xs
xsm
sm
md
lg

19 อำนาจในมุมุมองนักปราชญ์ (19): จอร์โจ อากัมเบน- อำนาจรัฎฐาธิปัตย์ในการใช้สภาวะแห่งข้อยกเว้น และการกำหนดรูปแบบชีวิตที่ทำให้ชีวิตมนุษย์ไร้คุณค่า / Phichai Ratnatilaka Na Bhuket

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า: อำนาจรัฎฐาธิปัตย์และชีวิตที่เปลือยเปล่า” (Homo Sacer: Sovereign Power and Bare Life, 1998) ผลงานสำคัญของ “จอร์จิโอ อกัมเบน”
"ปัญญาพลวัตร"
"ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต"

 จอร์จิโอ อกัมเบน (Giorgio Agamben) เกิด ค.ศ. 1942 เป็นนักปรัชญาชาวอิตาลีที่รู้จักกันดีที่สุดจากผลงานของเขาที่เกี่ยวแนวความคิดรัฎฐาธิปัตย์ที่เกี่ยวกับสภาวะแห่งข้อยกเว้น (state of exception) ซึ่งทำให้รูปแบบของชีวิต (form-of-life) ของมนุษย์ และพลเมืองบางกลุ่มในสังคมกลายเป็น “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” (homo sacer) ซึ่งทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นถูกทอดทิ้งและละเลยจากการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายปกติที่พวกเขาพึงได้รับ และผลักดันให้พวกเขาตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการถูกกระทำด้วยความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมจากรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ


อกัมเบน ท้าทายความเข้าใจแบบดั้งเดิมเกี่ยวกับรัฎฐาธิปัตย์ (sovereignty) ในฐานะอำนาจเบ็ดเสร็จของรัฐ เขาให้เหตุผลว่า รัฎฐาธิปัตย์ ดำเนินการผ่านตรรกะที่ขัดแย้งกันของการกีดกัน (exclusion) และการผนึกรวมเข้าด้วยกัน (inclusion) ขณะที่รัฎฐาธิปัตย์ดำรงอยู่ภายใต้กฎหมายไว้ แต่ก็กลับได้รับการยกเว้นเช่นกัน โดยครอบครองพื้นที่อันจำกัดระหว่างกฎหมายและชีวิต สิ่งนี้ทำให้รัฎฐาธิปัตย์สามารถสร้าง  “สภาวะข้อยกเว้น” ได้ โดยที่กฎหมายถูกระงับ และรัฎฐาธิปัตย์สามารถดำเนินการตามอำเภอใจได้

แนวคิดเรื่องรัฎฐาธิปัตย์นี้ได้รับการอธิบายอย่างละเอียดในงานสำคัญของอกัมเบนที่ชื่อ “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า: อำนาจรัฎฐาธิปัตย์และชีวิตที่เปลือยเปล่า” (Homo Sacer: Sovereign Power and Bare Life, 1998) เขาให้เหตุผลว่า อำนาจรัฎฐาธิปัตย์อธิปไตยมีความสามารถในการแยกแยะระหว่าง  “ชีวิตที่เปลือยเปล่า” (bare life) และ “ชีวิตที่มีคุณภาพ” (qualified life) ชีวิตที่เปลือยเปล่าเป็นลักษณะทางชีวภาพและมีความเป็นสัตว์ในการดำรงอยู่ของมนุษย์ ในขณะที่ชีวิตที่มีคุณภาพคือชีวิตทางสังคมและการเมืองที่เป็นที่ยอมรับโดยกฎหมาย ด้วยความแตกต่างนี้ อธิปไตยสามารถกีดกันบุคคลหรือกลุ่มบางบุคคลจากการคุ้มครองของกฎหมาย ทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อความรุนแรงและการเสียชีวิต

รัฐมีแนวโน้มสร้าง “สภาวะของการยกเว้น” หรือ การสร้างกรอบทางกฎหมายและการเมืองที่อนุญาตให้รัฐระงับกฎหมายและสามารถใช้อำนาจดำเนินการตามอำเภอใจได้ อกัมเบนอธิบายว่า สภาวะข้อยกเว้นนี้ได้กลายเป็นมาตรฐานมากขึ้นในสังคมร่วมสมัย ซึ่งนำไปสู่การเกิดสภาวะพร่าเลือนของเส้นแบ่งระหว่างสงครามและสันติภาพ และทำให้ภาวะฉุกเฉินดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้มีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อเสรีภาพและประชาธิปไตยส่วนบุคคล เนื่องจากอนุญาตให้รัฐใช้อำนาจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเหนือพลเมืองของตน

