อาทิตย์นี้มีการทะเลาะกันอย่างรุนแรงระหว่างนายกฯ เนทันยาฮูกับรมต.กลาโหม โยอาฟ กัลแลนต์ ซึ่งทั้งคู่อยู่ในพรรคลิคุดด้วยกันและเริ่มมีความแตกแยกในเรื่องการปราบฮามาสให้สิ้นซาก
ถึงขนาดมีข่าวว่าในการประชุมครม.ของอิสราเอลมีเสียงทะเลาะโต้เถียงกันอย่างรุนแรงนสพ.ของอิสราเอลหลายฉบับรวมทั้งซีเอ็นเอ็น,บีบีซีและเดอะการ์เดียนต่างก็รายงานเรื่องความไม่ลงรอยระหว่างนายกฯและรมต.กลาโหมกันทั่วหน้า...และนายกฯเนทันยาฮูกำลังจะปลดโยอาฟ กัลแลนต์ ออกจากตำแหน่ง รมต.กลาโหมให้รู้แล้วรู้รอดกันไป
ความเห็นและนโยบายที่แตกต่างกันนี้มีขึ้นมาหลายเดือนแล้วโดยรมต.กลาโหมต้องการให้มีแผนระยะยาวกับฉนวนกาซาไม่ใช่ให้กองทัพ IDFปักหลักอยู่อย่างไม่มีแผนแน่นอนว่าจะถอนออกเมื่อใดและหลังถอนออกแล้วจะจัดรูปแบบการบริหารฉนวนกาซาเป็นแบบไหน…ซึ่งทางกัลแลนต์ต้องการให้มีคณะบริหารเป็นชาวปาเลสไตน์(จากเวสต์แบงก์ซึ่งเป็นพวกไม่ใช้อาวุธ)ไม่ให้พวกฮามาสได้เข้าบริหารอีกแน่นอน
ส่วนนายกฯเนทันยาฮูกลับตอบไม่ชัดเรื่องแผนระยะยาวแต่โดยทั่วไปเป็นจุดหมายของเนทันยาฮูและพรรคร่วมรัฐบาลที่ค้ำยันเนทันยาฮู (เช่นรมต.คลัง,รมต.ความมั่นคงซึ่งอยู่คนละพรรคกับเนทันยาฮู) ที่ต้องการให้ฝ่ายอิสราเอลเข้าบริหารฉนวนกาซาอย่างสมบูรณ์เรียกว่าGreater Israelซึ่งหมายถึงการขยายขอบเขตของประเทศอิสราเอลออกไปครอบครองดินแดนของปาเลสไตน์เกินกว่าข้อตกลงตั้งแต่ 1948ที่ยูเอ็นลงคะแนนให้อิสราเอลมาเป็นรัฐเล็กๆบนดินแดนบางส่วนของปาเลสไตน์
รมต.กลาโหมกัลแลนต์ให้น้ำหนักสำคัญคือ ชีวิตของตัวประกันที่ยังอยู่ในมือของฮามาส ซึ่งการเจรจาหยุดยิง (ชั่วคราว)ก็จะรักษาชีวิตของเหล่าตัวประกันนี้ให้ได้มากที่สุดและชีวิตของตัวประกันดูจะมีโอกาสรอดได้น้อยลงทุกที
ขณะเดียวกัน เขาก็เป็นห่วงทหาร IDF ซึ่งจะต้องมีการหมุนเวียนกลับมาพักผ่อนผลัดเปลี่ยนเอากองกำลังใหม่ไปแทนโดยเฉพาะคือการไม่มีแผนแน่นอนรออยู่ข้างหน้าทำให้กัลแลนต์ไม่สบายใจ
นอกจากนี้สำหรับเนทันยาฮูและรมต.คลัง,รมต.ความมั่นคง กลับให้น้ำหนักกับชีวิตตัวประกันน้อยกว่าการกำจัดฮามาสให้สิ้นซาก ซึ่งเป็นหลักการของ ผบ.จอมทัพนักรบแอฟริกันชื่อ Hannibalที่กล้าหาญและถึงกับเคยบุกมาถึงกรุงโรมสมัยก่อนคริสต์กาลโดยฮันนิบาลจะมีกฎว่าถ้าทหารของตนถูกจับได้กองทัพของเขาจะไม่ยอมให้ฝ่ายข้าศึกนำเอาชีวิตของทหารของตนมาเป็นข้อต่อรองนั่นคือ ตัวประกันจะไม่เป็นอุปสรรคที่ทำให้กองทัพของเขาต้องสงสารตัวประกัน และยอมใจอ่อนเพื่อเจรจาหยุดยิง...คือต้องตัดใจปล่อยให้ตัวประกันตายแทนจะยอมบุกเข้าไปช่วยตัวประกัน เพราะการเอาชนะข้าศึกถือว่าเป็นข้อสำคัญที่สุด
แม้แต่เหตุการณ์วันที่ 7ตุลาคมปีที่แล้วที่นักรบฮามาสบุกเข้าไปจับตัวประกัน;ทหาร IDFบางคนบอกกับบีบีซีว่าผบ.กองทัพอิสราเอลสั่งให้นำเฮลิคอปเตอร์ออกไปยิงนักรบฮามาสที่กำลังแบกตัวประกันขึ้นรถมอเตอร์ไซค์โดยการยิงนักรบฮามาสนั้น จะไม่ต้องระวังที่จะไม่ให้ยิงถูกตัวประกันอิสราเอล เพราะภารกิจคือต้องไม่ให้ศัตรูนำตัวประกันไปได้ ทำให้มีคนอิสราเอลที่เป็นตัวประกันถูกยิงตายจำนวนหนึ่ง จากฝีมือของ IDF…และจนถึงเดี๋ยวนี้ยังไม่มีรายละเอียดของเหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม เป็นรายงานออกมาว่าฝ่ายนักรบฮามาสตายกี่คนตัวประกันตายกี่คน...ซึ่งรมต.กลาโหมกัลแลนต์ต้องการให้มีการทำรายงานละเอียดซึ่งเนทันยาฮูยังไม่ได้ทำรายงานใดๆทั้งสิ้น...แต่ชาวโลกได้เห็นมีการปรับตัวเลขชาวอิสราเอลที่ตายในวันนี้จาก 1,500คนเป็น 1,100คน
ในการแถลงของรมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนบอกว่า ใกล้จะถึงการตกลงหยุดยิงชั่วคราวตามข้อเสนอบันได 3 ขั้นที่สหรัฐฯ เป็นฝ่ายจัดทำแผน (ปธน.ไบเดน บอกว่า เป็นข้อเสนอของอิสราเอลเอง) แต่ข้อที่ฮามาส (ซึ่งเต็มใจอยากให้มีการหยุดยิงชั่วคราว 6อาทิตย์)อยากให้มีการพิจารณาคือ การให้ทหาร IDF ถอนออกจากช่องแคบฟิลาเดลฟี…ซึ่งข้อนี้รมต.กลาโหมเห็นด้วยเพื่อรักษาชีวิตของตัวประกัน แต่เนทันยาฮูไม่เห็นด้วยเพราะรมต.คลังและรมต.ความมั่นคง ขู่จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลทันที ถ้านายกฯ เนทันยาฮูไปยอมลงนามกับฮามาส
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกฯเนทันยาฮูกำลังตั้งใจอย่างยิ่งที่จะปลดรมว.กลาโหมกัลแลนต์(โดยเขาต้องการตั้งนายGideon Saarซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคเล็กๆชื่อNew Hopeมารับหน้าที่แทน)แต่เมื่อต้นปีที่แล้ว (ก่อนหน้าการโจมตีของฮามาสในวันที่ 7ตุลาคม) ได้มีการเดินขบวนต่อต้านและกดดันให้เนทันยาฮูลาออก เพราะเนทันยาฮูได้พยายามลดอำนาจฝ่ายตุลาการที่กำลังมีหมายเรียกเนทันยาฮูไปขึ้นศาลเรื่องข้อกล่าวหาคอร์รัปชันที่ไปรับเงินใต้โต๊ะจากนักธุรกิจต่างประเทศ...ซึ่งรมต.กลาโหมกัลแลนต์ ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นตรงข้ามกับสิ่งที่เนทันยาฮูกำลังเดินหน้าและเนทันยาฮูได้ออกมาพูดว่าเขาจะปลดกัลแลนต์ออกจากตำแหน่ง...ขณะนั้นผู้เดินขบวนต่อต้านเนทันยาฮูได้เรียกร้องไม่ให้นายกฯ เนทันยาฮูปลดกัลป์แลนต์ออก
ในครั้งนี้ ปรากฏมีนักธุรกิจกว่า 200 คนได้ทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เนทันยาฮู, ห้ามปลดกัลแลนต์ออกขณะนี้โดยให้เหตุผลว่าถ้าปลดรมต.กลาโหมขณะนี้(จะทำให้อิสราเอลจะยิ่งดูอ่อนแอลงในสายตาของศัตรู และจะยิ่งทำให้เกิดความแตกแยกมากยิ่งขึ้นในหมู่ประชาชนอิสราเอล...เพราะท่านนายกฯรู้ดีกว่าใครๆว่าดัชนีด้าเศรษฐกิจกำลังสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจของอิสราเอลที่เลวร้ายมากและกำลังจมลึกลงสู่เศรษฐกิจถดถอย...สิ่งสุดท้ายที่ประเทศอิสราเอลต้องการขณะนี้คือการปลดรมต.กลาโหมซึ่งจะยิ่งทำให้ประเทศชาติเกิดอาการช็อกนั่นเอง!)
ด้านกองทัพ IDFก็มีการออกมาเปิดเผยจากปากของนางซารา เนทันยาฮูภรรยานายกฯซึ่งได้บอกกับญาติตัวประกันตั้งแต่มิถุนายน-กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าสามีของนางตกเป็นเป้าของการพยายามทำรัฐประหารจากกองทัพ; ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะมาพูดกันเล่นๆถ้าไม่เป็นความจริง
เนทันยาฮูจะมีฝ่ายเดียวที่ยังค้ำจุนเขาก็คือ รัฐบาลสหรัฐฯที่ยังยืนเคียงข้าง,ยิ่งใกล้การเลือกตั้ง 5พฤศจิกายนในสหรัฐฯเข้าทุกที
แม้นายกัลแลนต์จะออกมาประกาศอย่างเกรี้ยวกราดทันทีเมื่อหลัง 7ตุลาคมปีที่แล้วว่าจะต้อง ตัดน้ำ, ตัดไฟ, ตัดทางเดินของอาหาร, น้ำดื่ม, ยา ไม่ให้เข้าไปกาซา และฮามาสคือ human animals (ครึ่งคนครึ่งสัตว์)และการบุกเข้ากาซาได้ฆ่าเด็กและผู้หญิงจำนวนเป็นแสนและบาดเจ็บเป็นแสนเช่นกัน…รวมทั้งเขาถูกออกหมายจับจาก ICJ (ตามคำฟ้องแอฟริกาใต้)และกำลังจะมีหมายจับจาก ICCด้วย…แต่นายกัลแลนต์ดูจะเปลี่ยนจุดยืนมาสู่การเจรจาหยุดยิง เพื่อรักษาชีวิตของตัวประกัน...ซึ่งอาจทำให้เขาถูกปลดในครั้งนี้จากนายกฯจอมโหดเนทันยาฮู