ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล
ระหว่างที่อยู่ในห้องผู้ป่วยของหัวหน้า ตม.นั้น ผู้เป็นหัวหน้าได้แต่ปลอบใจคนขับรถที่นั่งน้ำตาคลอด้วยรู้สึกผิดที่ตนทำให้หัวหน้าตกอยู่ในอันตราย ซึ่งเป็นใครก็ต้องคิดอย่างนั้น จากนั้นท่านก็กล่าวกับพวกเราว่า ท่านเองก็ต้องขอโทษพวกเราคนไทยสองคนที่คนขับรถของท่านพาไปเจออุบัติเหตุ
จากนั้นท่านก็เล่าว่า สาเหตุที่คนขับรถหลับในนั้นก็เพราะท่านได้บอกเขาว่า หลังมื้อเที่ยงแล้วให้ขับรถต่อ ซึ่งตามปกติแล้วจีนจะพักเที่ยงเป็นเวลาสองชั่วโมง และคนจีนมักจะใช้เวลาที่เหลือหลังอาหารมื้อเที่ยงนอนหลับพักผ่อน กิจวัตรนี้ถือเป็นเรื่องปกติของคนจีนแทบจะทั่วประเทศมานานจนติดเป็นนิสัย
เพราะฉะนั้นแล้วเที่ยงวันนั้นคนขับรถของท่านจึงไม่ได้นอนพักเที่ยง โดยท่านให้เหตุผลว่า ท่านรู้มาว่าที่เมืองไทยพักเที่ยงหนึ่งชั่วโมง ท่านจึงต้องปรับตัวท่านและทีมงานให้เข้ากับพวกเราด้วยการไม่พักเที่ยงแบบจีน หาไม่แล้วพวกเราคนไทยจะเคว้งคว้างไม่รู้ว่าจะไปพักเที่ยงกับเขาที่ไหน
จากเหตุนี้ คนขับรถของท่านจึงไม่ได้นอนพักเที่ยง จึงทำให้ระหว่างขับรถหลังอาหารเที่ยงเกิดอาการหลับในขึ้นมาจนเกิดอุบัติเหตุ
ผมซึ่งรู้เรื่องการพักเที่ยงสองชั่วโมงของคนจีนมานานจึงได้ตระหนักว่า ที่ผ่านๆ มาตั้งแต่มาเมืองจีนครั้งแรกจนถึงวันนั้น คนจีนทุกคนที่มาดูแลพวกเราต่างต้องปรับตัวกันพร้อมหน้า ซึ่งจะว่าไปแล้วต้องนับว่าเสียสละอย่างมาก และทำให้ผมรู้สึกผิดอยู่ในใจลึกๆ ที่ไม่ได้เฉลียวใจในเรื่องนี้มาก่อน
พอรู้เช่นนั้นแล้วผมจึงได้แต่ขอโทษท่านที่มีส่วนทำให้เดือดร้อน ท่านก็ว่า ไม่ใช่ความผิดของเราเลย คนจีนต่างหากที่ต้องปรับตัว หาไม่แล้วก็คงยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับชาวโลกที่ส่วนใหญ่ต่างพักเที่ยงกันหนึ่งชั่วโมง ดังนั้น ตั้งแต่จีนเปิดประเทศเป็นต้นมาคนจีนต่างก็ปรับตัวกันขนานใหญ่ โดยเฉพาะกับธุรกิจภาคบริการอย่างเช่นการท่องเที่ยวนั้น ขืนพักเที่ยงสองชั่วโมงแล้วนักท่องเที่ยวคงหายหมดแน่
พูดถึงเรื่องนี้แล้วก็ขยายความต่อว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อราว 20 ปีก่อนเห็นจะได้ จีนมีการถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างกว้างขวาง เพราะเป็นเรื่องที่มีปัญหาจริงๆ เช่น พอภาคธุรกิจจีนเติบโตมากขึ้นก็จะติดต่อกับต่างชาติมากขึ้น และทำให้ชาวต่างชาติ (รวมทั้งไทยด้วย) โทรศัพท์ทางไกลข้ามประเทศมาคุยธุรกิจกับคนจีนตอนพักเที่ยง แต่ไม่มีใครรับโทรศัพท์เพราะต่างก็นอนหลับพักเที่ยงกันหมด จนทำให้ธุรกิจเกิดการสะดุด เป็นต้น
