xs
xsm
sm
md
lg

อดีตที่ปรึกษาความมั่นคง-แฉเรื่องทรัมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร


พลโทเอช.อาร์. แม็กมาสเตอร์ อดีตที่ปรึกษาความมั่นคงฯ
คะแนนนิยมของกมลา แฮร์ริส ได้ทะยานสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็วและสั้นมากคือ เพียง 1 เดือนหลังจากปธน.ไบเดน ได้ประกาศถอนตัวในการรับสมัครลงแข่งปธน...ส่วนหนึ่งคือ การออกมาแฉจากผู้เคยร่วมงานกับทรัมป์ (ช่วงดำรงตำแหน่งปธน.) ซึ่งเป็นการประจานความเป็นผู้นำของทรัมป์ที่คนทำงานใกล้ชิดดูจะรับไม่ได้ต่อนิสัยหลงตัวเองของเขาว่าวิเศษกว่าผู้ร่วมงาน รวมถึงการดูถูกเหยียดหยามไม่เพียงสตรีเพศหรือคนกลุ่มต่างๆ แม้แต่ผู้สนับสนุนเขาเองก็มิวายพูดจาลับหลังในทางดูถูก...ดังเช่นเลขาฝ่ายสื่อสารมวลชน สเตฟานี กริซซั่ม ได้ยอมขึ้นเวทีการประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต เพื่อแฉนิสัยไม่ดีของทรัมป์จนเธอทนไม่ไหวและลาออกจากตำแหน่งหลังจากได้ทำงานกับปธน.ทรัมป์ได้ไม่นานนัก

การประชุมใหญ่พรรคเดโมแครตครั้งนี้ ได้เห็นเหล่าสมาชิกพรรครีพับลิกัน (ของทรัมป์) ทั้งที่เคยทำงานใกล้ชิดกับปธน.ทรัมป์, รวมทั้งอดีต สส., สว., ผู้ว่าการรัฐ รวมทั้งทนายของทรัมป์ นายไมเคิล โคเฮน มีหลายคนยอมขึ้นเวที DNC เพื่อประกาศว่าจะลงคะแนนให้กมลา เพื่อเป็นหนทางเดียวที่ประเทศชาติจะไม่กลับไปอยู่ใต้การบริหารของทรัมป์เป็นคำรบสอง อันจะนำประเทศชาติไปสุ่มเสี่ยงต่อความไม่แน่นอน, บริหารตามอารมณ์แบบลมเพลมพัด…ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับการสมัครปธน.สหรัฐฯ ที่ชาวรีพับลิกันจำนวนมากยอมขึ้นเวทีมาแสดงอย่างเด่นชัดว่า ไม่กล้าเสี่ยงเลือกทรัมป์กลับเข้าทำเนียบขาวอีกครั้ง

เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา อดีตเจ้าหน้าที่ที่เคยทำงานให้ปธน.ทรัมป์กว่า 200 คน และเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกันได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกจะไปลงคะแนนให้แก่กมลา ซึ่งเป็นเดโมแครต ทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นชาวรีพับลิกัน ซึ่งไม่ได้เห็นด้วยต่อนโยบายแบบเดโมแครตในหลายๆ เรื่อง แต่ยังมองว่า ถ้าทรัมป์กลับมารอบสองนี้ จะทำให้เกิดความเสียหายแก่สหรัฐฯ มากกว่า

สมัยทรัมป์เป็นปธน.เพียง 4 ปี (1 สมัย) ได้มีการเปลี่ยนตัวรมต.ตำแหน่งสำคัญๆ เป็นว่าเล่นเช่น รมต.ต่างประเทศก็มีสองคน; รมต.กลาโหมก็สองคน; หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว (Chief of Staff) ก็มากกว่า 2 คน ซึ่งคนที่เคยทำงานในตำแหน่งสำคัญเหล่านี้ หลายคนไปให้สัมภาษณ์กับนักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์และเป็นอดีตนักข่าวหัวเห็ดกรณี Deep Throat (แฉเรื่องวอเตอร์เกต) นายบ๊อบ วูดเวิร์ด ถึงการเป็นปธน.ที่ต่ำกว่ามาตรฐานของทรัมป์…ทำให้พวกอดีตนายพลที่ร่วมทำงานกับทรัมป์ถึงกับส่ายหน้าและถอยหนีห่างออกไป

ด้านที่ปรึกษาความมั่นคง ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากของปธน.สหรัฐฯ และครั้งหนึ่งดร.เฮนรี่ คิสซินเจอร์ ได้รับตำแหน่งนี้ช่วงปธน.นิกสัน ถึงกับได้ดำเนินงานแบบลับๆ เพื่อให้นิกสันเปิดสัมพันธ์กับประเทศจีน... สำหรับปธน.ทรัมป์นั้น เขาใช้ตำแหน่งนี้เปลืองมากถึง 5 คน...คนแรกคือ อดีตพลโทไมเคิล ฟลินน์ ซึ่งทำงานได้แค่ประมาณ 20 วันก็โดนคดีเรื่องความมั่นคงเสียเอง (ไปติดต่อลับๆ กับทูตรัสเซียประจำดี.ซี. และตัวฟลินน์เองก็สนิทสนมกับปูตินมากเกินเหตุ!!)

