ สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-3287460
หลังมีการเร่งเครื่องแก้ปัญหาหมาแมวจรจัดในพื้นที่เมือง ทำคลอดข้อบังคับว่าด้วยการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ คงต้องติดตามว่ากลไกแก้ปัญหาสัตว์จรจัดและกำกับดูแลสวัสดิภาพสัตว์เลี้ยง จะคลี่คลายสถานการณ์สัตว์จรจัดได้มากน้อยเพียงใด สุดท้าย ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีคนทอดทิ้งสัตว์เลี้ยงซ้ำเติมสถานการณ์ปัญหาหมาแมวจรอยู่จำนวนหนึ่ง