รัฐปั้นโมเดล “ตลาดนัด” เสริมอาชีพ สร้างรายได้ ตลาดกลางคืน อู่ฟู่

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  “กทม.- กทพ.” เดินหน้าเปิดตลาดนัดขยายพื้นที่การค้า สร้างโอกาสแก่ประชาชน ล่าสุด เปิดตลาดใต้สะพานเพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ แนวคิดเน้นคำนึงผลประโยชน์ต่อส่วนรวมมากกว่าผลกำไร เสริมรายได้ชุมชน พร้อมเล็งขยายผลพื้นที่ๆ ขณะเดียวกัน รัฐบาลเดินหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 3 เดือน ดีเดย์ 20 ส.ค. 2567 ลดค่าเช่าแผงร้านค้าสังกัดกระทรวงต่างๆ และแผงค้าสังกัด กทม. 

สัปดาห์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน  ซึ่งเพิ่งพ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมตลาดใต้สะพานเพลินจิต ถ.เพลินจิต เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ภาพบรรยากาศอย่างชื่นมื่น โดยมี  นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ  รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม และ นายสุรเชษฐ์ เหล่าพลูสุข  ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ให้การต้อนรับ

โดยมองว่าการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ทั้งทางการค้า สวนสาธารณะ และสนามกีฬา ช่วยประชาชนในหลายมิติ ทั้งใช้ให้ห่างไกลจากยาเสพติด ใช้พื้นที่เพื่อประกอบอาชีพ พร้อมกับมีข้อสั่งการดูแลเรื่องการขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ ให้พิจารณาพื้นที่ที่มีทำเลเหมาะสมต่อในการค้าขาย หรือส่วนพื้นที่ไหนไม่เหมาะสมแก่การค้าขายให้พัฒนาเป็นสวนสาธารณะ สวนกีฬา ตลอดจนขอความร่วมมือจากภาคเอกชนให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย

 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพลูสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่าดั้งเดิมพื้นที่ใต้ทางด่วนได้มีการซ่อมแซม จัดการพื้นที่ให้ผู้ประกอบการสามารถค้าขายได้ โดยมีการวางแนวป้องกันน้ำฝนรั่วซึมจากบนสะพาน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ในการดูแลของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยในส่วนอื่นๆ เช่น พื้นที่สีลม จำนวน 23 ไร่ ซึ่งจะดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานคร ในรูปแบบ CSR ต่อไป อย่างไรก็ตาม พื้นที่สีลมและส่วนอื่นๆ ยังเป็นโจทย์ที่ยาก เพราะไม่มีทางเข้าเหมือนพื้นที่ส่วนนี้

พร้อมกันนี้ รัฐบาลเดินหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย 3 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหา เสริมขีดความสามารถให้กับประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 นายชัย วัชรงค์  รักษาการโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าการจัดทำโครงการฯ ดังกล่าวเป็นไปตามแนวความคิดตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือแบ่งเบา ผู้ประกอบการรายเล็ก เติมเงินในกระเป๋าให้กับประชาชน และลดภาระค่าครองชีพครั้งใหญ่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน โดยจะขับเคลื่อนโครงการนี้ กำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ส.ค. – 20 พ.ย. 2567 แบ่งเป็นโครงการต่างๆ

อาทิ ลดต้นทุนผู้ประกอบการรายเล็ก จะร่วมกับภาครัฐทุกกระทรวง ทำการลดค่าเช่าร้านค้า ค่าเช่าแผงตลาด กว่า 30,000 แผง โดยมีตลาดที่อยู่ในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และตลาดในสังกัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่สำคัญ รวมทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น

ด้าน  นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจในช่วง 3 เดือน เพราะเห็นถึงความยากลำบากของพี่น้องประชาชน โดยโครงการนี้จะทำให้มีความพร้อมก่อนเข้าสู่ ดิจิทัล วอลเล็ต ช่วยสร้างรายได้ ลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน โดยเน้นที่ SME ผู้ประกอบการรายเล็ก ให้ผู้ประกอบการรายใหญ่มาช่วย

