xs
xsm
sm
md
lg

ยังเหลือใครเป็นผู้ใหญ่ในห้องนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


มาซูด เปเซชเคียน ประธานาธิบดีอิหร่าน
คงมีแต่เด็กจอมรังแกระดับฆาตกรเช่น นายเนทันยาฮู และแก๊งฆาตกรโหดเหล่า รมต.ร่วมรัฐบาลของเขา ที่ใช้เล่ห์กลตบตาหลอกลวงขายเครื่องมือสื่อสาร 3-5 พันเครื่องให้แก่กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ โดยทาวัตถุระเบิดที่ผ่านที่เครื่องเพจเจอร์ และเมื่อส่งสัญญาณให้เกิดความร้อนที่ถ่านก็ทำให้เครื่องเพจเจอร์ระเบิดทันที พร้อมๆ กันทำเอาชาวเฮซบอลเลาะห์ต้องบาดเจ็บเสียดวงตาเป็นจำนวนหลายพันคน รวมทั้งพลเรือนรอบๆ เครื่องเพจเจอร์เหล่านี้ที่ต้องเสียชีวิตจากแรงระเบิด ซึ่งมีเด็กเล็กๆ จำนวนหนึ่งที่ต้องตายโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ใดๆ เพียงไปยืนอยู่ใกล้ๆ กับเพจเจอร์เหล่านี้ ทั้งในร้านซูเปอร์มาร์เกต หรือในสถานที่อื่นๆ

นับเป็นความโหดเหี้ยมของฝ่ายผู้นำอิสราเอลกับแผนการกำจัดศัตรู แต่ได้ทำลายชีวิตของพลเรือนจำนวนมาก ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดข้อตกลงเจนีวาในเรื่องการทำสงครามจะต้องทำลายชีวิตของฝ่ายทหารเท่านั้น
รวมทั้งเครื่องมือสื่อสารวิทยุวอล์กกี้ทอล์กกี้จำนวนมาก ที่ฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มนักรบเฮซบอลเลาะห์ ก็เจอชะตากรรมเดียวกันกับเพจเจอร์คือ เกิดการระเบิดทำลายชีวิตของนักรบเฮซบอลเลาะห์ รวมทั้งพลเรือนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กับวอล์กกี้ทอล์กกี้นั้น ทั้งๆ ที่พลเรือนบางคนก็เป็นแค่เด็กๆ ที่ไม่มีส่วนในสงครามแต่อย่างใด

แม้อิสราเอลจะไม่ได้ออกมาประกาศว่า เป็นฝีมือของตนกับการทำลายทั้งนักรบเฮซบอลเลาะห์และพลเรือนบริสุทธิ์ แต่นักวิจารณ์ในสหรัฐฯ เอง รวมทั้งที่อังกฤษและอียู ต่างก็ออกมาฟันธงเหมือนกันว่า เป็นฝีมือของฝ่ายมอสสาดหรือหน่วยข่าวกรองและมืออาชีพก่อวินาศกรรมของอิสราเอลนั่นเอง...เพราะเคยวางแผนกำจัดฝ่ายเฮซบอลเลาะห์หรืออิหร่านด้วยวิธีการลอบวางระเบิดเช่นนี้มาหลายครั้ง

และที่อิสราเอลเงียบกริบ ไม่ออกมายอมรับว่าเป็นฝีมือของตน ก็เพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎของสงคราม ที่ทำให้พลเรือนบริสุทธิ์ต้องตายจำนวนมาก ซึ่งจะถูกตั้งข้อหาว่าเป็นอาชญากรสงครามได้นั่นเอง!

ในจำนวนพลเรือนผู้บาดเจ็บต้องเสียดวงตาครั้งนี้ มีเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำเลบานอนด้วย ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหญ่โตทีเดียว

ยังมิทันที่ฝ่ายกองทัพเฮซบอลเลาะห์จะตอบโต้อิสราเอล ซึ่งก็คงต้องตั้งตัวสักพัก เพราะผบ.ระดับกลางที่ใช้ทั้งเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้นี้ บาดเจ็บสาหัสจากการเสียดวงตา จนหลายคนตาบอด... และการติดต่อบังคับบัญชาในกองทัพถูกตัดตอนอย่างรุนแรง... อาจถึงขนาดต้องใช้สื่อสารด้วยการใช้คนเดินเอกสารติดต่อทีเดียว ที่ต้องกินเวลามาก และผบ.ที่บาดเจ็บก็ต้องพักรักษาตัวอยู่พักใหญ่