คนที่สอง...พลโทเอช.อาร์. แม็กมาสเตอร์ ยังอยู่ในราชการ และได้รับเหรียญกล้าหาญจากการไปรบทั้ง 3 สมรภูมิคือ สงครามอ่าว (สู้กับซัดดัม ช่วงซัดดัมบุกคูเวต), สงครามอัฟกานิสถานและสงครามอิรัก...เขาเคยอยู่ในหน่วยตรวจสอบคอร์รัปชันของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานด้วย

คนที่สามคือ นายจอห์น โบลตัน ซึ่งเคยเป็นทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นสมัยปธน.บุช (ผู้ลูก)

คนที่สี่และที่ห้าไม่ค่อยเป็นที่รู้จักทั่วไป และอยู่ในตำแหน่งสั้นๆ ในปลายสมัยของปธน.ทรัมป์

คนที่สองนี้อยู่นานที่สุด ประมาณ 1 ปีครึ่ง และเขาจบ Ph.D. ด้านประวัติศาสตร์ด้วย และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง เคยเขียนหนังสือเล่มแรกพูดถึงลูกน้อง ปธน. โกหกข้อมูลต่อปธน.ลินดอน จอห์นสัน จนทำให้ได้ข้อมูลที่ผิดพลาด นำมาสู่การเพิ่มจำนวนทหารอเมริกันไปรบในสงครามเวียดนาม (ชื่อหนังสือคือ Dereliction of Duty : Johnson, McNamara, the Joint Chiefs of Staff, and the Lies That Led to Vietnam) โดยบรรยายจากหลักฐานถึงเหล่านายพลกองทัพอเมริกันจะรายงานกับปธน.จอห์นสันก็คือ ข้อมูลและการประเมินสงคราม เฉพาะในสิ่งที่พวกเขาคิดว่า ปธน.อยากเลือกจะฟังเท่านั้น แทนที่จะเสนอคำแนะนำทางออกหลายๆ ทาง และแนวทางที่ดีที่สุดให้แก่ท่านปธน.จอห์นสัน

พลโทแม็กมาสเตอร์ ได้ตั้งปณิธานเมื่อจะเข้ารับตำแหน่งว่า เขาจะเสนอทุกๆ แนวทางแก่ปธน.ทรัมป์ รวมทั้งแนวทางที่ดีที่สุด ซึ่งปธน.ทรัมป์อาจจะไม่อยากได้ยินก็ตาม

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง เขาได้ออกหนังสือเล่มล่าสุดชื่อ (At War with Ourselves : My Tour of Duty in the Trump White House) โดยได้แฉถึงบรรยากาศในการเข้าประชุมกับทรัมป์

เขาวิเคราะห์ว่า ด้วยความที่ทรัมป์เป็นคนชอบคนยกยอปอปั้น เพราะหลงว่าตัวเองเก่งที่สุด บรรยากาศในการประชุมเรื่องความมั่นคง จะมีเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่สอพลอกับปธน.ทรัมป์เช่น ขึ้นต้นด้วยการเอ่ยชมว่า “สัญชาตญาณของท่านปธน.ถูกต้องมาตลอด” หรือ “ใช่เลย...ไม่เคยมีปธน.คนไหนถูกสื่อมีอคติถล่มเสียหายแบบท่านปธน.ทรัมป์”

บรรยากาศคือ ไม่มีการพยายามเสนอทางออกหลายๆ ทาง และเลือกทางออกที่ปธน.อาจไม่ค่อยเห็นด้วย... มีหลายครั้งที่ปธน.ทรัมป์จะ “โพล่งออกมาตามอารมณ์” เช่น “ทำไมเราไม่ระเบิดถล่มพวกยาเสพติดที่เม็กซิโกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!” หรือ “ทำไมเราไม่ยิงถล่มกองทัพเกาหลีเหนือให้ราบไปเลย ในช่วงที่เขาทำพิธีสวนสนาม?”

แม็กมาสเตอร์ ตกใจมากต่อคำพูดจากปากของปธน.ที่เป็นผบ.สูงสุดหรือจอมทัพของสหรัฐฯ ที่ได้โพล่งออกมาเช่นนั้น

แม็กมาสเตอร์พยายามเหนี่ยวรั้งและเกลี่ยกล่อมไม่ให้ทรัมป์โทรศัพท์ไปพูดคุยกับปธน.ปูตินในช่วงกำลังเลือกตั้งในรัสเซีย โดยแม็กมาสเตอร์วิเคราะห์ว่า ปูตินรู้วิธีใช้จุดอ่อนของทรัมป์ที่หลงตัวเองและชอบคำป้อยอจนทำให้ทรัมป์ตายใจ ซึ่งแม็กมาสเตอร์ได้เตือนว่า ทรัมป์จะตกเป็นเครื่องมือของปูติน ที่พยายามสร้างความแตกแยกในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้ทรัมป์ไม่พอใจมาก และปลดเขาออกในที่สุด

หนังสือเล่มนี้เป็นการแฉให้เห็นถึงทรัมป์ไม่เหมาะจะกลับมาเป็นปธน.อีกครั้ง

พอๆ กับหนังสือของจอห์น โบลตัน ที่ได้ออกมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่แฉถึงความไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งจอมทัพของทรัมป์เช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น