xs
xsm
sm
md
lg

ฮิตเลอร์สั่งฆ่าชาวกาซา ตลอด 365 วันที่ผ่านมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


เบนจามิน เนทันยาฮู คือฮิตเลอร์คนที่สอง
สภาพฉนวนกาซาที่เคยแออัดด้วยชาวกาซา 2.3 ล้านคนในผืนดินแคบๆ วันนี้หลังการบุกฆ่าไม่เลือกหน้าของกองทัพอิสราเอล (ที่มีชื่อไว้หลอกชาวโลกว่าเป็นกองกำลังป้องกันตนเอง แต่กลับเป็นกองกำลังบุกเข้าปล้นดินแดนของชาวปาเลสไตน์เพื่อยึดครอบครองให้เป็นดินแดนของอิสราเอลอย่างผิดกฎหมายระหว่างประเทศ) ได้กลายสภาพเหมือนดินแดนบนพื้นผิวดวงจันทร์ คือปราศจากแหล่งน้ำ (ถูกยิงทำลายหมดแม้แต่แท็งก์เก็บน้ำ หรือทางน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากที่ราบสูงในพื้นที่ใกล้เคียงก็ตาม)

มีแต่เศษอิฐที่พังทลายจากการถูกระเบิดด้วยขีปนาวุธ ที่ยิงมาจากกองทัพของอิสราเอล โดยจงใจทำลายอาคารทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอาคารที่อยู่อาศัยหรือโรงเรียน, หรือโรงพยาบาล, อาคารพาณิชย์, ตลาด, สถานที่ทางศาสนา รวมทั้งบริเวณเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ก็ถูกทำลายสิ้น...เป้าหมายของนายกฯ เนทันยาฮู ซึ่งขณะนี้มีชื่อใหม่ว่าเป็นฮิตเลอร์ผู้ทำลายมนุษยชาติคนที่สอง (ปธน.แอร์โดอันของตุรเคีย ได้กล่าวประณามด้วยชื่อนี้ ที่สมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ ในการประชุมวันแรกของยูเอ็นในต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา) ได้ประกาศก่อนวันที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้วด้วยซ้ำว่า ดินแดนจากแม่น้ำจอร์แดนจนถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ที่ชาวปาเลสไตน์ได้อาศัยอยู่เป็นเวลากว่าพันปี ช่วงก่อนอาณาจักรออตโตมันด้วยซ้ำ) เป็นดินแดนที่พระเป็นเจ้าได้สัญญาว่าเป็นของพวกยิว ซึ่งชาวยิวจากยุโรปและสหรัฐฯ จะต้องกลับมาสร้างบ้านเรือนที่แผ่นดินนี้ ซึ่งจะต้องขับไล่เจ้าของเดิมและเข้ายึดครองให้เป็น Greater Israel ให้จงได้…ไม่ว่าจะต้องทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่จะไปช่วงชิงยึดดินแดนด้วยการฆ่าเจ้าของแผ่นดินเดิมก็ต้องทำ...โดยมีสหรัฐฯ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดที่ส่งทั้งเงิน (ปีละ 3,800 ล้านดอลลาร์หรือ 150,000 ล้านบาท)...ตั้งแต่รัฐบาลโอบามา...และก่อนหน้านั้นทุกๆ รัฐบาลสหรัฐฯ โดยฝีมือของล็อบบี้ยิสต์ชาวอิสราเอลที่ได้ใช้เงินสนับสนุน สส., สว., ผู้ว่าการรัฐ รวมทั้ง ปธน.สหรัฐฯ เพื่อให้ออกกฎหมายที่จะยืนเคียงข้างรัฐอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไข เพื่อให้รัฐอิสราเอลเป็นยาดำอยู่ในดินแดนน้ำมันของตะวันออกกลาง คอยสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอาหรับ และชาวมุสลิมทั้งมวลไม่ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อสหรัฐฯ จะได้ประโยชน์จากการนำน้ำมันออกมาใช้พัฒนากองทัพและเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐฯ ให้เกรียงไกรที่สุดในโลก