กองทัพเฮซบอลเลาะห์ยังไม่ทันตั้งตัวได้ก็มีการประกาศโดยเนทันยาฮูและรมต.กลาโหม (ที่เกือบจวนเจียนเสียตำแหน่ง เพราะความคิดเห็นเรื่องการทำสงครามที่กาซาไม่ตรงกันระหว่างเนทันยาฮูและรมต.กลาโหม) ที่จะรุกโจมตีภาคพื้นดิน

ความเจ้าเล่ห์ของเนทันยาฮู ที่มีฉายาว่า เป็นยอดนักเล่นกล (Magician) ได้ประกาศเปลี่ยนสมรภูมิหลักจากกาซามาเป็นตอนเหนือของอิสราเอล โดยยกเอาชีวิตชาวอิสราเอล 65,000 คน (ที่ถูกทางการอิสราเอลบังคับให้อพยพออกมาจากบ้านเรือน, เรือกสวนไร่นาของตน ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือ) มาบังหน้าโดยบอกว่า จะให้กลับไปบ้านที่ได้ทิ้งมาตั้ง 11 เดือน (ตั้งแต่ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว-เพื่อหลบหนีกระสุนจากเฮซบอลเลาะห์ที่ยิงเข้ามา) เพราะเฮซบอลเลาะห์เป็นพันธมิตรกับฮามาส และจะไม่หยุดยิงเข้าใส่ตอนเหนือของอิสราเอลจนกว่ากองทัพ IDF จะหยุดยิงฆ่าชาวปาเลสไตน์อย่างไม่เลือกหน้า (Ethnic Cleansing) ที่กาซา

เป็นการยิงนกทีเดียวได้นกเป็นฝูง เพราะเนทันยาฮูกำลังถูกกดดันจากรมต.กลาโหมและเหล่าญาติของผู้ถูกจับเป็นตัวประกันเพราะสงคราม 11 เดือนที่กาซา ไม่มีวี่แววจะจัดการฮามาสได้ราบคาบแบบที่เคยคุยโวเอาไว้...จึงได้เปลี่ยนสมรภูมิหลักมาเป็นทำสงครามกับเฮซบอลเลาะห์ โดยให้รมต.กลาโหมต้องทุ่มเทให้กับสมรภูมิใหม่ และยั่วยุให้อิหร่านและสหรัฐฯ เอามาเผชิญหน้ากัน

หลังวินาศกรรมเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้แล้วเพียง 2 วัน ก็ส่งระเบิดขนาด 2,000 ปอนด์ (907 กก.) ไปถล่มอาคารศูนย์กลางของเฮซบอลเลาะห์ที่ชานเมืองเบรุต ตัวระเบิดมหาประลัยนี้มีชื่อเล่นว่า Bunker-Buster ที่สามารถทำลายตึกให้พังลงมาได้หลายตึก รวมทั้งสามารถระเบิดลึงลงไปใต้ดินถึง 30 เมตร จนทำให้เกิดหลุมยักษ์ (Crater) แบบที่สะเก็ดดาวในอดีตเคยชนกับโลกและเกิดหลุมยักษ์ที่กลายเป็นแอ่งน้ำทะเลสาบได้ โดยมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอลถึง 30 สนามทีเดียว...ระเบิดยักษ์นี้ ผลิตที่สหรัฐฯ และสหรัฐฯ ได้มอบให้อิสราเอลมาตลอด ซึ่งได้ถล่มที่กาซามาหลายครั้ง และทำให้พลเรือนเด็กเล็กผู้บริสุทธิ์ตายไป ตามตัวเลขของวารสาร Lancet (วารสารทางการแพทย์เก่าแก่ที่สุดในโลก ที่ไปสัมภาษณ์เหยื่อผู้รอดชีวิตที่กาซา-และออกตัวเลขว่า ตลอด 10 เดือนที่กาซาหลัง 7 ตุลาคม มีคนตายไปแล้ว 186,000 คน และบาดเจ็บอีกหลายเท่าตัว)

วันศุกร์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้ถล่มอาคารหลายชั้นถึง 5 หลัง ที่ผู้นำจิตวิญญาณและผบ.หลายคนของเฮซบอลเลาะห์หลบซ่อนบัญชาการอยู่ใต้ดิน ทำให้อาคาร 4-5 หลังผังครืนลงมาแบบเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ที่มหานครนิวยอร์ก ทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์ที่พักอาศัยอยู่ตายเป็นพันคน พร้อมๆ กับผู้นำสูงสุดและนักรบระดับสูงของเฮซบอลเลาะห์