เป้าหมายในการลดรายจ่าย เช่น จัดสถานที่ออกร้านให้กับเกษตรกร ผู้ค้ารายย่อยโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าเช่าแผง หรือลดราคาให้มากที่สุด ได้เจรจากับกระทรวงมหาดไทยใช้ศาลากลางจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นศูนย์ประสานงาน มีพาณิชย์จังหวัดขับเคลื่อน และใช้สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดใหญ่ต่างๆทั่ วประเทศ และกระทรวงกลาโหมมีพื้นที่ 3,000 กว่าแห่ง ที่สามารถเข้าไปใช้ได้ รวมทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวขายสินค้าเป็นกรณีพิเศษ และจะมีรถของกลาโหมมาทำรถโมบาย

ขณะที่  นายศรชัย โตวานิชกุล  รักษาการ ผอ.สำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร (สงต.) เปิดเผยแผนการช่วยเหลือผู้เช่าแผงค้าและส่งเสริมการขายในตลาดที่อยู่ในความดูแลของ กทม. โดยมีแผนดำเนินงานตามนโยบายโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยลดค่าเช่าแผงค้าร้อยละ 50 ให้กับผู้ค้าที่อยู่ในตลาดภายใต้การกำกับของสำนักงานตลาดฯ ระยะเวลา 4 เดือน ระหว่างเดือน ก.ย. - ธ.ค. 2567

รวมทั้งส่งเสริมให้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายภายในตลาด ขอความร่วมมือผู้ค้าลดราคาสินค้า มีโปรโมชัน การแสดงดนตรี การละเล่น และการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีผู้มาจับจ่ายสินค้าในตลาดมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้ทุกฝ่าย

นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในตลาดนัดของรัฐ ที่น่าจะตาคือธุรกิจตลาดนัดตลาดกลางคืนของเอกชน เปิดใหม่คึกคัก อาทิ จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิต, เซฟวันโก สายไหม ฯลฯ สะท้อนธุรกิจตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตเพราะสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค

รายงานของ  บ.ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย  ที่ปรึกษาและตัวแทนนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เปิดเผยว่า ตลาดนัด (open-air markets) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก (retail property market) ตัวเลขจำนวนผู้เช่าในตลาดประเภทนี้ที่มักสูงกว่า 90% ซึ่งสะท้อนว่ามีความต้องการพื้นที่ค้าปลีกสูงมาก

ธุรกิจตลาดนัดทำได้ดีก็เป็นเสือนอนกิน สำหรับค่าเช่าพื้นที่ของตลาดนัดมีความหลากหลายขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ ทำเล ขนาดร้าน ระยะเวลาสัญญา รวมถึง ประเภทสินค้าที่ขาย โดยแบ่งได้คร่าวๆ เช่น พื้นที่ขนาดเล็ก หรือร้านชั่วคราว มักเป็นการเช่าแบบรายวัน ซึ่งอาจมีราคาตั้งแต่ 100 - 200 บาทต่อวัน หากเป็นร้านแบบถาวร ขนาดใหญ่ มีโครงสร้างถาวรแข็งแรงกว่า โดยมักจะเป็นการเช่าแบบรายเดือน ในระดับหลักพันถึงหลักหมื่นบาท เฉลี่ยจะอยู่ที่ 400-1,000 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ตลาดนัดเป็นส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจชุมชน เป็นสถานที่ที่ผู้คนมาซื้อขายมี สินค้ามีให้เลือกอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ของสด ผลไม้ อาหารสำเร็จรูป ขนม อาหารทะเล เสื้อผ้า และอื่นๆ

 เรียกได้ว่าตลาดนัดขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน ก่อให้เกิดรายได้ในระดับฐานรากกันเลยทีเดียว