จากข้อถกเถียงนี้ ได้นำไปสู่การทดลองให้คนจีนในบางเมืองปรับตัวด้วยการพักเที่ยงหนึ่งชั่วโมงเป็นการนำร่อง ทำอยู่นานนับเดือนแต่ก็ไม่สำเร็จ และทำให้การพักเที่ยงสองชั่วโมงต้องยังคงอยู่มาจนทุกวันนี้ แต่ก็ปรับตัวตามความเป็นจริงสำหรับบางหน่วยงานและบางภาคธุรกิจเท่านั้น อย่างภาคราชการที่เกี่ยวข้องกับต่างชาติหรือธุรกิจการค้าน้อยก็ยังคงพักสองชั่วโมงต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่พวกเราจะกลับไปพักที่โรงแรม พวกเราได้ล่ำลาหัวหน้า ตม. ว่าคงไม่ได้เจอกันอีก เพราะพวกเราสี่คนจะต้องเดินทางกลับคุนหมิงในวันรุ่งขึ้นแล้ว แต่ก็มิวายทิ้งท้ายว่า อย่าได้ไปลงโทษอะไรกับคนขับรถเลย ท่านก็ว่าไม่ได้อยู่ในความคิดของท่านเลย พร้อมกับหันไปบอกคนขับรถว่าให้สบายใจได้
ส่วนคนขับรถซึ่งน้ำตายังคลอเบ้าได้แต่โค้งคำนับท่านครั้งแล้วครั้งเล่าทั้งขอโทษและขอบคุณ
วันรุ่งขึ้นพวกเรามาถึงคุนหมิงช่วงบ่ายๆ และพอเสร็จจากอาหารเย็นฝ่ายจีนก็บอกให้เราสองคนพักผ่อนจากอาการบาดเจ็บหนึ่งวัน โดยวันมะรืนนี้จะพาเราไปต้าหลี่ พวกเราก็รับทราบตามนั้น จากนั้นก็อยู่ที่เราสองคนว่าจะใช้เวลาที่เหลือมากๆ ทำอะไร
ผมซึ่งอาการคอแข็งด้วยความเจ็บปวดบอกว่า ตรงข้ามโรงแรมมีหมอนวดตาบอดนับสิบคนน่าที่จะกำลังรอลูกค้าอย่างเราอยู่ จึงควรที่เราจะเข้าไปใช้บริการเผื่ออาการบาดเจ็บของเราจะดีขึ้นบ้าง แล้วเราสองคนก็เดินข้ามถนนตรงรี่ไปยังฝั่งตรงข้ามไปหาหมอนวดตาบอด ที่ต่างก็ใส่เสื้อกาวน์ขาวกันทุกคน
บริเวณที่หมอนวดตาบอดใช้เป็นพื้นที่ให้บริการลูกค้านี้เป็นสวนหย่อมเล็กๆ ทุกคนจะมีเก้าอี้ที่ไม่มีพนักพิงตั้งอยู่หนึ่งตัวเพื่อให้ลูกค้านั่ง โดยมีเสาไฟสาธารณะตั้งอยู่เพียงหนึ่งต้น บริเวณนั้นจึงค่อนข้างมืดสลัว และด้วยสัญชาตญาณของคนตาบอดที่หูมักจะดี หนึ่งในนั้นก็ร้องเสียงดังพอให้ได้ยินว่า ว่าไงสหายต่างชาติ มานวดสักหน่อยไหม จะได้สบายตัว
พอได้ยินผมก็อดอมยิ้มไม่ได้ในสัญชาตญาณนั้น แล้วก็แปลให้เพื่อนไทยฟัง จากนั้นเราสองคนก็เดินเข้าไปหาหมอนวดสองคน แล้วผมก็เล่าถึงสาเหตุและอาการที่เราสองคนเป็นอยู่ พอรู้ความแล้วหมอทั้งสองก็เชิญเรานั่งบนเก้าอี้ที่ว่าคนละตัวโดยหันหลังให้หมอ หมอของผมพูดกับผมว่า ขอให้ผมช่วยแปลสิ่งที่เขาพูดให้เพื่อนไทยของผมฟังด้วย ผมก็รับปาก
หมอบอกว่า ท่านจะเริ่มจากขอจับร่างกายของเราทั้งร่างก่อน เพื่อดูว่าร่างเรามีอะไรผิดรูปไปจากคนทั่วไปหรือไม่ เมื่อพบว่าปกติแล้วท่านก็ว่า จากนั้นท่านสัมผัสไปยังที่ๆ เราเจ็บตั้งแต่กลางศีรษะไล่ลงมาที่คอที่ไหล่จนถึงแผ่นหลัง เมื่อสัมผัสแล้วท่านก็พบว่า เราเจ็บตรงที่เราบอกไปจริงๆ แล้วก็บอกว่าท่านจะเริ่มนวดจากศีรษะลงมาจนถึงไหล่ แล้วพรุ่งนี้ให้มานวดต่อ เราสองคนก็รับทราบตามนั้น