สถานการณ์ภายใต้สภาวะของการยกเว้นคือ สถานการณ์ที่คำสั่งทางกฎหมายตามปกติถูกระงับโดยรัฐ ซึ่งจะสร้างขอบเขตของความไม่ชัดเจนระหว่างการกระทำที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การกระทำที่มักจะถือว่าผิดกฎหมายตามภาวะปกติจะได้รับอนุญาตได้กระทำเสมือนหนึ่งถูกกฎหมายในสภาวะของการยกเว้น ดังนั้นในสภาวะยกเว้น อำนาจดิบเถื่อนของรัฐก็ถูกเปิดเผยออกมาก ซึ่ง “ชีวิตทางการเมือง” (bios) ที่เคยมีคุณภาพและเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ถูกลดลงเหลือเพียง  “การดำรงอยู่ทางชีววิทยา” (zoe) ซึ่งเป็นชีวิตที่ปราศจากการคุ้มครองทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสภาวะเสมือนหนึ่งที่รัฐปฏิบัติต่อพลเมืองเยี่ยงสัตว์ มีการใช้ความรุนแรง เข่นฆ่า สังหาร จับกุม และกักขังพลเมืองตามอำเภอใจ

กล่าวได้ว่าสิ่งที่คุกคามต่อชีวิตของพลเมืองในสังคมสมัยใหม่คือ คือ การทำให้สถานะของข้อยกเว้นเป็นภาวะ อกัมเบนเตือนว่า แทนที่จะเป็นสภาวะของข้อยกเว้นจะเป็นเรื่องชั่วคราว กลับกลายเป็นว่ามันถูกทำให้กลายเป็นบรรทัดฐานในการเมืองสมัยใหม่ เช่น การสอดแนมของรัฐที่ขยายออกไปทั่วสังคมเพื่อตอบสนองต่อการก่อการร้าย สถานะของข้อยกเว้นทำให้รัฐบาลสามารถดำเนินการกับบุคคลหรือกลุ่มโดยไม่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุผลในการกักขัง การทรมาน และแม้กระทั่งการฆ่าแบบมุ่งเป้า และที่สำคัญคือการลดคุณค่าของชีวิตของมนุษย์ลง และทำให้รูปแบบชีวิตมนุษย์บางกลุ่มกลายเป็น  “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” (homo sacer) หรือมีคุณค่าน้อยกว่ากลุ่มอื่น และสามารถถูกทอดทิ้งได้ภายใต้อำนาจรัฐ

แนวคิดเรื่องมนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่าเป็นหัวใจสำคัญของความเข้าใจเรื่องอำนาจของอากัมเบน เขายืมคำนี้มาจากกฎหมายโรมัน ซึ่งหมายถึงบุคคลที่อาจถูกฆ่า แต่ไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะบูชายัญตามพิธีกรรมทางศาสนา กล่าวคือในยุคนั้นมีความเชื่อว่า การบูชายัญตามพิธีกรรมศาสนาจะบรรเทาความโกรธแก่เทพเจ้า สิ่งที่จะนำมาบูชายัญจะต้องเป็นสิ่งมีคุณค่าเพียงพอที่จะทำให้เทพเจ้าพึงพอใจและยอมรับ แต่จะมีคนจำนวนหนึ่งที่สังคมยุคนั้นเชื่อว่าชีวิตของพวกเขาไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะนำไปบูชายัญได้นั่นเอง

อกัมเบนอธิบายว่าแนวคิด  “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” ไม่ได้เป็นเพียงบุคคลในประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นกระบวนทัศน์สำหรับหัวข้อสมัยใหม่อีกด้วย ในขณะที่อำนาจของรัฐขยายออกไปครอบคลุมทุกด้านของชีวิต บุคคลต่าง ๆ พบว่าตัวเองถูกเพิกถอนความคุ้มครองทางกฎหมายมากขึ้นเรื่อย ๆ และเสี่ยงต่อการใช้อำนาจตามอำเภอใจของรัฐ รัฐมีอำนาจเหนือชีวิตและความตายมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสงคราม ซึ่งมักจะมีการระงับกฎหมายบางอย่าง และทำให้รัฐสามารถใช้อำนาจพิเศษเหนือชีวิตของพลเมืองของตนได้

 ตัวอย่างของกลุ่มคนที่ถูกทำให้ชีวิตของพวกเขากลายเป็น “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” ที่เห็นได้ชัดเจนคือ นักโทษในค่ายกักกัน อกัมเบนชี้ว่านักโทษในค่ายกักกันเป็นตัวอย่างที่น่ากลัวที่สุดของมนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า เมื่อปราศจากสิทธิทางกฎหมายและทางการเมือง พวกเขาจึงถูกกระทำด้วยความรุนแรงและถูกพรากชีวิตตามอำเภอใจ