เหตุการณ์บุกถล่มของนักรบฮามาสในรุ่งสางของวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ไม่ได้เกิดจากสุญญากาศ แต่จากการกดขี่ข่มเหงที่ชาวกาซาถูกกองทัพและชาวอิสราเอลได้ทำการหยามเหยียด และเลือกปฏิบัติเหมือนเป็นประเทศราช ถูกลิดรอนสิทธิเสรีภาพของความเป็นมนุษย์มาตลอด 76 ปี ตั้งแต่สหรัฐฯ สมคบกับอังกฤษลงคะแนนจัดตั้งรัฐอิสราเอล (รัฐเล็กๆ) ผ่านทางยูเอ็น โดยสหรัฐฯ และอังกฤษโอบอุ้มด้วยงบประมาณช่วยเหลือ และสนับสนุนอาวุธมาให้ตลอดเวลา พร้อมสนับสนุนให้ผู้ตั้งรกรากชาวอิสราเอลเข้าปล้นบ้านเรือนเรือกสวนไร่นา (ที่อุดมสมบูรณ์ของชาวปาเลสไตน์) ยิงเจ้าของบ้าน, เจ้าของสวนชาวปาเลสไตน์เพื่อชาวอิสราเอลจะเข้าครอบครองทำให้ชาวปาเลสไตน์เป็นจำนวนหลายแสนต้องพลัดพรากจากบ้านของตนกลายเป็นคนเร่ร่อนไร้บ้าน ต้องมาพักพิงอยู่ในค่ายผู้อพยพ!! ด้วยความเหี้ยมโหดของชาวอิสราเอล ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอด 76 ปี (ทั้งปี 1948, 1967, 1973 และอีกหลายๆ ครั้งย่อยๆ) จนชาวปาเลสไตน์ต้องน้ำตาตก ได้แค่เก็บกุญแจบ้านของตนด้วยความอาลัย พอเป็นเครื่องหมายว่า ตนคือเจ้าของแผ่นดินบ้านเรือนที่ถูกแย่งชิงปล้นไปด้วยฝีมือของชาวอิสราเอล ที่มีผู้สนับสนุนรายใหญ่ก็คือสหรัฐฯ และอังกฤษ รวมทั้งหลายประเทศในยุโรป

ในแต่ละวันตลอด 24 ชม.ที่ผ่านมาถึง 365 วัน ชาวปาเลสไตน์ถูกยิงทิ้ง บ้านถูกระเบิดตายกันเกลื่อน ก็เพราะนายเนทันยาฮูได้ประกาศเอาฮามาสบังหน้า แท้จริงคือต้องการฆ่าชาวกาซาให้หมดสิ้น... อย่างที่รมต.กลาโหมประกาศใน ครม.ของเนทันยาฮูเมื่อ 8 ตุลาคมว่า จะไม่ให้มีการนำน้ำดื่ม, น้ำใช้, อาหาร, ยา, ไฟฟ้า, น้ำมันเข้าไปในกาซา คือจะต้องให้ชาวกาซาอดอาหารตายนั่นเอง พร้อมๆ กับกราดยิงและถล่มทำลายที่อยู่อาศัยทุกๆ หลังให้เกลี้ยง... เป็นดินแดนที่จะอยู่อาศัยต่อไปไม่ได้ (ยูเอ็นประมาณการว่าจะต้องใช้เวลา 80 ปี เพื่อกวาดเศษซากอิฐ หิน ปูนให้หมดสิ้นหากจะก่อสร้างอาคารใหม่มาแทนที่)

หลักฐานที่ติดตามได้จากติ๊กต๊อก, อินสตาแกรม ที่ทหารของอิสราเอลนำมาเปิดเผยอย่างสนุกสนานตลอด 365 วันแห่งการฆ่าทำลายชาวปาเลสไตน์ เพื่อแสดงถึงผลงานแห่งชัยชนะ กำลังเป็นหลักฐานสำคัญที่มีการรวบรวมถึงการทำอาชญากรรมสงครามเป็นระบบเหมือนที่ฮิตเลอร์ได้ทำเป็นคนแรกช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เป็น 365 วันที่ถ่ายทอดสดความป่าเถื่อน ไร้จริยธรรมของฮิตเลอร์คนที่สองโดยมีสหรัฐฯ ทั้งรู้เห็นเป็นใจและให้การสนับสนุนด้านอาวุธ

การเจรจา (อย่างหลอกๆ) ที่รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ และปธน.ไบเดน ได้ทำตลอดปีที่ผ่านมา ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อให้มีการหยุดยิงชั่วคราว (มีแค่ช่วงสั้นๆ เพียง 7 วันที่เกิดได้ครั้งเดียว) เพื่อนำสู่การหยุดยิงถาวร

สหรัฐฯ กลายเป็นลูกไล่ของฮิตเลอร์คนที่สอง แม้ไบเดนจะเคยเตือนว่าอิสราเอลจะทำพลาดดังเช่นที่สหรัฐฯ เคยพลาดมาแล้วในการบุกอิรักหลังเหตุการณ์ 9-1-1 ก็ตาม โดยฮิตเลอร์ที่สองถือไพ่เหนือมือผู้นำสหรัฐฯ... เพราะจะมีการเลือกตั้งใหญ่วันที่ 5 พฤศจิกายนปีนี้รออยู่

ขนาดปธน.มาครงยังออกมากดดันชาติยุโรปไม่ให้สั่งอาวุธให้ฮิตเลอร์ที่สอง นำไปฆ่าชาวปาเลสไตน์ และกำลังขยายสงครามไปถึงเลบานอนด้วยซ้ำ

และเลขาธิการยูเอ็นก็โดนประณามจากอิสราเอลให้เป็นบุคคลไม่พึงปรารถนาที่ไม่สามารถทำวีซาเข้าอิสราเอลได้เพียงเขาขอให้มีการหยุดยิง ทั้งในกาซา ที่เวสต์แบงก์ และที่เลบานอนซึ่งฮิตเลอร์ที่สองกล่าวหาว่า เลขายูเอ็นเข้าข้างผู้ก่อการร้ายฮามาส!!


กำลังโหลดความคิดเห็น