จากนั้นหมอทั้งสองก็ลงมือนวดเราสองคน ตอนที่นวดก็จะบอกไปด้วยว่าเราจะรู้สึกอย่างไร พลันที่ลงมือนวดตรงศีรษะเป็นที่แรกนั้น ผมก็ให้รู้สึกโล่งและมันสะใจเหมือนกับว่าที่หมอกดจับไปนั้นโดนไปหมดทุกจุด ที่สำคัญ การนวดเป็นไปอย่างรวดเร็วจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน แต่ก็รู้สึกดีว่าไม่ได้สักแต่นวด แต่เป็นการนวดเพื่อการรักษาอาการบาดเจ็บจริงๆ
เวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาที หมอก็นวดลงมาถึงบริเวณคอและไหล่ ซึ่งกรณีของผมจะอยู่ที่ซีกซ้ายทั้งหมด และเช่นเดียวกับตอนที่นวดศีรษะ ที่พอนวดไปถึงจุดไหนก็รู้สึกมันสะใจจุดนั้น และการนวดยังเป็นไปรวดเร็ว มีอยู่ตอนหนึ่งหมอบอกว่า ต่อไปนี้จะนวดตรงใต้รักแร้แล้วจะเกิดอาการสั่นสะท้านเหมือนโดนไฟช็อต ซึ่งก็จริงตามนั้น คือมันเหมือนไฟฟ้าวิ่งจากใต้รักแร้ไปจนถึงปลายนิ้วมือทั้งสองข้าง
พอเสร็จจากที่ไหล่การนวดก็จบลง อาการปวดที่ศีรษะหายเป็นปลิดทิ้ง หมอบอกว่า วันนี้จะนวดให้มาจบลงที่ไหล่ พรุ่งนี้จะนวดจากไหล่ไปที่หลัง ท่านให้เหตุผลว่า เนื่องจากเราเพิ่งบาดเจ็บมาจึงไม่ควรที่จะนวดไปทั้งร่างที่เจ็บเพราะจะไม่ดีต่ออาการ แต่ข้อดีของเราคือ การที่เราเพิ่งบาดเจ็บมาใหม่ๆ ทำให้การนวดสามารถรักษาได้ทันการ ถ้ามาช้ากว่านี้หนึ่งสัปดาห์ การนวดเพื่อรักษาจะยากขึ้น
เรารับทราบตามนั้น พอหัวค่ำของวันต่อมาเราสองคนก็ตรงไปหาหมอของเราอีก แต่ด้วยความมืดสลัวผมจึงไม่รู้ว่าหมอคนไหนที่นวดเราสองคนเมื่อคืนนี้ ในขณะที่ผมกำลังบ่นถามหาว่าหมอคนไหนอยู่นั้น หมอตาบอดเจ้าเก่าแต่หูดีของเราก็ร้องว่า สหายชาวไทย เราอยู่ตรงนี้ ว่าแล้วเราสองคนก็หัวเราะแล้วตรงไปหาหมอทั้งสอง
การนวดยังคงรวดเร็วเหมือนเมื่อคืน คราวนี้หมอไล่นวดจากไหล่มาถึงหลัง แต่ยังคงนวดไปยังส่วนอื่นที่ไม่ได้ปวดเหมือนนวดครั้งแรกเช่นกัน เวลาผ่านไปราวสิบนาทีอาการปวดตรงไหล่ก็โล่งหายเป็นปลิดอีก แล้วหมอก็บอกว่า พรุ่งนี้ให้มานวดตรงหลังก็จะเป็นอันจบ
แต่เราบอกว่า พรุ่งนี้จะต้องเดินทางไปต้าหลี่ หมอก็บอกว่า ไม่เป็นไร ที่ต้าหลี่อากาศหนาวกว่าที่คุนหมิงมาก แต่ที่โรงแรมน่าจะมีน้ำอุ่นให้แช่ หมอบอกให้เราแช่น้ำอุ่นให้ถึงกลางหลัง แล้วความร้อนของน้ำอุ่นจะขับให้เลือดลมไหลดีขึ้น แล้วอาการที่หลังก็จะหาย แล้วเราก็ล่ำลาหมอพร้อมกับกล่าวขอบคุณ
งานนี้เราจ่ายค่านวดสองครั้งรวม 20 หยวนหรือ 100 บาท แต่หายเป็นปลิดทิ้งเหมือนมีอภินิหาร