การทิ้งระเบิดจากเครื่องบินของอิสราเอลนี้ เกิดขึ้นหลังเนทันยาฮูเพิ่งแสดงสุนทรพจน์ที่สมัชชใหญ่สหประชาชาติเสร็จลงทันที และทางรมต.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่ได้รับแจ้งก่อนการสั่งถล่มครั้งนี้ จนทำให้รมต.กลาโหมสหรัฐฯ ไม่พอใจยิ่ง เพราะก่อนนั้นไม่กี่ชั่วโมง นายพลสหรัฐฯ (Cencom) ได้พบกับเนทันยาฮู และได้ย้ำไม่ให้อิสราเอลบุกถล่มเฮซบอลเลาะห์…สหรัฐฯ จะสนับสนุนอิสราเอลตราบเท่าที่เป็นการป้องกันการโจมตีอิสราเอลจากภายนอก แต่ไม่ใช่สนับสนุนให้อิสราเอลไปโจมตีเลบานอน... รวมทั้งปธน.มาครง และไบเดนเสนอให้หยุดยิง 21 วัน

อีก 3 วัน (เสาร์, อาทิตย์, จันทร์) ต่อมา อิสราเอลประกาศโจมตีทางภาคพื้นดิน นำโดยถล่มด้วยขีปนาวุธและเครื่องบินทิ้งระเบิดตลอด 24 ชม. ทำให้ชาวเฮซบอลเลาะห์ต้องอพยพหนีระเบิดถึง 1 ล้านคน ไม่มีที่พักและอาหาร (นอนข้างถนน)

ผู้นำอิหร่านประกาศให้ชาวมุสลิมร่วมมือกันต่อต้านการรุกรานโหดเหี้ยมของอิสราเอล โดยไม่ให้ค้าขายด้วย และไม่ต้องการขยายสงครามในตะวันออกกลาง

จนคืนวันอังคารเวลา 2 ทุ่ม หลังจากอดกลั้นมาเป็นหลายสัปดาห์ จึงส่งขีปนาวุธแบบโค้ง (Ballistic Missile) ชนิดซุปเปอร์โซนิกเร็วกว่าเสียงไปประมาณ 200 ลูกเข้าถล่มฐานทหารรอบเทลอาวีฟ แต่ทางอิสราเอลมี Iron Dome กั้นขีปนาวุธไว้ได้บางส่วนเท่านั้น รวมทั้งสหรัฐฯ รีบจัดส่งระบบยิงสกัดขีปนาวุธของอิหร่านจากเรือรบจอดที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คล้ายๆ กับที่ได้ช่วยอิสราเอลเมื่อต้นเมษายน (ครั้งแรกที่อิหร่านยิงตอบโต้อิสราเอล หลังสถานกงสุลอิหร่านที่ดามัสกัสถูกยิงถล่ม...แม่ทัพของอิหร่านตาย 2 คน)

ปธน.ไบเดนและรองปธน.กมลา แฮร์ริส ไม่ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ในห้อง แต่ได้ประกาศเข้าข้างอิสราเอล โดยจะส่งกองทัพสหรัฐฯ เต็มอัตราศึก 4 หมื่นคนมาประจำในเมดิเตอร์เรเนียน และตะวันออกกลาง เพื่อช่วยปกป้องอิสราเอลทันที

ทั้งๆ ที่อิหร่านและเฮซบอลเลาะห์ถูกโจมตีหลายๆ ครั้งก่อน และเป็นการบุกโจมตีของอิสราเอลเข้ามาในดินแดนของเฮซบอลเลาะห์ และฆ่าผบ.และทูตอิหร่านด้วยซ้ำ รวมทั้งฆ่าผู้นำฮามาสที่ไปร่วมงานสถาปนาปธน.คนใหม่ของอิหร่านด้วย

เห็นได้ชัดว่า อิหร่านโจมตีในวันอังคารเป็นการตอบโต้ และทำอย่างระมัดระวังไม่ให้สงครามขยายยกระดับในตะวันออกกลางจนมองได้ว่า อิหร่านน่าจะเป็นผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่ในห้อง โดยใช้ความอดทน อดกลั้นเพื่อไม่ให้สงครามลุกลามมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น