อีกกลุ่มหนึ่งที่มักตกอยู่ตกอยู่นภาวะ  “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” คือ ผู้ลี้ภัยไร้สัญชาติ  ที่มีอยู่แทบทุกประเทศทั่วโลก กลุ่มนี้ไม่มีสถานะทางกฎหมายที่ยอมรับให้เป็นพลเมืองของประเทศที่พวกเขาอาศัยอยู่ พวกเขาจึงถูกปฏิเสธสิทธิและการคุ้มครองขั้นพื้นฐาน และทำให้เสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์และการปฏิบัติด้วยความรุนแรงอย่างปราศจากมนุษยธรรม

สำหรับพลเมืองทั่วไป ชีวิตของพวกเขาจะถูกทำให้กลายเป็น “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า” เมื่อรัฐประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งรัฐจะระงับกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของพลเมือง และสามารถกักขังบุคคลได้โดยไม่ต้องมีกระบวนการทางกฎหมายที่ดังที่ปฏิบัติตามปกติ ซึ่งเกิดความพร่ามัวระหว่างเส้นแบ่งระหว่างพลเมืองที่จะต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายกับ และการเป็นพลเมืองที่ถูกทำให้กลายเป็น  “มนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่า”

ยังมีกลุ่มหนึ่งที่มักถูกรัฐทำให้กลายเป็นมนุษย์ที่ชีวิตไร้คือ กลุ่มคนชายขอบและกลุ่มคนที่ถูกกีดกันจากสังคม แม้ว่ากลุ่มเหล่านี้จะอยู่ในกรอบที่ดูเหมือนได้รับการคุ้มครองจากกฎหมาย กลุ่มบางกลุ่ม แต่มักถูกละเลยและถูกมองว่าไร้ค่า เช่น คนไร้บ้าน คนป่วยทางจิต และผู้อพยพที่ไม่มีเอกสาร กลุ่มคนเหล่านี้มักจะถูกแยกออกจากการคุ้มครองทางกฎหมายเต็มรูปแบบ ซึ่งทำให้พวกเขาเสี่ยงต่อการถูกกระทำด้วยความรุนแรงและการละเลยจากรัฐ

การวิเคราะห์ของอกัมเบนเกี่ยวกับสภาวะของข้อยกเว้นและมนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่ามีผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อความเข้าใจในการปกครองร่วมสมัยและศักยภาพในการใช้อำนาจในทางที่ผิด โดยเปิดเผยวิธีการที่รัฐสามารถใช้สถานการณ์พิเศษในการควบคุมและปราบปรามผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง ซึ่งมักจะต้องสูญเสียสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และเป็นการเปิดเผยให้เห็นถึงด้านที่มืดดำของรัฐและการพังทลายของเสรีภาพของพลเมืองในนามของความมั่นคงของชาติ

นอกจากนี้ งานของอกัมเบนยังก่อให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับธรรมชาติของอำนาจรัฎฐาธิปัตย์และรากฐานของอำนาจทางการเมือง โดยการตรวจสอบให้เห็นว่าสภาวะของข้อยกเว้นดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะนำไปสู่การพิจารณาหลักการพื้นฐานของการกำกับดูแลการใช้อำนาจอย่างจริงจัง โดยการตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของมาตรการพิเศษ และผลกระทบต่อความเป็นอิสระและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพลเมือง

 โดยสรุป แนวคิดของจอร์จิโอ อากัมเบนเกี่ยวกับสภาวะของข้อยกเว้นและมนุษย์ที่ชีวิตไร้ค่าได้เสนอมุมมองที่สำคัญ ซึ่งทำให้สามารถวิเคราะห์พลวัตของการเมืองร่วมสมัยและการใช้อำนาจในทางที่ผิดที่อาจเกิดขึ้นได้ ด้วยการเน้นย้ำถึงวิธีการที่รัฐสามารถระงับบรรทัดฐานทางกฎหมายและทำให้บุคคลตกอยู่ในสภาวะเปราะบางและถูกกีดกัน และความจำเป็นในการคุ้มครองหลักการประชาธิปไตย เพื่อป้องกันการกัดเซาะสิทธิพลเมือง และเพื่อรักษาศักดิ์ศรีและเสรีภาพของบุคคลทุกคนในสังคม


กำลังโหลดความคิดเห็น